ตักบาตรที่โอ๊ะป่อย

จากการประชุมคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ (กวช.) ครั้งที่ ๓/๒๕๖๗ เมื่อเร็วๆ นี้ โดยมี นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (รมว.วธ.) เป็นประธานที่ประชุมนั้นได้มีความเห็นชอบ แผนปฏิบัติการด้านการขับเคลื่อนเศรษฐกิจวัฒนธรรมของประเทศไทยสู่ระดับสากล (พ.ศ.๒๕๖๗-๒๕๗๐) แผนนี้สืบเนื่องจากรัฐบาลได้มีนโยบายในการผลักดันอุตสาหกรรมซอฟต์ พาวเวอร์ ตามยุทธศาสตร์ซอฟต์ พาวเวอร์แห่งชาติ และการจัดตั้ง Thailand Creative Content Agency (THACCA) ขึ้น การจัดทำแผนปฏิบัติการขับเคลื่อนเศรษฐกิจวัฒนธรรมฉบับดังกล่าว สำนักงานปลัดกระทรวงวัฒนธรรมได้ร่วมกับ สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจ ศศินทร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ทำการศึกษาและวิเคราะห์การดำเนินงานในภาพรวมของประเทศไทยที่เกี่ยวข้องกับการยกระดับเศรษฐกิจวัฒนธรรม ทั้งบริบทการดำเนินงานตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันและสถานการณ์ทั้งในและนอกประเทศ และจุดยืนของประเทศไทยในมิติเศรษฐกิจวัฒนธรรมในระดับสากล เพื่อสังเคราะห์ธีม (Theme) ในการนำเสนอประเทศไทยอย่างลุ่มลึก หลากหลาย และสร้างแรงดึงดูดที่มีพลังมากยิ่งขึ้น โดยคณะผู้จัดทำแผนได้ศึกษาวิจัยโดยใช้ข้อมูลเชิงประจักษ์ผ่านมุมมองของชาวต่างชาติ

สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.วธ

จากการสำรวจความคิดเห็นของกลุ่มเป้าหมายทั่วโลกกว่า ๓,๖๐๐ ตัวอย่าง และได้รวมถึงสิ่งที่ชาวต่างชาติคาดหวังจากประเทศไทย ในการเพิ่มมูลค่าทางการตลาดซึ่งพบว่าไทยนั้นเป็นประเทศอันดับต้นๆที่ต่างชาติต้องการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวและเป็นประเทศที่สร้างประสบการณ์ที่น่าประทับใจ จนเกิดความรู้สึกที่ดีและอยากกลับมาประเทศไทยอีก ด้วยเป็นประเทศที่มีขนบธรรมเนียมและศิลปวัฒนธรรมที่น่าสนใจทำให้ต้องการรู้จักสัมผัสกับบรรยากาศ ได้เรียนรู้เกี่ยวกับศิลปวัฒนธรรมไทยอย่างลึกซึ้งและต้องการเข้าใจแนวคิด ความเชื่อแบบไทยๆ ผ่านสินค้าและบริการทางวัฒนธรรมที่มีอัตลักษณ์และมีคุณค่าในระดับสากล จากการศึกษาวิจัยนั้นได้นำข้อมูลมาประมวลผลวิเคราะห์จุดยืนของประเทศไทยในการขับเคลื่อนSoft Power (Thailand’s Soft Power Positioning)หรือการสร้างอัตลักษณ์สร้างแบรนด์ไทยให้เป็นแบรนด์นานาชาติ (Nation Branding)เพื่อให้เกิดการจดจำในสายตาของประชาคมโลกและสร้างความเชื่อมั่นต่อผลิตภัณฑ์และบริการของประเทศ

ยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ปลัดวธ.

แผนดังกล่าวจึงสร้างและส่งเสริม ๑.ระบบนิเวศบนฐานการประสานพลัง ที่รองรับการเปลี่ยนแปลงในทุกมิติในอนาคต ๒.สังคมยั่งยืน มั่นคงและเอื้อต่อศักยภาพอันหลากหลายของผู้คน ๓.เศรษฐกิจเติบโตด้วยมูลค่าเพิ่มจากฐานภูมิปัญญาและความคิดสร้างสรรค์ และ ๔.ประเทศไทยมีบทบาทสถานะ และจุดยืนที่เข้มแข็งและโดดเด่นบนเวทีโลกนอกจากนี้ ได้กำหนดเป้าหมายไว้ ๓ ประการ ประกอบด้วย ๑.ทุนทางวัฒนธรรมไทยที่ได้รับการรักษา พัฒนา และต่อยอดอย่างยั่งยืน ๒.เศรษฐกิจวัฒนธรรมของไทยเติบโตเพิ่มขึ้น และ ๓.บทบาทและภาพลักษณ์ประเทศนั้นทำให้ได้รับการยกระดับด้วยเศรษฐกิจวัฒนธรรม โดยกำหนดยุทธศาสตร์ ในการขับเคลื่อนไว้ด้วย ถึงการเตรียมสร้างระบบนิเวศเศรษฐกิจวัฒนธรรม เตรียมความพร้อมให้ “คน” มีบทบาทหลักในการพลิกโฉมเศรษฐกิจวัฒนธรรม และยกระดับความเชื่อมั่นของตลาดโลกต่อคุณภาพและคุณค่าของสินค้าและบริการทางวัฒนธรรมไทย ให้ระดับแบรนด์ประเทศไทยนั้นโดดเด่นเป็นที่ยอมรับอย่างยั่งยืน   

ส่วนจะไปต่ออย่างไรนั้นอยู่ที่ภูมิปัญญาคนช่วยกันให้ทำได้จริงและชุมชนมีส่วนร่วมในการวาดหวังว่าไทยนั้นจะมีแบรนด์โดดเด่นในเวทีโลกมากกว่าแบรนด์ต่างชาติที่ทะลักเข้ามาเต็มเมือง