วันจันทร์ ที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดตัว “MAHIDOL AQHI” โดยมี ศาสตราจารย์ นายแพทย์ปิยะมิตร ศรีธรา อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหิดล รองศาสตราจารย์ ดร.เภสัชกร สมภพ ประธานธุรารักษ์ รองอธิการบดีฝ่ายพัฒนาคุณภาพและพันธกิจเพื่อสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล รองศาสตราจารย์ดร.สราวุธเทพานนท์ คณบดีคณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล และรองศาสตราจารย์ ดร.สุวิมล กาญจนสุธา คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เข้าร่วมงานแถลงข่าวณ อาคารสาธารณสุขวิศิษฏ์ (อาคาร 1)ชั้น 2 คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
ปัจจุบัน มลพิษทางอากาศส่งผลต่อการใช้ชีวิตของคนเราเป็นอย่างมาก โดยสารมลพิษทางอากาศแบ่งออกเป็น 2 ชนิด ได้แก่ 1.อนุภาคหรือที่คนส่วนใหญ่เรียกกันว่าฝุ่นละออง ซึ่งจะมีชื่อเรียกตามขนาด อาทิ PM10 PM2.5 เป็นต้น 2.แก๊สต่างๆ อาทิ คาร์บอนไดออกไซด์ โอโซน ซัลเฟอร์ไดออกไซด์ ไนโตรเจนไดออกไซด์ เป็นต้น ซึ่งความอันตรายของมลพิษทางอากาศคือมลสารบางชนิดไม่มีกลิ่น ไม่มีสี เมื่อเข้าไปสะสมในร่างกายอาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพที่รุนแรงขึ้น มหาวิทยาลัยมหิดลมุ่งยกระดับและพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนอย่างยั่งยืนอันสอดคล้องกับแนวทางการดำเนินงานของสหประชาชาติ (United Nations) เป้าหมายเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Sustainable Development Goals) โดยจากการศึกษามลพิษทางอากาศจากฝุ่นละอองและก๊าซพิษต่างๆ ที่ส่งผลต่อการใช้ชีวิตและการเกิดความเสี่ยงของโรคอย่างมีนัย จึงเป็นที่มาของโครงการของ รองศาสตราจารย์ ดร.สุวิมล กาญจนสุธา คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล และคณะ เรื่อง “Air Quality Health Index (AQHI) ดัชนีคุณภาพอากาศของประเทศไทย” ที่นำค่าความเข้มข้นของสารมลพิษแต่ละชนิดมาแปลผลและนำเสนอในรูปแบบอย่างง่ายเพื่อใช้สื่อสารความเสี่ยงสุขภาพจากมลพิษทางอากาศแก่ประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพ

คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล และภาคีเครือข่าย จึงได้พัฒนาเครื่องมือชนิดใหม่ที่เรียกว่าค่าดัชนีชี้วัดคุณภาพอากาศที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ Air Quality Health Index (AQHI) เพื่อใช้สื่อสารความเสี่ยงสุขภาพจากมลพิษทางอากาศ โดยแบ่งออกเป็น4 ระดับ คือ ระดับความเสี่ยงต่ำ (Low Risk) ค่า AQHI อยู่ในช่วง 1-3 ระดับความเสี่ยงปานกลาง (Moderate Risk)ค่า AQHI อยู่ในช่วง 4-6 ระดับความเสี่ยงสูง(High Risk) ค่า AQHI อยู่ในช่วง 7-10 และระดับความเสี่ยงสูงมาก (Very High Risk) ค่า AQHI มากกว่า 10 ขึ้นไป แสดงค่าสีเป็นสีเขียว เหลือง ส้ม และแดง โดยสามารถเข้าดูรายละเอียดได้ที่ https://aqhi.mahidol.ac.th/
