พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์หรือสมเด็จพระปิยมหาราชเจ้า ทรงเป็นพระเจ้าแผ่นดินที่คนไทยระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณอยู่เสมอไม่เสื่อมคลายเพราะว่าทรงมีพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ต่อแผ่นดินสยาม หรือแผ่นดินไทยในปัจจุบัน
ใครก็ตามที่ได้ศึกษาประวัติศาสตร์ไทยในรัชสมัย รัชกาลที่ 5 จะต้องสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณในพระองค์ท่านอย่างมิต้องสงสัย เพราะทรงปกปักรักษาบ้านเมืองให้รอดพ้นจากภัยของลัทธิล่าอาณานิคมโดยมหาอำนาจตะวันตกในยุคประมาณเกือบ 200 ปีมาแล้ว โดยมหาอำนาจในยุคนั้นที่เข้ามาล่าอาณานิคมในแถบเอเชีย และเอเชียอาคเนย์ ได้แก่ อังกฤษและฝรั่งเศส
แต่ด้วยพระปรีชาสามารถในทุกๆ ด้าน พระองค์ท่านจึงทรงปัดเป่าให้ภัยจากการล่าอาณานิคมจางไปจากแผ่นดินสยามได้ แม้จะต้องเสียพื้นที่บางเขตไป แต่ก็ยังคงทรงรักษาเอกราชของสยามประเทศไว้ได้ ในขณะที่ประเทศรอบๆ สยามในยามนั้นล้วนต้องตกเป็นเมืองขึ้นของมหาอำนาจทั้งสิ้น
วันนี้ Mr.Flower ขอพาคุณไปยังแหล่งประวัติศาสตร์ที่เป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างจังหวัดชุมพรกับระนอง ที่หลักกิโลเมตร 86 บนถนนเพชรเกษม เพื่อไปกราบถวายบังคมพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระปิยมหาราชเจ้า และกราบถวายบังคมพระปรมาภิไธยย่อ จปร. รวมถึงพระปรมาภิไธยย่อ ภปร. ในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และพระนามาภิไธยย่อ สก ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และพระนามาภิไธยย่อ สธในสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี โดยทั้งพระปรมาภิไธยย่อ จปร. และภปร. รวมถึงพระนามาภิไธย สก และ สธต่างประดิษฐานอยู่ ณ สถานที่แห่งเดียวกัน เพียงแต่จารึกอยู่บนหินแต่ละก้อน
ตามประวัติระบุว่า สมเด็จพระปิยมหาราชเจ้า เสด็จพระราชดำเนิน ณ สถานที่แห่งนี้เมื่อ 21 เมษายน พ.ศ.2433 ตรงกับ ร.ศ. (รัตนโกสินทร์ศก) 109เมื่อครั้งเสด็จประพาสทรงงานในเขตมณฑลทางใต้ของสยาม โดยเสด็จด้วยขบวนช้างและม้าจากจังหวัดชุมพร แล้วทรงประทับแรม ณ พลับพลาดอนวังทู้ หมู่ 1 ตำบลปากจั่น แล้วทรงจารึกพระปรมาภิไธย จปร. ย่อมาจาก มหาจุฬาลงกรณ์ปรมราชาธิราช มูลเหตุที่ทรงจารึกพระปรมาภิไธยย่อ ก็เพื่อทรงต้องการให้รู้ว่าพระองค์ได้เสด็จพระราชดำเนินถึงสถานที่นั้นๆ และใต้พระปรมาภิไธยย่อ จปร. ก็ทรงระบุรัตนโกสินทร์ศก 109 ไว้ด้วย เพื่อให้รู้ว่าเสด็จพระราชดำเนินในปีใด โดยมีการจดบันทึกไว้ด้วยว่า “ในกลางที่แจ้งนี้เป็น “ตร่อน้ำแบ่ง” มีศิลาก้อนใหญ่จมดินครึ่งหนึ่งมีก้อนเล็กซ้อน ซึ่งเห็นจะเป็น หินลอยทั้งสองก้อน ให้เขามาหาไว้จะจารึกเห็นก้อนใหญ่จะศูนย์ยากกว่า จึงให้กลิ้งก้อนเล็กลงเสีย ให้กรมสรรพสิทธิ์เขียน จปร. อย่างอัฐ กับกรมสมมตเขียน 109 มอบเครื่องมือให้ผู้ช่วยเมืองไชยาอยู่เราะให้ แล้วรอเขียนอยู่ 7 มินิต”
อักษรพระปรมาภิไธยย่อจึงเป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ และมรดกสำคัญของประเทศ ที่แสดงให้เห็นชัดว่าพระเจ้าแผ่นดินไทยเสด็จพระราชดำเนินทรงเยี่ยมเยียนพสกนิกร และทรงตรวจราชการแผ่นดินด้วยพระองค์เอง จึงกล่าวได้ว่าบนผืนแผ่นดินสยามหรือไทยนั้น ไม่มีพื้นที่แห่งใดที่ไม่อยู่ในพระเนตรพระกรรณของพระเจ้าแผ่นดิน
ส่วนพระปรมาภิไธยย่อ ภปร. ย่อมาจากภูมิพลปรมราชาธิราช พระนามาภิไธยย่อ สกย่อมาจาก สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และพระนามาภิไธยย่อ สธย่อมาจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้ากรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
โดยพระปรมาภิไธยย่อ ภปร. ทรงจารึกไว้เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 เสด็จพระราชดำเนินประพาส ทรงเยี่ยมเยียนประชาชน เมื่อวันที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2502
ส่วนพระนามาภิไธย สธ นั้น กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีทรงจารึกไว้เมื่อ พ.ศ. 2533 เมื่อครั้งเสด็จพระราชดำเนินทรงเยี่ยมราษฎร ณ บริเวณนั้น
นับได้ว่าพระปรมาภิไธยย่อทั้งหมดและพระนามาภิไธยย่อทั้งหมดนี้ เป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ของประเทศไทยและเป็นโบราณวัตถุที่สำคัญของชาติไทยด้วย
หากคุณมีโอกาสผ่านไป ณ หลักกิโลเมตร 86 ถนนเพชรเกษม ขอให้แวะกราบถวายบังคมพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระปิยมหาราชเจ้า และตราพระปรมาภิโธย และตราพระนามาภิไธย เพื่อความเป็นสิริมงคลของคุณ
และหากคุณต้องการเดินทางท่องเที่ยวเพื่อการเรียนรู้ด้านประวัติศาสตร์ และโบราณคดีของประเทศไทยกับ Mr.Flowerโปรดติดต่อหมายเลข 091-7233615
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี