ปชน.ชูสโลแกน‘มีเรา ไม่มีเทา’  โวกวาด250สส.   ขอเวลาดัน‘เท้ง’ขึ้นอันดับ1  พท.จองกฐินซักฟอกรัฐบาล

ปชน.ชูสโลแกน‘มีเรา ไม่มีเทา’ โวกวาด250สส. ขอเวลาดัน‘เท้ง’ขึ้นอันดับ1 พท.จองกฐินซักฟอกรัฐบาล

วันจันทร์ ที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568, 06.00 น.

ปชน.ชูสโลแกน‘มีเรา ไม่มีเทา’

โวกวาด250สส. 

ขอเวลาดัน‘เท้ง’ขึ้นอันดับ1

พท.จองกฐินซักฟอกรัฐบาล

เตรียมส่ง‘จุลพันธ์’คุย‘ปชน.’

รทสช.ลุยต่อ‘พีระพันธ์ุ’หน.

“เพื่อไทย” ฝันกลางวันจะกลับมาเป็นรัฐบาล พร้อมตามจีบปชน.จับมือยื่นซักฟอก “อนุทิน” โดยไม่กังวลว่าจะมีการชิงยุบสภาก่อน แต่พร้อมทำศึกเลือกตั้ง ด้านปชน.ชูสโลแกน “มีเราไม่มีเทา”หาเสียง ตั้งเป้ากวาด250เก้าอี้ เตรียมเข็น‘เท้ง’ขึ้นแซงเป็นอันดับหนึ่งให้ได้ ขณะที่’ศิริกัญญา’ชม’อนุทิน’สอบผ่านเวทีประชุมเอเปก ด้าน’อนุทิน’นำทีมเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร สส.ตรัง’พรรคภูมิใจไทย’ทั้ง4เขต พร้อมสวมเสื้อพรรคต้อนรับอดีต สส.ตรัง’โกหนอ’หวังเพิ่มโควต้า สส.ภาคใต้ครั้งหน้า

เมื่อวันที่ 2พฤศจิกายน2568 นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการเตรียมยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล พรรค พท.มีการพูดคุยกันเพิ่มบ้างหรือไม่ ว่า มีการพูดคุยกันว่าหากจะยื่นจะมีการยื่นในช่วงเปิดสมัยการประชุมสภาผู้แทนราษฎรสมัยหน้า หรือปิดสมัยประชุม ต้องรอฟังคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคพูดคุยกันอีกครั้ง


เมื่อถามว่า จะต้องมีการพูดคุยกับพรรคประชาชน (ปชน.) ว่าจะร่วมอภิปรายไม่ไว้วางใจด้วยหรือไม่ นายวิสุทธิ์กล่าวว่า ต้องให้นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ และหัวหน้าพรรค พท.ไปเจรจาว่าพรรค ปชน.จะร่วมกับเราหรือไม่ ขอให้นายจุลพันธ์ได้ทำหน้าที่ลองไปเจรจาพูดคุยกันดูก่อนว่ามีทิศทางเดียวกันหรือไม่

ต่อข้อถามว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจควรอภิปรายทั้งคณะรัฐมนตรี (ครม.) หรืออภิปรายเป็นรายบุคคล นายวิสุทธิ์กล่าวว่า กำลังดูอยู่ เพราะขณะนี้กำลังติดตามการทำงานของแต่ละรัฐมนตรีว่า ท่านใดมีข้อบกพร่องเสียหายหรือส่อในทางทุจริตบ้าง เราจะมี ส.ส.หลายคนที่ประกบดูและติดตาม อดีตรัฐมนตรีที่เคยทำงานในกระทรวงนั้นๆ จะช่วยกันดูและมีการหาข้อมูลกันอยู่

ไม่กังวล”หนู”ยุบสภา

เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่อาจมีการยุบสภาก่อนการอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายวิสุทธิ์กล่าวว่า ถ้ายุบสภาเมื่อไหร่ เราก็พร้อมเลือกตั้ง ไม่ได้มีปัญหาอะไรเลย

เมื่อถามถึง กระแสข่าวพรรค พท.จะเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.บ้านใหญ่อัศวเหม นายวิสุทธิ์กล่าวว่า บางจังหวัดมีการเจรจากันจริง บางที่เขามีคนพร้อมมากกว่าเรา บางพื้นที่พรรคเพื่อไทยไม่ได้มี ส.ส.ในจังหวัดนั้นๆ หากมีการร่วมมือกันก็จะมีโอกาสชนะการเลือกตั้งได้ เราต้องทำ เพราะเป้าหมายคือ 200 เขตในอนาคต

พร้อมสู้ศึกเลือกตั้ง

นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีการจัดประชุมใหญ่วิสามัญครั้งที่ 1/2568 ของพรรค พท. เพื่อเลือกตั้งคณะกรรมการบริหาร (กก.บห.) พรรคชุดใหม่ และคณะกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ว่า พรรค พท.ยังคงยืนหยัดอย่างมั่นคงในฐานะสถาบันทางการเมืองของประเทศที่มีความเข้มแข็ง เป็นระบบ และเติบโตเคียงข้างประชาชนทุกกลุ่ม ทุกช่วงวัย พรรค พท.ไม่เพียงแค่เป็นพรรคการเมือง แต่คือพลังแห่งความหวังของคนไทยทั้งประเทศ ที่มุ่งมั่นจะสร้างโอกาส และยกระดับคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชนให้ดียิ่งขึ้นในทุกมิติ

นายอนุสรณ์กล่าวต่อว่า การได้ กก.บห.พรรคชุดใหม่ และคณะกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้ง ถือเป็นสัญญาณสำคัญที่สะท้อนให้เห็นถึงความพร้อมในทุกด้านของพรรค พท. ทั้งในเชิงนโยบาย การจัดการ และทิศทางทางการเมือง พรรค พท. กำลังเดินหน้าเข้าสู่กระบวนการคิดและกำหนดนโยบายที่มีวิสัยทัศน์กว้างไกล ยึดมั่นในประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นหลักสูงสุด เพราะพรรค พท. หัวใจคือประชาชน ทั้งนี้ เรามีความเชื่อมั่นอย่างเต็มเปี่ยมว่า การเปลี่ยนผ่านสู่การเลือกตั้งครั้งใหม่จะเป็นจุดเริ่มต้นของการฟื้นฟูประเทศ ให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง พรรค พท. พร้อมที่จะนำเสนอแนวนโยบายที่จับต้องได้ เป็นไปได้จริง และสอดคล้องกับความต้องการของประชาชนในทุกภูมิภาค ไม่ว่าจะเป็นการสร้างเศรษฐกิจฐานรากให้เข้มแข็ง การผลักดันนวัตกรรมเพื่ออนาคต การสร้างงาน สร้างรายได้ และยกระดับมาตรฐานคุณภาพชีวิตของคนไทยให้ก้าวนำโลก

เผยรัฐบาลกำลังมีปัญหา

นายอนุสรณ์ กล่าวด้วยว่า สำหรับประเด็นการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลเสียงข้างน้อยนั้น ขณะนี้รัฐบาลกำลังเผชิญกับปัญหาสแกมเมอร์ ทุนเทาและดำข้ามชาติ ความมั่นคงชายแดน จะเป็นจุดเปราะบางรัฐบาลเสียงข้างน้อยที่ประชาชนจับตามอง และอาจเป็นจุดตายรัฐบาล ขณะนี้ภายในพรรคมีการหารือกันอย่างรอบคอบ โดยมีสองแนวทางหลัก คือ กลุ่มที่เห็นว่าควรยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจในสมัยประชุมหน้า เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประเทศไม่ให้ได้รับความเสียหายจากการบริหารงานที่ไร้เสถียรภาพ ขณะที่อีกกลุ่มเห็นว่าควรปล่อยให้เป็นไปตามกลไกไทม์ไลน์ใน MOA ระหว่างฝ่ายค้ำและรัฐบาลเสียงข้างน้อย เพื่อให้เป็นบทพิสูจน์ชัดเจนว่าแท้จริงแล้วดีลดังกล่าวไม่ได้นำพาประโยชน์ใดๆ มาสู่ประเทศชาติและประชาชนเลย พรรคเพื่อไทยพร้อมแล้วในทุกมิติ ไม่ว่าการยุบสภาจะเกิดขึ้นเมื่อใด พรรคเพื่อไทยเป็นพรรคแรกที่มีความพร้อมส่งผู้สมัครคุณภาพทั่วประเทศ และพร้อมนำประเทศไทยกลับคืนสู่เส้นทางแห่งโอกาส ด้วยความเชื่อมั่นเต็มหัวใจว่า พรรคเพื่อไทยจะกลับมาบริหารประเทศ และขับเคลื่อนประเทศไทยให้ไปได้ไกลกว่าที่เคยเป็นมาอีกครั้งหนึ่ง

ปชน.ชูสโลแกนไม่เอา’สีเทา’

น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีพรรคเพื่อไทย (พท.) มีการปรับโครงสร้างและเลือกกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ว่า เป็นนิมิตหมายที่ดีหลังจากพรรค พท. ได้เผชิญอุปสรรคทางการเมือง ตั้งแต่พ้นจากการเป็นรัฐบาลและนายกรัฐมนตรี 2 คนของพรรคถูกศาลรัฐธรรมนูญตัดสินให้พ้นจากตำแหน่ง ซึ่งการปรับทัพพรรคถือเป็นเหมือนการปี่กลองทางการเมืองสนามเลือกตั้ง หากมีการยุบสภาตาม MOA การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในช่วงเดือนมีนาคม 2569 เป็นต้นไป และขอแสดงความยินดีกับพรรค พท.ที่ได้หัวหน้าใหม่

ตั้งเป้ากวาดสส.250ที่นั่ง

เมื่อถามถึง การตั้งเป้า 200 ส.ส. ของพรรค พท. น.ส.ศิริกัญญากล่าวว่า ตนมองว่าอาจจะตั้งเป้าหมายต่ำกว่าการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา และเชื่อว่าอาจเป็นไปได้จริง ซึ่งการตั้งเป้า ส.ส.ถือเป็นสิทธิ์ของแต่ละพรรค เพื่อไปกำหนดยุทธศาสตร์และเดินไปสู่เป้าหมาย ส่วนผลการเลือกตั้งจะออกมาอย่างไร ประชาชนจะเป็นผู้ตัดสิน สำหรับพรรค ปชน.เรายังตั้งเป้าตามเดิม คือ 250 คนขึ้นไป โดยการตั้งเป้าทำให้เกิดการวางแผนทางยุทธศาสตร์ และกลยุทธ์ต่างๆ เพื่อให้ถึงเป้าหมาย ย้ำว่าแต่ละพรรคการเมืองมีการตั้งเป้าหมายที่แตกต่างกัน

เมื่อถามว่า ช่วงนี้พรรค ปชน.ใช้สโลแกนมีเราไม่มีเทา จะเป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์การหาเสียงเลือกตั้งครั้งหน้าหรือไม่ น.ส.ศิริกัญญากล่าวว่า เป็นแคมเปญเลือกตั้งระยะเริ่มต้นที่อาจมีหลายข้อความ ย้ำว่าเราเอาจริง ไม่เพียงแต่มีเรา ไม่มีเทา ยังมีอีกหลายเรื่องที่เอาจริง เรื่องอื่นอาจจะไม่เซ็กซี่เท่ามีเราไม่มีเทา แต่ถ้ามีเราก็จะมีคุณภาพชีวิตที่ดี มีเศรษฐกิจที่สดใส มีอนาคตที่รองรับทุกคนและทุกช่วงวัย ซึ่งผลตอบรับออกมาค่อนข้างดี โดยเฉพาะมีเราไม่มีเทา นั่นหมายความว่าประชาชนสนใจให้ความสำคัญ กับเรื่องการทุจริตคอร์รัปชั่นการฟอกเงิน และทุนเทาต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสัญชาติใด ซึ่งเป็นเรื่องที่พรรค ปชน.เอาจริงมาตลอดอยู่แล้ว และมุ่งมั่นที่จะแก้ไขปัญหานี้ แต่จะทำได้ดีทำได้จริงก็ต่อเมื่อเราเป็นรัฐบาลพรรคเดียว และสอดคล้องกับเป้าหมาย 250 เสียงที่ได้ประกาศเอาไว้ก่อนหน้านี้

เร่งคัดเลือกผู้ลงสมัครสส.

เมื่อถามถึง ความคืบหน้าขั้นตอนการคัดเลือกผู้สมัคร ส.ส.ของพรรค ปชน.นั้น น.ส.ศิริกัญญากล่าวว่า การคัดเลือก ส.ส.เขตเกือบครบทุกเขตแล้ว แต่บัญชีรายชื่อยังดำเนินการอยู่ ยังมีอีกหลายขั้นตอน ยืนยันว่าเดินหน้าตามไทม์ไลน์ ที่พรรคได้วางกรอบเอาไว้

ฮั้วสว./เขากระโดงยังไม่เงียบ

เมื่อถามว่า ทำไมพรรค ปชน.จึงเงียบเรื่องคดีฮั้ว สว.และที่ดินเขากระโดง น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า เราไม่ได้เงียบ ทุกวาระที่มีการสอบสวนเรื่องนี้ เราตรวจสอบอย่างเข้มข้นตลอดเวลา เช่น เรื่องที่ดินเขากระโดงก็เห็นว่าเดินหน้าไปตามที่เห็นสมควรว่าควรจะเป็น คือการที่การรถไฟสั่งฟ้องเพื่อขอคืนที่ดิน ซึ่งพรรค ปชน. ก็มีข้อคิดเห็นไปเรียบร้อยแล้วว่ามีที่ดินอยู่ 2 แปลง ที่ถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) ชี้มูลไปเรียบร้อยแล้ว ส่วนเรื่องคดีฮั้ว ส.ว. พรรค ปชน.ก็เป็นคนออกมาเปิดเผย แต่ในส่วนของกระบวนการ ส.ส.ไม่สามารถเข้าไปสอบสวนได้ เราทำหน้าที่ตามอำนาจที่มีอย่างเต็มที่แล้ว

ให้ผ่าน‘อนุทิน’ประชุมเอเปคน้า

น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน ตอบคำถามผู้สื่อข่าวถึงการไปประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (เอเปค) ที่เกาหลีใต้ ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ถือว่าผ่านหรือไม่ ว่า ในรอบนี้มีความคืบหน้าหลายเรื่อง ถือว่าผ่าน ได้ทำหน้าที่อย่างสมบูรณ์แบบ แต่ว่ามีอยู่เรื่องเดียวที่คิดว่าน่าจะแสดงบทบาทได้มากกว่านี้คือการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพในการแก้ไขปัญหาเรื่องคอลเซ็นเตอร์และสแกมเมอร์ ซึ่งน่าจะเป็นเรื่องที่ประเทศที่อยู่ในกลุ่มเอเปคให้ความสนใจ อย่างสหรัฐอเมริกาและเกาหลีใต้ ที่ได้รับผลกระทบและกำลังเดินหน้าจริงจังในการปราบปรามและช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบ เป็นจุดที่เราคิดว่าควรจะแสดงบทบาทได้มากกว่านี้

เมื่อถามว่า ปชน.มีข้อมูลเพียงพอจะยื่นอภิปรายในสมัยประชุมหน้าหรือไม่ น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า ตอนนี้เราเก็บรวบรวมข้อมูลกันอยู่ จะมีข้อมูลเป็นรายคนและคงจะเก็บข้อมูลในสมัยปิดประชุม เพื่อนำไปสู่การตัดสินใจว่าจะมีการยื่นอภิปรายในสมัยประชุมหน้าหรือไม่

‘อนุทิน’เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครสส.ตรัง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านโล่สถาพรพิพิธ อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย พร้อมด้วยนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ แกนนำภาคใต้เดินทางมาเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ตรัง ในนามพรรคภูมิใจไทย โดยได้รับการต้อนรับจาก นายสมชาย โล่สถาพรพิพิธ หรือ “โกหน่อ” อดีต ส.ส.ตรังและบิดาของ น.ส.สุณัฐชา โล่สถาพรพิพิธ ส.ส.ประชาธิปัตย์ เขต3 จ.ตรัง และประธานคณะกรรมาธิการตำรวจ สภาฯรวมถึง นายบุ่นเล้ง โล่สถาพรพิพิธ นายก อบจ.ตรัง สมาชิกสภา อบจ.ตรัง ผู้นำท้องถิ่น และผู้สนับสนุนกว่า 500คน เป็นการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครครบทั้ง 4เขตของ จ.ตรัง ได้แก่ เขต 1 นายเอกพล ณ พัทลุง หรือนายกเอก นายก อบต.ควน เขต 2 นายทวี สุระบาล ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ เขต 3 น.ส.สุณัฐชา โล่สถาพรพิพิธ หรือ ท่ามเฮง ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เขต 4 นายพิชัย เจริญศิริสุนทร หรือ สจ.น้องล้าน สมาชิก อบจ.ตรัง อ.กันตัง เขต 1 หลานชาย นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ

สวมเสื้อแจ็กเก็ตให้’โกหนอ’

นายอนุทิน กล่าวว่า ภาคใต้เป็นพื้นที่ที่ตนให้ความสำคัญมากและไม่เคยคาดคิดว่า พรรคภูมิใจไทยจะมีฐานเข้มแข็งในพื้นที่นี้ จนกระทั่งเลือกตั้งปี2566 พรรคส่งส.ส.เข้ามาได้และตั้งเป้าหมายเลือกตั้งปีหน้าจะเพิ่มโควต้าส.ส.ภาคใต้ โดยเริ่มตั้งแต่ลงเครื่องที่สนามบินตรังก็มีประชาชนมาขอพบและกอด ซึ่งตนก็ยินดี การเตรียมสู้ศึกเลือกตั้งครั้งหน้า เราได้บ้านโล่สถาพรพิพิธ บ้านสุระบาล และพี่น้องผู้สมัครในจังหวัดตรังมาร่วมงาน ขอสัญญาจะทำงานเพื่อพี่น้องชาวตรัง ชาวใต้และชาวไทยอย่างสุดความสามารถ

หลังกล่าวต้อนรับเสร็จ นายอนุทิน ได้สวมเสื้อแจ๊กเกตมีตราโลโก้พรรคให้ นายสมชาย โล่สถาพรพิพิธ หรือโกหนอ ประกาศว่า เป็นสมาชิกใหม่ของพรรคภูมิใจไทย โดย นายสมชาย เคยเปิดใจว่าหากมีชื่อนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ในตำแหน่งรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เขาจะไม่สังกัดพรรคอีก นายสมชายได้ยกนิ้วโป้งทั้งสองข้างและหันโชว์ข้อความหลังเสื้อ “พูดแล้วทำ” ทำให้เกิดเสียงปรบมือและโห่ร้องจากผู้ร่วมงานอย่างกึกก้อง พร้อมสวมเสื้อให้กับว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.อีก 2 คน ได้แก่ นายเอกพล ณ พัทลุง และนายพิชัย เจริญศิริสุนทร ส่วนอีก 2 คน คือ นายทวี สุระบาล และ น.ส.สุณัฐชา โล่สถาพรพิพิธ ยังไม่ได้สวมเสื้อ เนื่องจากยังสังกัดพรรคเดิมอยู่

รทสช.เลือก‘พีระพันธุ์’หัวหน้าต่อ

วันเดียวกัน พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) จัดประชุมใหญ่วิสามัญประจำปี ครั้งที่ 1/2568 เพื่อเลือกตั้งหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค กรรมการบริหารพรรค และตำแหน่งอื่นของพรรค แทนตำแหน่งที่ว่างลง โดยมีผู้บริหารพรรค พร้อมด้วย ส.ส.และสมาชิกพรรคเข้าร่วมประชุมกันอย่างพร้อมเพรียง ณ สโมสรราชพฤกษ์ กรุงเทพฯ ซึ่งที่ประชุมได้มีมติเลือกบุคคลดำรงตำแหน่งดังนี้ 1.นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค 2.นายวิทยา แก้วภราดัย รองหัวหน้าพรรค 3.นายวิสุทธิ์ ธรรมเพชร รองหัวหน้าพรรค

4.นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี รองหัวหน้าพรรค 5.นายนราพัฒน์ แก้วทอง รองหัวหน้าพรรค 5.นายชื่นชอบ คงอุดม รองหัวหน้าพรรค 7.นายสามารถ มะลูลีม รองหัวหน้าพรรค 8.นายโกวิทย์ ธารณา รองหัวหน้าพรรค9.พันเอกเฟื่องวิชชุ์ อนิรุทธเทวา รองหัวหน้าพรรค 10.นายชัชวาลล์ คงอุดม เลขาธิการพรรค 11.นายนิติศักดิ์ ธรรมเพชร รองเลขาธิการพรรค 12.นาวาอากาศตรี ดร.ปุญณัฐส์ นำพา รองเลขาธิการพรรค 13.ว่าที่ ร.ต.อ.หญิง อัยรดา บำรุงรักษ์ รองเลขาธิการพรรค 14.นายปรากรมศักดิ์ ชุณหะวัณ เหรัญญิกพรรค 15.นายสยาม บางกุลธรรม นายทะเบียนสมาชิกพรรค

นายพีระพันธุ์ ได้กล่าวขอบคุณสมาชิกพรรคทุกคนที่ให้ความไว้วางใจเลือกตนให้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติต่อไป พร้อมระบุว่า ตลอด 2 ปีเศษที่ผ่านมา ตนได้มีโอกาสเข้าไปปฏิบัติภารกิจให้กับประเทศในการกำกับดูแลพลังงาน ทำให้ได้ทราบข้อเท็จจริงและปัญหาต่าง ๆ ในด้านพลังงาน จึงได้เร่งแก้ปัญหาให้กับประเทศชาติและประชาชน

‘ชัชวาล’ยังนั่งเลขาธิการพรรรค

ด้าน นายชัชวาลล์ กล่าวว่า ตนรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้ร่วมงานกับนายพีระพันธุ์และพรรครวมไทยสร้างชาติ เพราะนายพีระพันธุ์ เป็นคนดี มีความซื่อสัตย์ เสียสละ ทำงานให้ประเทศเต็มที่ และมุ่งมั่นตั้งใจทำงานแก้ไขปัญหาให้ประเทศเป็นอย่างมาก ซึ่งเป็นเหตุผลที่ทำให้ตนตัดสินใจอยู่กับพรรครวมไทยสร้างชาติต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากนี้ ในคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ยังมีชื่อนายนราพัฒน์ แก้วทอง อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ที่เพิ่งลาออกจากสมาชิกพรรค ปชป. มารับตำแหน่งรองหัวหน้าพรรคด้วย ซึ่งนายนราพัฒน์ ได้มีการสมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรค รทสช.ก่อนหน้านี้แล้ว

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top