ด้วยกิจกรรมหลากหลายและมีแหล่งกำเนิดสารมลพิษทางอากาศ ไม่ว่าจะเป็นการจราจร การใช้รถ ใช้ถนน ซึ่งในภาวะปกติ กรณีที่สภาพบรรยากาศเอื้อต่อการระบายอากาศ การเจือจางสารมลพิษในบรรยากาศก็จะไม่เกิดปัญหาใด ทุกครั้งที่เกิดปัญหาจะเห็นได้ว่ามีปัจจัยเอื้อทางอุตุนิยมวิทยาเข้ามาเกี่ยวข้อง เช่น ความกดอากาศสูง สภาพอากาศปิด เพดานอากาศต่ำลง ลมสงบ ไม่มีการถ่ายเท หรือการหมุนเวียนของอากาศ เกิดสภาวะมลพิษทางอากาศขึ้นในกรุงเทพฯ โดยสถิติที่ผ่านมามักจะเกิดในช่วงปลายปีประมาณเดือนพฤศจิกายน-เดือนมีนาคม ของทุกปีกรุงเทพฯ จะมีสภาพอากาศปิด ส่งผลต่อการระบายหรือเจือจางของสารมลพิษในบรรยากาศ

ทั้งนี้ “MAHIDOL AQHI” ได้แนะนำรายละเอียดแนวทางการปฏิบัติตนของประชาชนกลุ่มต่างๆ ซึ่งมีด้วยกัน 4 ระดับความเสี่ยง ประกอบด้วย ความเสี่ยงแรก คือ ความเสี่ยงระดับต่ำ 1-3 เป็นสีเขียว สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ สามารถทำกิจกรรมภายนอกอาคาร หรือ วิ่งออกกำลังกายได้ปกติ ถ้าเป็นกลุ่มเสี่ยง อาจจะเพิ่มเฝ้าติดตามสถานการณ์เป็นระยะๆ ถ้าเป็นความเสี่ยงระดับปานกลาง 4-6 กลุ่มเสี่ยงอาจจะต้องพิจารณา ถ้าหากมีความจำเป็นต้องออกไปทำกิจกรรมภายนอกอาคาร ให้พิจารณาปรับรูปแบบกิจกรรม หรือหากปรับเปลี่ยนได้ก็ควรหลีกเลี่ยง หากมีความจำเป็นต้องออกไป ควรใส่อุปกรณ์ป้องกันตนเอง อาทิ หน้ากากป้องกัน PM2.5 และลดระยะเวลาการออกไปสัมผัส หรือหากพื้นที่ที่มีระดับความเสี่ยงระดับสูงมาก เกินกว่า 10 ขึ้นไป ทั้งประชาชนกลุ่มเสี่ยงหรือกลุ่มทั่วไป ควรจะอยู่ในพื้นที่หรือห้องที่มีการควบคุมคุณภาพอากาศ
ในส่วนของสถานพยาบาล ควรมีการเพิ่มการแจ้งเตือนสำหรับกลุ่มผู้ป่วยที่มีนัดที่มีอาการคงที่ ไม่มีอาการรุนแรง หากเดินทางไปในพื้นที่วิกฤตมลพิษอากาศเพื่อพบแพทย์ก็จะเป็นการเพิ่มความเสี่ยงมากขึ้น ควรมีระบบการส่งยาทางไปรษณีย์ให้กับผู้ป่วยกลุ่มนี้ ในส่วนของสถานศึกษาในพื้นที่ที่มีค่า AQHI อยู่ในระดับสูงมาก อาจพิจารณางดเว้นการเรียนการสอนหรือกิจกรรมภายนอกอาคาร ควรจัดให้มีห้องควบคุมคุณภาพอากาศให้สำหรับกลุ่มเสี่ยง หรือปรับเปลี่ยนการเรียนการสอนเป็นระบบออนไลน์ทั้งหมดหรือแบบผสมระหว่างการเรียนออนไลน์กับการเรียนในห้องเรียน อย่างไรก็ตาม ถือได้ว่าคนทุกกลุ่มวัยมีความเสี่ยงต่อการรับสารมลพิษทางอากาศ แม้กระทั่งคนที่มีร่างกายแข็งแรงเมื่อรับสารมลพิษมากขึ้น สารพิษเหล่านั้นส่วนหนึ่งจะเข้าไปสะสมในร่างกาย จนเป็นสาเหตุของการเกิดโรคร้ายจนถึงขั้นเสียชีวิตเช่น มะเร็งปอด เป็นต้น ดังนั้น การรับรู้สถานการณ์โดยใช้เครื่องมือที่สามารถประเมินความเสี่ยงสุขภาพจากมลพิษทางอากาศได้ถือเป็นสิ่งจำเป็นในการป้องกันตนเองของประชาชนทุกคน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี