ภูเขาทอง
นับเป็นมหามงคลยิ่งสำหรับแผ่นดินแห่งพระพุทธศาสนา ด้วยวันที่ ๒๒ กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา คณะอัญเชิญ พระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันตธาตุของพระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะจากสาธารณรัฐอินเดีย นำโดย นายราเชนทร์ วิศวนาถ อัรเลกัร ผู้ว่าการรัฐพิหาร สาธารณรัฐอินเดีย ได้เดินทางมาถึงประเทศไทย โดยมีคณะสงฆ์ไทย นำโดย พระพรหมกวี กรรมการมหาเถรสมาคม (มส.) เจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตร พระธรรมโพธิวงศ์ เจ้าอาวาสวัดไทยพุทธคยา สาธารณรัฐอินเดีย หัวหน้าพระธรรมทูต สายประเทศอินเดีย-เนปาล พระธรรมวชิรมุนี กรรมการมส. ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ พร้อมด้วย นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมว.วัฒนธรรม (วธ.) เป็นผู้แทนฝ่ายไทย ได้ เป็นประธานพิธีรับการอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันตธาตุของพระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะ ในโอกาสที่รัฐบาลไทยและอินเดีย โดยกระทรวงวัฒนธรรมของทั้งสองประเทศ สถาบันโพธิคยา ๙๘๐ สถานทูตอินเดียประจำประเทศไทย ได้ร่วมกันอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุจากพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติอินเดีย และพระอรหันตธาตุของพระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะ จากพิพิธภัณฑสถานเมืองสาญจี มาประดิษฐานเป็นการชั่วคราวยังประเทศไทย เพื่อ เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๗ และเปิดโอกาสให้ศาสนิกชนได้สักการบูชา นับเป็นมหามงคลอันยิ่งใหญ่และสูงสุดต่อชีวิต การมาเยือนขององค์พระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันตธาตุ พระธาตุศักดิ์สิทธิ์ครั้งนี้ ไม่บ่อยนักที่อินเดียจะอัญเชิญนำออกนอกประเทศ รัฐบาลอินเดีย นำโดย นายกรัฐมนตรีนเรนทระ โมที ได้ตกลงส่งพระบรมสารีริกธาตุฯมายังประเทศไทยโดยคำนึงถึงความสำคัญสูงสุดในการเฉลิมพระชนมพรรษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และเพื่อความสัมพันธ์อันใกล้ชิดดั่งญาติมิตรของระหว่างสองประเทศ
พิธีอัญเชิญ
พระบรมสารีริกธาตุที่อัญเชิญนี้ถูกค้นพบจากสถูปโบราณ เมืองปิปราห์วา เมื่อ พ.ศ.๒๔๔๑ สันนิษฐานว่าเป็นที่ตั้งของ กรุงกบิลพัสดุ์ในสมัยพุทธกาล มีหลักฐานยืนยันเป็นจารึกอักษรพราหมีบนผอบที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ส่วนพระอรหันตธาตุของพระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะถูกค้นพบเมื่อ พ.ศ. ๒๓๙๔ บรรจุในผอบซึ่งมีจารึกอักษรพราหมีเป็นเครื่องยืนยันว่าเป็นพระอรหันตธาตุของพระอัครสาวกทั้งสองที่ได้อัญเชิญมาครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ๒๕๖๗ ปีที่พระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันตธาตุของพระอัครสาวกทั้งสององค์เสด็จมาพร้อมกันเป็นครั้งแรกแม้ว่าได้มีก่อนนั้นจะได้มีอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุมาเมื่อ พ.ศ. ๒๔๔๒ โดยรัฐบาลอินเดียได้ถวายพระบรมสารีริกธาตุ ที่ขุดได้จากเนินพระเจดีย์เก่าที่เมืองกบิลพัสดุ์ บรรจุอยู่ภายในผอบที่มีอักษรพราหมี หรือ เมาริยะ จารึกไว้ว่า “พระบรมสารีริกธาตุนี้ เป็นของพระพุทธเจ้า (สมณโคดม)ตระกูลศากยราช ได้รับแบ่งปันในเวลาถวายพระเพลิงพุทธสรีระ” ให้แด่รัชกาลที่ ๕ ซึ่งพระองค์ได้โปรดเกล้าฯให้นำมาบรรจุใว้ในองค์พระเจดีย์ภูเขาทองปัจจุบันนี้ โอกาสที่ชาวไทยปัจจุบันจะได้สักการะองค์พระบรมสารีริกธาตุองค์จริงนั้นจึงหาได้ยากมาก วันที่ ๒๓ กุมภาพันธ์ เวลา ๑๗.๐๐ น. สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เสด็จเป็นประธานฝ่ายสงฆ์ในพิธีอัญเชิญประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ โดยมี นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เป็นประธานฝ่ายฆราวาส โดยจัดริ้วขบวนอัญเชิญอย่างยิ่งใหญ่ด้วย และเปิดให้ประชาชนเข้าสักการบูชา วันที่ ๒๔ กุมภาพันธ์-๓ มีนาคม เวลา ๐๙.๐๐-๒๐.๐๐ น. ก่อนจะให้ชาวไทยภาคเหนือภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคใต้ได้สักการะต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี