จากเหตุการณ์ที่กลุ่มติดอาวุธโพกหน้า บุกเข้าไปภายในห้องส่ง หรือสตูดิโอของสถานีโทรทัศน์ซีที (CT) ขณะออกอากาศสดในเมืองกัวยากิลเมืองท่าสำคัญของเอกวาดอร์เมื่อวันอังคารที่แล้ว บีบให้ผู้ประกาศและพนักงานคุกเข่าลงกับพื้นและมีเสียงปืนดังขึ้นหลายนัด ท่ามกลางเสียงกรีดร้องของผู้คน เป็นภาพเหตุการณ์ที่ปรากฎออกไปทั่วประเทศ ก่อนที่สถานีจะยุติการออกอากาศสดในเวลาต่อมา สร้างความหวาดกลัวให้ผู้ชมที่ได้ชมเหตุการณ์นี้แบบสดๆ อีกทั้งยังมีรายงานว่าผู้ก่อเหตุได้จับตัวประกันหลายคน
หนึ่งในผู้ก่อเหตุ ตะโกนว่า เขาตั้งใจจะส่งข้อความให้รับรู้ถึงผลที่ตามมากับ “การยุ่งกับมาเฟีย” ก่อนที่ตำรวจจะบุกเข้ามาแทรกแซงเหตุการณ์ และจับผู้ก่อเหตุไปอย่างน้อย13 คน และยังพบว่ามีอาวุธ ระเบิด และหลักฐานอื่นๆ ในจุดเกิดเหตุด้วย ขณะที่ตัวประกันส่วนใหญ่ปลอดภัยดีมีพนักงานบาดเจ็บ 2 คน และผู้ประกาศหลายคนตกใจแทบสิ้นสติ เพราะถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนจ่อหัวต่อหน้ากล้องถ่ายทอดสด จนคิดว่าตนเองจะต้องจบชีวิตไปแล้ว
เอกวาดอร์กำลังเข้าสู่ภาวะวิกฤตในสัปดาห์ที่ผ่านมา เหตุการณ์บุกสถานีโทรทัศน์นี้มีขึ้น หลังจากอดอลโฟ มาซิอัส ฉายา “ฟิโต” วัย 44 ปี หัวหน้าแก๊งยาเสพติดรายใหญ่“คอเนรอส” ได้แหกคุกออกนอกเรือนจำที่เขากำลังรับโทษจำคุกเป็นเวลา34 ปี เมื่อวันอาทิตย์พร้อมกับนักโทษอีกหลายสิบคน นำมาสู่การก่อเหตุจลาจลในเรือนจำหลายแห่ง และมีการจับเจ้าหน้าที่เรือนจำและตำรวจเป็นตัวประกัน และเกิดเหตุระเบิด 5 ครั้งในหลายเมือง
ประธานาธิบดีแดเนียล โนโบอา วัย 36 ปี ที่เพิ่งเข้ารับตำแหน่งเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2566 กล่าวว่าเป็นการก่อเหตุรุนแรงตอบโต้ที่รัฐบาลมีแผนจะสร้างเรือนจำมาตรการรักษาความปลอดภัยสูงสำหรับคุมขังหัวหน้าแก๊งอาชญากรรม เขาประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเป็นเวลา 60 วัน เมื่อวันจันทร์ ตามด้วยการประกาศรายชื่อแก๊งอาชญากรรมจำนวนมากให้เป็นกลุ่มก่อการร้ายในวันอังคาร และให้อำนาจกองทัพจัดการกับกลุ่มเหล่านี้ ล่าสุด ตำรวจและทหารเอกวาดอร์สนธิกำลังปฏิบัติการกวาดล้างแก๊งอาชญากรทั่วประเทศเจ้าหน้าที่ได้นำตัวสมาชิกแก๊งอาชญากร14 คน ที่จับกุมได้จากปฏิบัติการหลายครั้งในสัปดาห์ที่ผ่านมา แถลงข่าวนอกจากนี้ ยังสามารถยึดอาวุธได้อีกหลายรายการ
ขณะที่เปรูซึ่งเป็นประเทศเพื่อนบ้านของเอกวาดอร์ได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเมื่อวันที่ 9 มกราคมมีการเสริมกำลังทหารตามแนวพรมแดนทางเหนือที่ติดกับเอกวาดอร์ ส่งตำรวจลาดตระเวนและประจำการตำรวจที่ด่านข้ามพรมแดน เนื่องจากทั้งเปรูและเอกวาดอร์มีแผนจะเนรเทศนักโทษที่เป็นชาวต่างชาติออกนอกประเทศ ผู้นำเอกวาดอร์ประกาศเมื่อวันที่ 10 มกราคม ว่า จะเริ่มเนรเทศนักโทษเหล่านี้เพื่อลดความแออัดในเรือนจำและลดค่าใช้จ่าย ปัจจุบัน มีนักโทษชาวต่างชาติอยู่ในเรือนจำเอกวาดอร์หลายพันคน ส่วนใหญ่เป็นชาวโคลอมเบีย ตามมาด้วย เปรู และเวเนซุเอลา
สถานการณ์ความมั่นคงในเอกวาดอร์เลวร้ายลงตั้งแต่โรคโควิด-19 ระบาด เพราะทำให้เศรษฐกิจเสียหายหนัก ยอดผู้เสียชีวิตจากความรุนแรงทั่วประเทศเพิ่มขึ้นจากมากกว่า 4,500 คน ในปี 2565 เป็น 8,008 คนในปี 2566 ตามตัวเลขของรัฐบาล สถานการณ์ในประเทศเกิดความรุนแรงมากขึ้นในช่วงปีหลังๆ ที่ผ่านมา ส่วนหนึ่งมาจากความขัดแย้งระหว่างแก๊งค้ายาเสพติดและอาชญากรรมต่างๆ ที่ต้องการควบคุมพื้นที่เส้นทางการลักลอบค้ายาเสพติดไปยังสหรัฐฯ และยุโรป ที่ทำกำไรได้มหาศาล
ความหวาดกลัวมีมากขึ้น เมื่อ เฟอร์นานโด บีญาวิเซนซิโอผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีที่มีนโยบายต่อต้านการทุจริตถูกลอบสังหารในช่วง 2 สัปดาห์ก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีรอบแรกในเดือนสิงหาคม 2566 เขาเคยบอกก่อนเสียชีวิตว่า เขาถูกขู่ฆ่า จากแก๊งคอเนรอส ขณะที่รัฐบาลโทษว่า สถานการณ์ในประเทศเลวร้ายเพราะแก๊งค้ายาเสพติดเหล่านี้ฉวยโอกาสที่ระบบการควบคุมของรัฐอ่อนแอ แผ่ขยายอิทธิพลในเรือนจำ แย่งชิงอำนาจและก่อเหตุรุนแรงในเรือนจำ มีคนถูกสังหารจำนวนมากจนกลายเป็นเรื่องปกติ
ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงบางคนเชื่อว่า อาจมีเรือนจำมากถึงร้อยละ 25 จาก 36 แห่งทั่วประเทศ ที่ถูกกลุ่มแก๊งเหล่านี้ควบคุมเอาไว้ และใช้เป็นสถานที่ในการบัญชาการแก๊ง และรับสมัครสมาชิกในเรือนจำ ซึ่งประธานาธิบดีโนโบอา ให้คำมั่นว่าจะกลับไปควบคุมเรือนจำทั้งหมดเหล่านี้ให้ได้ โดยสัปดาห์ที่แล้ว โนโบอาประกาศว่าจะหาทางทำประชามติถึงมาตรการด้านความมั่นคง รวมถึงบทลงโทษที่หนักขึ้นสำหรับการก่ออาชญากรรม เช่น การฆาตกรรม และการลักลอบค้าอาวุธ รวมถึงการขยายขอบเขตอำนาจของกองทัพด้วย
โนโบอา ผู้นำรุ่นใหม่ ที่ขึ้นสู่อำนาจในเดือนพฤศจิกายน ประกาศ “แผนการฟีนิกซ์” เพิ่มมาตรการด้านความมั่นคง รวมถึงหน่วยงานข่าวกรอง,อาวุธทางยุทธวิธีสำหรับกองกำลังความมั่นคง คุมเข้มเรือนจำมากขึ้น และตรวจเช็คความมั่นคงทั้งในท่าเรือและสนามบิน แต่นั่นอาจต้องใช้งบประมาณมากถึง 800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 27,200 ล้านบาท และคาดว่าสหรัฐฯ จะช่วยในการจัดส่งอาวุธใหม่มูลค่าราว 200 ล้านดอลลาร์ให้กับเอกวาดอร์
โดย ดาโน โทนาลี
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี