วันเสาร์ ที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ผู้หญิง
รู้เรื่องยากับเภสัชจุฬาฯ : โรคเบาหวานรักษาได้

รู้เรื่องยากับเภสัชจุฬาฯ : โรคเบาหวานรักษาได้

วันจันทร์ ที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2568, 06.00 น.
Tag : รู้เรื่องยากับเภสัชจุฬาฯ โรคเบาหวาน
  •  

สัปดาห์ก่อนได้บอกเล่าเรื่องโรคเบาหวาน แล้วชี้ว่าผู้ป่วยเบาหวานมีจำนวนมาก และหากผู้ป่วยเหล่านั้นคุมโรคไม่ดีจะเกิดภาวะแทรกซ้อน อันเป็นสาเหตุการป่วยและตายได้ก่อนวัยอันควร แต่สำหรับนักวิจัยสายสุขภาพก็พยายามหาวิธีการและคิดค้นยาตัวใหม่ที่ใช้รักษาโรคเบาหวานตลอดเวลา ทำให้ปัจจุบันมียาหลากหลายกลุ่มที่ใช้ควบคุมระดับน้ำตาล ชะลอโรค และลดอัตราการตายในผู้ป่วยเบาหวานได้อย่างน่าพอใจ

ก่อนทำความรู้จักกับยารักษาโรคเบาหวาน เราไปรู้จักฮอร์โมนอินซูลินกันก่อน อินซูลินเป็นฮอร์โมนที่ผลิตจากตับอ่อน มีหน้าที่ช่วยนำน้ำตาลจากอาหารที่เรากินเข้าไปสู่เซลล์เพื่อใช้เป็นพลังงาน หากไม่มีอินซูลิน น้ำตาลจะค้างอยู่ในกระแสเลือด แล้วทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น


ผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวาน อาจเกิดจากความผิดปกติของการสร้างอินซูลิน หรืออินซูลินที่มีอยู่ในร่างกายทำงานไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอ ดังนั้น ยาที่ใช้รักษาโรคเบาหวานจะออกฤทธิ์เกี่ยวกับอินซูลินและน้ำตาลในเลือด ยาบางชนิดอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะได้

ปัจจุบันมีนวัตกรรมของยาเบาหวานหลากหลายประเภท ทำให้เลือกใช้ได้เหมาะกับผู้ป่วยที่มีภาวะที่แตกต่างกันเช่น ยาที่ออกฤทธิ์กระตุ้นตับอ่อนให้หลั่งอินซูลินเพิ่มขึ้น ยาที่เพิ่มความไวของเซลล์ต่ออินซูลิน ทำให้ลดภาวะดื้อต่ออินซูลิน หรือยาที่ช่วยขับน้ำตาลออกทางปัสสาวะ และยังมียาที่ยับยั้งการย่อยคาร์โบไฮเดรต ทำให้ระดับน้ำตาลเพิ่มขึ้นแบบช้าๆ

แต่ยาบางชนิดให้ผลข้างเคียงที่เป็นประโยชน์กับผู้ป่วยเบาหวานด้วย เพราะยาบางตัวช่วยลดความอยากอาหาร จึงช่วยลดน้ำหนักในผู้ป่วยที่อ้วน และยังลดความเสี่ยงโรคหัวใจ โรคไต แต่ก็มียาบางชนิดที่จะทำให้เกิดผลข้างเคียงในด้านลบ ดังนั้น ผู้ป่วยจึงต้องระวังไว้ เช่น ยาอาจทำให้เกิดภาวะน้ำตาลต่ำเกินไป ในกรณีใช้ยาไม่เหมาะสมหรือยาบางชนิดเพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ เพราะยาช่วยทำให้ร่างกายขับน้ำตาลออกทางปัสสาวะ เป็นต้น

นอกจากคิดค้นยาสำหรับกินเพื่อรักษาโรคได้มากมายแล้ว ยังมียาฉีดอินซูลิน สำหรับผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 1 ที่มีปัญหาตับอ่อน ไม่สามารถสร้างอินซูลินได้ หรือใช้กับผู้ป่วยที่ไม่สามารถควบคุมระดับน้ำตาลด้วยยาชนิดอื่น ซึ่งข้อดียาฉีดอินซูลินคือควบคุมระดับน้ำตาลได้ดี แต่ข้อเสียคือต้องฉีดยา และบางกรณีมีความเสี่ยงต่อภาวะน้ำตาลต่ำ

แน่นอนว่าการเลือกใช้ยาขึ้นกับแพทย์ผู้รักษา ซึ่งต้องพิจารณาตามความรุนแรงของโรค การทำงานของตับไตของผู้ป่วย รวมถึงโรคร่วมต่างๆ แต่ก็ยังมีผู้ป่วยเบาหวานจำนวนมากที่เมื่อแรกป่วยก็ใช้ยา 1-2 รายการ ต่อมาจำนวนยาก็เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เพราะโรคมีความรุนแรงขึ้น ส่วนหนึ่งอาจเพราะเมื่อกินยาไปแล้ว แต่ก็ไม่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน แต่อีกส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะกินยาบ้าง ลืมกินยาบ้าง หรือบางรายไม่ลืม แต่ตั้งใจไม่กิน เพราะกลัวว่าถ้ากินยาแล้วจะทำให้ตับไตเสียหาย จึงทำให้ควบคุมโรคไม่ได้

แต่ก็มีอีกไม่น้อยที่เริ่มต้นมียา 2-3 รายการ แต่ต่อมาจำนวนยาลดลง เหลือแค่ตัวเดียวเท่านั้น เพราะว่าเขาปรับเปลี่ยนพฤติกรรมได้สำเร็จ ลดอาหารหวานๆ ลดการกินแป้งแล้วเพิ่มผักและเส้นใย แต่ที่สำคัญที่สุดคือออกกำลังกายเป็นประจำ ทำให้ร่างกายใช้พลังงานส่วนเกินหมดไป

เรื่องที่อยากย้ำและปรับความเข้าใจเพื่อไม่ให้เข้าใจผิดคือผู้ป่วยต้องกินยาให้ถูกต้อง และสม่ำเสมอ และต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อให้สามารถควบคุมโรคได้ดี แต่ถ้าผู้ป่วยเบาหวานไม่สามารถควบคุมโรคได้ เพราะไม่ยอมกินยา และไม่ปรับพฤติกรรม จะเกิดภาวะแทรกซ้อนตามมา เช่น ไตวาย ตามีปัญหาจนอาจมองไม่เห็น เป็นแผลรักษายาก จนต้องตัดอวัยวะที่เป็นแผลเรื้อรังทิ้ง เป็นต้น

ขอย้ำว่า โรคเบาหวานรักษาได้ และในปัจจุบันมียารักษาที่มีประสิทธิภาพดีมากๆ เพียงแค่เราต้องเข้าใจโรค ใช้ยาให้ถูกต้อง ปรับเปลี่ยนเรื่องอาหารการกิน และหมั่นออกกำลังกาย เราก็เอาชนะและควบคุมโรคนี้ได้ แต่ที่สำคัญคือเราต้องตรวจคัดกรองเบาหวาน เพื่อให้รู้แต่เนินๆ ว่าเราเป็นโรคนี้หรือไม่ หากรู้เร็ว ก็รักษาให้หายได้ไม่ยาก

หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับโรคเบาหวาน หรือเรื่องยา โปรดสอบถามที่ line @guruya ของคณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

รศ.ภญ.ดร.ณัฏฐดา อารีเปี่ยม และ รศ.ภก.ดร.บดินทร์ ติวสุวรรณ

คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • รพ.ธรรมศาสตร์ฯ ผนึก โนโว นอร์ดิสค์ ยกระดับการดูแลโรคอ้วน-โรคเบาหวาน รพ.ธรรมศาสตร์ฯ ผนึก โนโว นอร์ดิสค์ ยกระดับการดูแลโรคอ้วน-โรคเบาหวาน
  • รู้เรื่องยากับเภสัชจุฬาฯ : จัดระเบียบยาในตู้ยาประจำบ้าน รู้เรื่องยากับเภสัชจุฬาฯ : จัดระเบียบยาในตู้ยาประจำบ้าน
  •  

Breaking News

รัฐบาลจัดไว้อาลัย ปชช.ผู้บริสุทธิ์ เหตุเขมรยิงBM-21 เข้าใส่พลเมืองไทย

‘ทบ.’ยันทหารไทยควบคุมพื้นที่ได้เพิ่ม ตรึงกำลัง‘ช่องอานม้า-อนุสาวรีย์ตาอม’สำเร็จ ตั้งกฎ 4 ข้อ

เผยภูมิหลังบ้านพลทหารกล้า 'ธีรยุทธ กระจ่างทอง' อยู่บ้านไม่มีน้ำไฟ

เผยภูมิหลังบ้านพลทหารกล้า 'ธีรยุทธ กระจ่างทอง' อยู่บ้านไม่มีน้ำไฟ

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved