NITORI (นิโตริ)แบรนด์เฟอร์นิเจอร์และสินค้าตกแต่งบ้านที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับ1ในประเทศญี่ปุ่น ภายใต้การบริหารงานโดยนายอากิโอะนิโตริ ประธานกรรมการบริหารและCEOบริษัท นิโตริ โฮลดิงส์ จำกัด (Nitori Holdings Co., Ltd.)จากเมืองซัปโปโร ทางตอนเหนือของประเทศญี่ปุ่น ตอกย้ำตัวจริงเรื่องแต่งบ้านครบวงจร พร้อมเดินหน้ารุกตลาดเฟอร์นิเจอร์และสินค้าตกแต่งบ้านของเมืองไทยอย่างต่อเนื่อง โดยจับมือพันธมิตรฯ บริษัทสยามทาคาชิมายะ (ประเทศไทย) เปิดตัวสาขาใหม่ล่าสุด สาขาที่ 5 สยามทาคาชิมายะณไอคอนสยามอย่างเป็นทางการ รับกำลังซื้อของผู้บริโภคและการขยายตัวของตลาดที่อยู่อาศัยในย่านกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันตกชูคอนเซ็ปท์ “ความคุ้มค่าเหนือราคา” ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนในพื้นที่ด้วยสินค้าเฟอร์นิเจอร์ของใช้ภายในบ้านและของแต่งบ้านคุณภาพดีจากประเทศญี่ปุ่นที่เข้าถึงง่าย เดินทางสะดวก และมีฟังก์ชันครบครัน เพื่อสร้างสีสันและความคึกคักให้กับตลาดสินค้าแต่งบ้านเมืองไทยรับซัมเมอร์ปี 2024 โดยพร้อมเปิดให้บริการเต็มรูปแบบแล้ววันนี้ ที่ชั้น UG ห้างสรรพสินค้าสยาม ทาคาชิมายะ ณไอคอนสยาม
นายทาเคดะมาซาโนริ (Mr. Takeda Masanori) รองประธานบริษัทบริษัทนิโตริโฮลดิงส์จำกัด กล่าวว่า “เพื่อเป็นการตอบรับกำลังซื้อที่เพิ่มขึ้นของผู้บริโภคในย่านเจริญนครและพื้นที่ใกล้เคียง ทางนิโตริกรุ๊ปจึงวางแผนเชิงรุกด้วยการเร่งขยายสาขาให้ครอบคลุมทั่วกรุงเทพฯ พร้อมเปิดตัวสาขาใหม่ล่าสุด ซึ่งนับเป็นสาขาที่ 5 ของเราอย่างเป็นทางการที่ห้างสรรพสินค้าสยามทาคาชิมายะณไอคอนสยาม เพื่อสร้างประสบการณ์และแรงบันดาลใจในการแต่งบ้านรูปแบบใหม่ๆ แก่กลุ่มผู้บริโภค ผ่านการจัดโซนแสดงสินค้าในรูปแบบห้องตัวอย่าง การตกแต่งภายในร้านที่สบายตาด้วยโทนสีขาวหรือการจัดวางสินค้าหน้าร้านแต่ละประเภทให้มีความหลากหลาย แบ่งหมวดหมู่ชัดเจน พร้อมสร้างความโดดเด่นด้วยฟังก์ชันการใช้งานที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตในบ้านอย่างลงตัว เพื่อยกระดับสู่การเป็นผู้นำสินค้าเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้านครบวงจรในอนาคต ซึ่งเรามองว่าสยาม ทาคาชิมายะ เป็นห้างสรรพสินค้าชั้นนำสัญชาติญี่ปุ่นที่เป็นเสมือนจุดศูนย์กลางของฝั่งธนบุรี โดยเปิดให้บริการสินค้าหลากหลายประเภท อีกทั้งยังตั้งอยู่ในย่านชุมชนขนาดใหญ่ การเดินทางสะดวกสบายเชื่อมต่อได้ทั้งทางรถยนต์รถประจำทางเรือโดยสาร และรถไฟฟ้าบีทีเอส ตลอดจนผู้บริโภคในพื้นที่ค่อนข้างมีกำลังซื้อ จึงถือเป็นการเปิดตลาดใหม่ที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของนิโตริ กรุ๊ปในฝั่งตะวันตกของกรุงเทพมหานคร ซึ่งเราหวังว่าการเปิดตัวสาขาที่ 5 ของเราในครั้งนี้จะได้รับการตอบรับที่ดีเช่นเดียวกับสาขาอื่นๆ เป็นที่ชื่นชอบของผู้บริโภคทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ตลอดจนช่วยขยายฐานลูกค้าในวงกว้าง พร้อมสร้างความหลากหลายในการใช้ชีวิตของผู้คน ผ่านการนำเสนอสินค้าในกลุ่มไลฟ์สไตล์ให้แก่ลูกค้าที่มาเยือนห้างสรรพสินค้าสยาม ทาคาชิมายะ ไอคอนสยามในอนาคต”
ทั้งนี้ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา นิโตริกรุ๊ป (Nitori Group)ซึ่งบริหารงานภายใต้โมเดลธุรกิจที่จัดการทุกกระบวนการด้วยตนเองอย่างครบวงจร ตั้งแต่การผลิตการขนส่งและการจัดจำหน่าย โดยมีแบรนด์สินค้าในเครือฯ มากมาย อาทิแบรนด์ NITORIธุรกิจจัดจำหน่ายสินค้าประเภทเฟอร์นิเจอร์และโฮมแฟชั่น, แบรนด์ DECO HOME สินค้าโฮมแฟชั่นยอดนิยมที่เน้นของใช้ในชีวิตประจำวัน, SHIMACHU โฮมเซ็นเตอร์ที่จำหน่ายครอบคลุมถึงอุปกรณ์ตกแต่งภายนอกอาคารและN+ แบรนด์เสื้อผ้าสำหรับผู้หญิงวัยทำงานเป็นต้น ซึ่งนับว่าได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าในทุกประเทศที่เข้าไปเปิดตลาด เนื่องจากมีจุดเด่นในเรื่องของนวัตกรรม เทคโนโลยีการผลิต การใส่ใจเรื่องคุณภาพที่จะส่งมอบความคุ้มค่าใหัลูกค้า และมีผลิตภัณฑ์หลากหลายประเภทที่มาพร้อม “ความคุ้มค่าเหนือราคา”ดังนั้นทางนิโตริ กรุ๊ปจึงให้ความสำคัญและมุ่งมั่นในการขยายเครือข่ายธุรกิจ โรงงาน บริษัทการค้า และความร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจให้ครอบคลุมทั่วภูมิภาคเอเชียอย่างเต็มกำลัง เพื่อเร่งสร้างสรรค์พื้นที่สำหรับการอยู่อาศัยที่ทั้งสนุกสนาน สมบูรณ์แบบ อบอุ่น ผ่อนคลาย และครบครันมากที่สุดให้แก่ผู้คนทั่วโลก ตามพันธกิจที่ว่า “มอบความเป็นอยู่ที่ดีแก่ผู้คนทั่วโลก”
โดย นิโตริ กรุ๊ป วางแผนเปิดร้านนิโตริทั่วเอเชียเพิ่มเติมให้ได้ถึง 3,000 สาขา เพื่อรองรับการเติบโตของชุมชนและสังคมในพื้นที่ต่างๆ พร้อมผลักดันยอดขายให้บรรลุเป้าหมายที่วางไว้ราว 720,000 ล้านบาท (ประมาณ 3 ล้านล้านเยน) ภายในปี 2032 โดยคาดการณ์ว่าตลาดสินค้าเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้านในภูมิภาคเอเชียมีแนวโน้มที่จะเติบโตอย่างรวดเร็ว ซึ่งสอดรับกับทิศทางตลาดโดยรวม การสานต่อพันธกิจตลอดจนวิสัยทัศน์ของบริษัทได้เป็นอย่างดี ดังนั้นการขยายเครือข่ายสาขาอย่างรวดเร็วจึงเป็นอีกหนึ่งนโยบายที่สำคัญของนิโนติ กรุ๊ป โดยปัจจุบัน (ข้อมูล ณ วันที่ 28 มีนาคม 2024)ร้านนิโตริมีสาขาทั่วภูมิภาคเอเชียทั้งหมด 993 สาขาแบ่งเป็นสาขาในประเทศญี่ปุ่น 817 สาขา และสาขาในต่างประเทศ ได้แก่ จีนฮ่องกงเกาหลีมาเลเซียสิงคโปร์ไทยและเวียดนาม จำนวน 176 สาขา ซึ่งจะเพิ่มเป็น 1,001 สาขาในช่วงปลายเดือนมีนาคม 2024 นี้ พร้อมวางแผนที่จะเปิดตัวสาขาแรกในประเทศฟิลิปปินส์อินโดนีเซียและอินเดียในลำดับต่อไป หลังได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากประเทศต่างๆ ที่ไปเปิดตัวสาขาเมื่อปี 2022 – 2023 ที่ผ่านมา โดยมีเป้าหมายที่จะเปิดสาขาใหม่ให้ครอบคลุมทั่วเอเชียมากขึ้นอีก 100 สาขา ภายในเดือนมีนาคม 2025 และคาดการณ์ว่าตั้งแต่ปี 2032 เป็นต้นไป ทางนิโตริ กรุ๊ปจะทำการเปิดสาขาใหม่ในต่างประเทศให้ได้ปีละประมาณ 200 แห่ง
นายอัตสึชิโอะคูโมริ (Mr. Atsushi Okumori) กรรมการผู้จัดการบริษัทสยามทาคาชิมายะ (ประเทศไทย) กล่าวว่า “ผมมีความยินดีและรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ร่วมเป็นพันธมิตรกับนิโตริกรุ๊ปด้วยความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างกันที่ ทาคาชิมายะ ประเทศญี่ปุ่นทำให้เกิดการเปิดตัวร้านนิโตริ สาขาสยามทาคาชิมายะณ ไอคอนสยาม เพื่อเป็นการตอกย้ำความเป็นห้างญี่ปุ่นขนานแท้แห่งเดียวในไทย ที่มีความครบครันในสินค้าญี่ปุ่น และการได้รับบริการในแบบฉบับญี่ปุ่น และจะช่วยเพิ่มยอดการจับจ่ายให้กับห้างฯ ได้อีกทางหนึ่ง โดยการเปิดตัวสาขาใหม่ในครั้งนี้ถือว่าเป็นครั้งแรกที่แบรนด์เฟอร์นิเจอร์และสินค้าตกแต่งบ้านยอดนิยมอันดับ1จากญี่ปุ่นมาเปิดให้บริการในพื้นที่ของห้างญี่ปุ่นในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งผมเชื่อว่าลูกค้าที่มาใช้บริการภายในห้างสรรพสินค้าสยาม ทาคาชิมายะ จะต้องตื่นตาไปกับสินค้าที่หลากหลายของร้านนิโตริพร้อมได้รับสิทธิพิเศษที่ทางห้างฯมอบให้ในช่วงเปิดร้าน นอกจากนี้การเปิดตัวของนิโตริจะช่วยสร้างสีสันและความคึกคักในการช้อปปิ้งให้กับผู้บริโภคในพื้นที่กรุงเทพฯ ฝั่งตะวันตก ให้มีชีวิตชีวามากยิ่งขึ้นอย่างแน่นอน”
ติดตามข่าวสารและข้อมูลเพิ่มเติมได้ทาง https://www.nitori.co.th
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี