วันจันทร์ ที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ผู้หญิง
รู้เรื่องยากับเภสัชจุฬาฯ : จัดระเบียบยาในตู้ยาประจำบ้าน

รู้เรื่องยากับเภสัชจุฬาฯ : จัดระเบียบยาในตู้ยาประจำบ้าน

วันจันทร์ ที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2567, 06.00 น.
Tag : ตู้ยาประจำบ้าน รู้เรื่องยากับเภสัชจุฬาฯ
  •  

ผ่านปีใหม่มาจวนจะหมดเดือนแรกของปีแล้ว เรามาดูกันสิว่ายาต่างๆ ในบ้านของเรามีอะไรที่เหลืออยู่บ้าง ใกล้หมดอายุหรือยัง หรือหมดอายุไปแล้ว เราจะได้เคลียร์ยาออกไปให้หมด ดีกว่าเก็บไว้แล้วไม่ได้ใช้ประโยชน์

ยาเป็นหนึ่งในปัจจัยสี่ ทุกๆ บ้านมียา ทั้งแบบที่ตั้งใจเก็บ และแบบที่เก็บไว้โดยไม่ได้ตั้งใจ เพราะฉะนั้น สัปดาห์นี้จึงขอชวนคุณผู้อ่านมาสำรวจตรวจสอบยาในบ้านกัน เพื่อจะได้จัดระเบียบยา


ขอถามว่าคุณผู้อ่านเก็บยากันไว้ที่ไหนบ้าง บางบ้านมีตู้ยาเป็นกิจลักษณะ บางบ้านไม่มีตู้ยาเป็นทางการ ก็อาจเก็บยาไว้ในลิ้นชัก หรือในกล่อง ซึ่งก็ถือได้ว่าเป็นตู้ยาของเรา ไม่ว่าจะเก็บยาไว้ที่ไหนก็ตาม อยากให้ทุกคนนำยาทุกตัวออกมา แล้วทำความสะอาดที่เก็บยา แล้วพิจารณาว่าจะเก็บยาอะไรไว้บ้าง หรือตัวไหนต้องทิ้งไป หรือตัวไหนควรนำไปบริจาคให้โรงพยาบาล

เรามาเริ่มจากยากินก่อน ยาน้ำจำพวกยาธาตุน้ำแดงน้ำขาว ยาลดกรด ยาระบาย ยาน้ำเชื่อม ยาแก้ไอที่เปิดขวดแล้ว หากไม่ได้เขียนวันที่เปิดไว้ แล้วจำไม่ได้แล้วว่าล่าสุดใช้ครั้งสุดท้ายเมื่อไร ขอให้ทิ้งไปเลย แม้จะยังไม่หมดอายุก็ตาม เพราะเมื่อเปิดขวดแล้วย่อมมีโอกาสที่เชื้อจุลินทรีย์ต่างๆ จะเข้าไปก่อโรค หรือยาน้ำได้ระเหยจนความเข้มข้นเปลี่ยนไป มีความเสี่ยงต่อสุขภาพหากนำไปใช้ และย้ำว่าในครั้งต่อไปเมื่อต้องใช้ยาน้ำต้องเขียนวันที่ใช้ยาครั้งแรกไว้เสมอ แต่อันที่จริงแล้วเป็นเรื่องยากกับการควบคุมคุณภาพยา หากผู้ผลิตยาไม่ได้ระบุว่ายาที่เปิดใช้แล้วจะอยู่ได้นานเท่าไร เพราะยาแต่ละชนิดมีความคงตัวไม่เท่ากัน สภาวะการเก็บรักษาที่ต่างกันไม่ว่าจะเป็นอุณหภูมิ ความชื้น และแสง คงบอกได้คราวๆ แค่ว่ายาน้ำเปิดใช้แล้วเกิน 6 เดือนก็ต้องทิ้งไป หรือแม้ว่าอาจไม่ถึง 6 เดือนแต่ถ้าสีและกลิ่นเปลี่ยนไปจากเดิมก็ต้องทิ้งเช่นกัน และยาที่เราจิบจากขวดโดยตรง จำพวกยาแก้ไอ หากใช้ไม่หมดภายใน 2-3 วันก็ควรทิ้งเช่นกัน ไม่ควรนำมาเก็บไว้ เพราะปนเปื้อนเชื้อจากในช่องปากเราแล้ว

ส่วนยาเม็ด ถ้าเป็นยาที่บรรจุในแผงแบบแยกเม็ด ก็อาจจะเก็บไว้ได้จนถึงวันหมดอายุ แต่ถึงอย่างนั้น ก็ควรตรวจสอบก่อนว่าแผงยายังอยู่ในสภาพดี ไม่ฉีกขาด รั่วซึม หรือบวมเต่งผิดไปจากเดิมเพราะนั่นหมายความว่ายาในแผงอาจจะเสื่อมคุณภาพแล้ว ซึ่งต้องทิ้งเช่นกัน 

สำหรับยาแบบเม็ดเปลือยที่บรรจุในขวดแบบ 30, 60 หรือ 100 เม็ด อันนี้ก็ยึดหลักการคล้ายกันกับยาน้ำคือ หลังเปิดขวด 6 เดือนควรทิ้งไป เพราะอาจมีปัญหาความชื้น การปนเปื้อนเชื้อ ทำให้ไม่ปลอดภัยในการใช้ และถ้ามีลักษณะทางกายภาพเปลี่ยนไป เช่น สีเม็ดยาเปลี่ยน เข้มขึ้น ซีดจางลง ยาเม็ดเคลือบที่เคยมันวาวมีลักษณะด้านๆ ขึ้นๆ มีจุดเหมือนตกกระบนเม็ดยา หรือยาเม็ดแคปซูลนิ่มมีลักษณะบวมเยิ้มติดกัน ก็ต้องทิ้งเช่นกัน

สำหรับยาใช้ภายนอก เช่น ยาทาแผลโพวิโดน-ไอโอดีน น้ำเกลือล้างแผล แอลกอฮอล์เช็ดแผล ของพวกนี้มักเจอว่าเปิดใช้แล้วตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้ ก็อาจต้องทิ้งเช่นกัน หากเปิดใช้ครั้งแรกนานมากแล้ว แต่หากเป็นแอลกอฮอล์ขวดใหญ่ 450 มิลลิลิตร ที่เหลือเกินครึ่งขวด แต่เปิดเมื่อไรก็ไม่รู้ ก็ขอให้ตัดใจทิ้งไป เพราะแอลกอฮอล์ที่เหลืออยู่นั้นไม่สามารถมั่นใจได้เลยว่าเหลืออยู่กี่เปอร์เซ็นต์ 

ส่วนยาใช้ภายนอกอื่นๆ เช่น ยาครีมทาแก้คัน ยาน้ำคาลาไมน์ ยาเหล่านี้หากเปิดใช้แล้วก็ควรทิ้งหลัง 6 เดือนเช่นกัน

สุดท้ายคือยาสำหรับตา ไม่ว่าจะเป็นยาหยอดตา หรือยาป้ายตาที่ใช้รักษาโรคที่เป็นครั้งๆ เมื่อหายจากโรคแล้วก็ไม่ควรเก็บไว้อีก โดยเฉพาะเมื่อไม่แน่ใจว่าใช้ยาครั้งแรกเมื่อไร เพราะเสี่ยงจากการปนเปื้อนเชื้อโรค ทำให้เกิดอันตรายกับดวงตา อาจตาบอดได้ โดยทั่วไปยาสำหรับตาที่เปิดใช้แล้ว ถ้าเก็บรักษาอย่างถูกต้อง สามารถเก็บไว้ได้ 30 วัน

นอกจากยา แล้วในตู้ยาอาจมีเวชภัณฑ์ที่ไม่ใช่ยา เช่น พลาสเตอร์ปิดแผล ผ้าก๊อซ ซึ่งจริงๆ แล้วก็ควรอยู่ในภาชนะบรรจุปิดสนิทที่มีวันหมดอายุกำกับ เพราะของพวกนี้ใช้กับแผล จึงต้องปราศจากเชื้อ ดังนั้นหากพบว่ามันถูกเปิดแล้วแต่ไม่ได้ใช้หรือใช้ไม่หมด ก็ทิ้งได้เลย เพราะมันอาจไม่อยู่ในสภาพปลอดเชื้อ แต่สำหรับพลาสเตอร์ชนิดที่ไม่ได้สัมผัสกับแผลตรงๆ อาจจะพอเก็บไว้ใช้ได้ถ้ากาวยังไม่เยิ้มหรือเปื่อยยุ่ย แต่ถ้าเป็นแบบสัมผัสกับแผลเปิดตรงๆ ก็ไม่ควรเสี่ยงนำมาใช้อีก เพราะอาจทำให้แผลติดเชื้อได้

จากที่กล่าวมาทั้งหมด ต้องย้ำว่าข้อพึงปฏิบัติสำหรับการจัดการยาสามัญประจำบ้าน คือ 

1 ไม่ควรมียาสำรองไว้มากเกินความจำเป็น  

2 ควรเลือกซื้อขนาดบรรจุที่เล็กที่สุด 

3 ยาเม็ดนั้น ถ้าเลือกได้ควรเลือกแบบบรรจุในแผง 

4 ควรเขียนวันที่เปิดใช้ยาไว้เสมอ 

5 ตรวจสอบวันหมดอายุก่อนใช้ยาและเวชภัณฑ์ทุกครั้ง 

6 สังเกตและจดจำลักษณะปกติของยาที่ใช้บ่อยๆ เพื่อจะทราบได้ทันทีที่ยาเกิดความเปลี่ยนแปลงก่อนใช้หรือไม่

7 หมั่นตรวจสอบตู้ยาและกล่องยาทุก 6 เดือน เพื่อลดความเสี่ยงการเก็บยาเสื่อมคุณภาพไว้ในบ้าน

8 ยาเสื่อมคุณภาพหรือยาหมดอายุคือขยะพิษ ห้ามทิ้งรวมกับขยะอื่นๆ เพราะจะปนเปื้อนเป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม วิธีทิ้งที่ถูกต้องคือนำใส่ภาชนะบรรจุปิดสนิท เช่น ถุงพลาสติกมัดปากให้แน่น เขียนบนถุงว่าขยะพิษยาหมดอายุ แยกไว้ให้พนักงานเก็บขยะเอาไปจัดการให้เหมาะสม เพื่อให้มั่นใจว่ายาเสื่อมคุณภาพจะไม่เป็นปัญหาสิ่งแวดล้อม หรือไม่ก็รวบรวมใส่ถุงแล้วนำไปฝากทิ้งที่ร้านยาคุณภาพ เพราะร้านยาเหล่านี้ช่วยรวบรวมไปทำลายอย่างถูกต้อง โดยหนึ่งในร้านยาคุณภาพก็คือ โอสถศาลา สถานปฏิบัติการเภสัชกรรมชุมชนของคณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย อยู่ที่ถนนพญาไทตรงข้าม MBK โดยคุณแวะไปขอคำแนะนำการใช้ยา และปรึกษาปัญหาสุขภาพได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 08.00-18.00 น.วันเสาร์ 10.00-18.00 น.

 

รศ.ภญ.ดร.ณัฏฐดา อารีเปี่ยม และ รศ.ภก.ดร.บดินทร์ ติวสุวรรณ

คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • รู้เรื่องยากับเภสัชจุฬาฯ : โรคเบาหวานรักษาได้ รู้เรื่องยากับเภสัชจุฬาฯ : โรคเบาหวานรักษาได้
  •  

Breaking News

กต.แถลงกลางดึก! 'ไทย' ผิดหวัง 'กัมพูชา' ขาดความจริงใจบนพื้นฐานเพื่อนบ้านที่ดี

จับตา! นายกฯเรียกหน่วยงานเกี่ยวข้องถกด่วน ผลประชุม JBC กำหนดแนวทางปฏิบัติ

สภาพอากาศวันนี้! กรมอุตุฯเตือน 27 จังหวัด ระวังโดนฝนถล่ม-กทม.ไม่รอด

‘ทวี’ปิดปากเงียบ ส่ง‘แม้ว’ชั้น14ไม่ผ่านราชทัณฑ์ โยนศาลฎีกาฯเป็นคนพิจารณา

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved