เว็บไซต์ Gofundme ซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่ระดมทุนหาเงินค่าใช้จ่ายและรักษา พอล อเล็กซานเดอร์ ผู้ป่วยโปลิโอและต้องใช้ชีวิตในเครื่อง “ปอดเหล็ก”ซึ่งเป็นกระบอกโลหะขนาดใหญ่ที่เปลี่ยนความกดอากาศเพื่อกระตุ้นการหายใจแถลงว่า พอล อันเป็นที่รัก ได้จากไปแล้วเมื่อวันจันทร์ที่ 11 มีนาคมที่ผ่านมา ขณะมีอายุ 78 ปี ในข้อความไม่ได้กล่าวถึงสิ่งที่ได้พรากชีวิตชายปอดเหล็กคนนี้เอาไว้ แต่เมื่อ 3 สัปดาห์ที่ผ่านมาพอล ติดเชื้อโควิด-19 และเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล เข้าใช้เวลาในการรักษา 2 สัปดาห์ เมื่อแพทย์พบว่าไม่มีเชื้อไวรัสในร่างกายเขา พอลก็ได้กลับบ้าน แต่ 1 สัปดาห์ต่อมา โลกก็สูญเสียชายผู้ไม่ย่อท้อต่อความพิการจากเชื้อโปลิโอ และใช้ชีวิตในเครื่องสร้างความดันให้ปอดมาเกือบตลอดชีวิต จนได้รับการบันทึกจาก กินเนสส์ เวิลด์ เรคคอร์ดส์ ว่าเป็นบุคคลที่ใช้ชีวิตอยู่ในปอดเหล็กเป็นเวลานานที่สุดในโลก
พอล อเล็กซานเดอร์ เป็นชายคนสุดท้ายที่มีชีวิตอยู่ในปอดเหล็ก เขาติดเชื้อโปลิโอตอน ปี 1952 ขณะอายุได้ 6 ขวบ ซึ่งเป็นช่วงเกิดการระบาดของโรคโปลิโอครั้งใหญ่ในสหรัฐฯเด็กหลายร้อยคนทั่วดัลลัส รัฐเท็กซัส รวมถึงพอล ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล ที่นั่นเด็กๆ ได้รับการรักษาในแผนกปอดเหล็ก พอลก็เป็น 1 ในนั้น เขาต้องพักรักษาตัวในโรงพยาบาลเป็นเวลา18 เดือนก่อนจะกลับบ้าน เขาเป็นอัมพาตตั้งแต่คอลงมา พ่อแม่ของเขาเช่าเครื่องกำเนิดไฟฟ้าแบบพกพาและรถบรรทุกเพื่อพาเขาและปอดเหล็กกลับบ้าน
แต่พอลไม่ย่อท้อต่อข้อจำกัดที่เกิดขึ้นกับชีวิต เขาเป็น 1 ในนักเรียนโฮมสกูล เรียนรู้ทุกอย่างด้วยการจดจำแทนที่จะจดบันทึก เขาได้รับปริญญาตรีในปี 1981 สาขานิติศาสตร์และพอลสามารถทำงานเป็นทนายความ ในห้องพิจารณาคดีเป็นเวลา 30 ปี นอกจากนี้ เขายังตีพิมพ์อัตชีวประวัติของตัวเองชื่อ Three Minutes for a Dog : My Life in an Iron Lung พอลบอกกับ CNN ในปี 2022 ว่า เขากำลังทำหนังสือเล่มที่ 2 อยู่ โดยสาธิตกระบวนการเขียนโดยใช้ปากกาผูกติดกับแท่งพลาสติกและคาบไว้ในปาก เพื่อแตะแป้นพิมพ์คีย์บอร์ด
ไม่กี่เดือนมานี้ก่อนที่พอลจะเสียชีวิต เขาได้เริ่มสนทนาติดต่อกับแฟนคลับที่มีผู้ติดตามถึง 300,000 คนและตอบคำถามเกี่ยวกับการต้องใช้ชีวิตอยู่ภายใน “เครื่องปอดเหล็ก” ขณะที่ก่อนหน้านั้นในปี 2020 ช่วงการระบาดรุนแรงของโควิด-19 พอลเคยให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์เดอะการ์เดียนของอังกฤษ เปรียบเทียบวิกฤตการระบาดโรคโปลิโอของสหรัฐฯในยุค 50 และการระบาดวิกฤตโควิด-19ที่เกิดขึ้นทั่วโลก ว่ามันเหมือนกันทุกอย่าง จนทำให้เขากลับและเกือบเป็นบ้า
อะไรคือ “เครื่องปอดเหล็ก”
“เครื่องปอดเหล็ก” (Iron Lung / Drinker Respirator) ถูกคิดค้นขึ้นโดย ฟิลลิป ดริงเกอร์ (Phillip Drinker) และ หลุยส์ อกาสสิซ ชอว์ (Louis Agassiz Shaw) แห่งโรงเรียนแพทย์ฮาร์วาร์ด เป็นเครื่องช่วยหายใจชนิดใช้แรงขับดันลบ (Negative pressure ventilation) นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายในช่วงกลางของศตวรรษที่ 19 เมื่อโรคโปลิโอระบาดในสหรัฐฯ ผู้ติดเชื้อรายที่เชื้อเข้าสู่ไขสันหลัง จะมีอาการกล้ามเนื้อแขนหรือขาอ่อนแรง และอาการอันตรายที่สุด คือ อาการอัมพาตของกล้ามเนื้อที่ช่วยในการหายใจ ได้แก่ กล้ามเนื้อกระบังลม และกล้ามเนื้อระหว่างช่องซี่โครง ผู้ป่วยจึงไม่สามารถหายใจด้วยตัวเองได้ ดังนั้นการรักษาชีวิตของผู้ป่วยโรคโปลิโอขั้นร้ายแรง จึงจำเป็นต้องใช้ “ปอดเหล็ก”ทำหน้าที่ช่วยหายใจ
จากข้อมูลพบว่า สหรัฐฯ เผชิญการระบาดโรคโปลิโอหนักสุดในปี 1952 สร้างความแตกตื่นให้บรรดาพ่อแม่ชาวอเมริกัน โดยในปีนั้นมีรายงานเคสป่วย 57,628 รายในจำนวนนี้เสียชีวิต 3,145 ราย และอีก 21,269 ราย ต้องป่วยตั้งแต่อาการขั้นต้นไปจนถึงขั้นอัมพาตถาวร เครื่องมือ “ปอดเหล็ก” จึงกลายเป็นสัญลักษณ์การต่อสู้โรคโปลิโอในยุค 50ของสหรัฐฯ อย่างไรก็ดี หลังมีการพัฒนาวัคซีนในช่วงปลายทศวรรษ 1950 อุปกรณ์ปอดเหล็กส่วนใหญ่ได้ถูกเลิกใช้ และมีการพัฒนาอุปกรณ์ช่วยหายใจอื่นๆ ที่สามารถสอดเข้าไปในลำคอผู้ป่วยโดยตรง
รู้จักโรคโปลิโอ
ข้อมูลจากกรมควบคุมโรคเปิดเผยว่า โรคโปลิโอ (Poliomyelitis)เกิดจากเชื้อไวรัสโปลิโอ มี 3 สายพันธุ์ได้แก่ สายพันธุ์ 1, 2 และ 3 ก่อให้เกิดอาการอักเสบของไขสันหลัง ส่งผลให้กล้ามเนื้อแขนและขาเป็นอัมพาต เป็นโรคติดต่อที่สร้างความทุกข์ทรมานแก่เด็กเป็นจำนวนมาก ผู้ป่วยบางส่วนมีอาการรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้ ส่วนรายที่รอดชีวิตต้องประสบกับความพิการช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ เชื้อไวรัสโปลิโอนี้จะพบในคนเท่านั้น เชื้อสามารถแบ่งตัวเพิ่มจำนวนได้ในลำไส้ของคนที่ไม่มีภูมิต้านทานและอยู่ภายในลำไส้ 1-2 เดือน เมื่อเชื้อไวรัสถูกขับถ่ายออกมาภายนอกร่างกายจะไม่สามารถเพิ่มจำนวนได้ แต่เชื้อจะอยู่ในสิ่งแวดล้อมได้เป็นสัปดาห์หรือเดือน
โรคโปลิโอมีระยะเวลาฟักตัวตั้งแต่ระยะสั้น 3-4 วัน หรืออาจนานเป็นเดือน เมื่อฟักตัวเสร็จสามารถแพร่เชื้อได้ 7 วันก่อนมีอาการ โดยเชื้อจะอยู่ในคอหอยประมาณ 1 สัปดาห์ และอยู่ในอุจจาระได้นานประมาณ 1-2 เดือน หรือนานเป็นปีในรายที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง โรคโปลิโอ สามารถติดต่อจากคนสู่คน (person-to-person)โดยการรับเชื้อได้จากหลายทางส่วนใหญ่ผ่านทางการดูดกลืนหรือสูดเชื้อทางจมูกหรือผ่านทางสารคัดหลั่ง
โปลิโอ ป้องกันได้ด้วยวัคซีนมีให้เลือกทั้งวัคซีนโปลิโอชนิดรับประทาน (Oral polio vaccine :OPV, Sabin) และวัคซีนโปลิโอชนิดฉีด (Inactivated poliovaccine : IPV, Salk) โดยปัจจุบัน วัคซีนโปลิโอชนิดรับประทาน ถือเป็นเครื่องมือสำคัญในการกวาดล้างโรคโปลิโออย่างยิ่ง เพราะสามารถป้องกันและกำจัดเชื้อโปลิโอสายพันธุ์ก่อโรคได้เป็นอย่างดี มีราคาถูกและมีวิธีการให้วัคซีนง่าย แต่มีข้อเสีย คืออาจทำให้เกิดอาการข้างเคียงคล้ายโรคโปลิโอ แต่โอกาสเกิดขึ้นน้อยมาก
โดย ดาโน โทนาลี
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี