ในสังคมไทย ซึ่งยังคงเผชิญกับความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและการศึกษา อันเป็นปัญหาที่ฝังรากลึก เด็กและเยาวชนจำนวนมากยังคงเกิดมาในครอบครัวที่ด้อยโอกาสและขาดแคลนทุนทรัพย์ ส่งผลให้พวกเขาไม่มีแนวทางที่ชัดเจนในการศึกษาต่อหรือประกอบอาชีพ หลายคนต้องหลุดออกจากระบบการศึกษา โดยไม่ได้รับทักษะที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตและการประกอบอาชีพ ส่งผลกระทบต่อโอกาสในการพัฒนาตนเองและสร้างอนาคตที่มั่นคง
ด้วยพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร (รัชกาลที่ 9) ที่ทรงมีพระประสงค์จะช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสทางการศึกษา ขาดแคลนทุนทรัพย์ ให้เยาวชนได้มีวิชาชีพติดตัว และทำมาหารายได้เลี้ยงตนเองได้ โรงเรียนพระดาบส สังกัดมูลนิธิพระดาบส จึงถือกำเนิดขึ้น ในปี พ.ศ. 2519 เป็นองค์กรสาธารณกุศลที่ไม่แสวงผลกำไร ถือเป็นต้นแบบของการศึกษาทางเลือกที่ให้ “โอกาส” และเปิดกว้างแก่ผู้ด้อยโอกาส โรงเรียนพระดาบสไม่ได้เป็นเพียงสถานศึกษา แต่คือ “โอกาส” ที่เปลี่ยนชีวิต เป็นการวางรากฐานอาชีพให้กับเยาวชนที่ถูกลืมในระบบหลัก ผ่านการฝึกฝนวิชาชีพควบคู่คุณธรรม
โรงเรียนพระดาบส มุ่งเน้นการเรียนการสอนในรูปแบบการศึกษานอกระบบ ด้วยหลักสูตรประจำระยะเวลา 1 ปี ที่เน้นการฝึกทักษะวิชาชีพควบคู่กับการฝึกวินัยและคุณธรรม ใช้ชีวิตแบบอยู่ประจำ และไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น โดยผู้เรียนจะได้รับพระราชทานทุนการศึกษาครอบคลุมทั้งค่าเล่าเรียน อุปกรณ์การเรียน อาหาร และที่พักอาศัย ปัจจุบันโรงเรียนพระดาบสมี 2 แห่ง ได้แก่ โรงเรียนพระดาบส อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ และโรงเรียนพระดาบสจังหวัดชายแดนภาคใต้ จ.ยะลา ที่ต่อยอดจากโรงเรียนพระดาบสในส่วนกลาง สู่พื้นที่ห่างไกลและเปราะบาง โดยเปิดรับนักเรียนจาก 5 จังหวัดชายแดนใต้ ได้แก่ ยะลา ปัตตานี นราธิวาส สตูล และ 4 อำเภอของ จ.สงขลา (เทพา สะบ้าย้อย จะนะ และนาทวี)
ข้อมูลจาก พลอากาศโท ศ.ดร.นพพล หาญกล้า ผู้อำนวยการโรงเรียนพระดาบส เปิดเผยว่า โรงเรียนพระดาบส จัดการเรียนการสอนวิชาชีพระดับ “ประกาศนียบัตรพระดาบส” ในรูปแบบโรงเรียนประจำหลักสูตร 1 ปี (เริ่มเดือนเมษายน) ไม่เสียค่าเล่าเรียน มีที่พักและอาหารให้ การศึกษาในโรงเรียนพระดาบสแตกต่างจากหลักสูตรทั่วไป โดยเน้นการลงมือปฏิบัติจริงมากกว่าทฤษฎี เพื่อให้นักเรียนสามารถนำความรู้ไปใช้ในการประกอบอาชีพได้ทันที ควบคู่กับการปลูกฝังคุณธรรมจริยธรรม ใช้หลักสูตรที่เน้นความรู้จริง ฝึกปฏิบัติจริง และสามารถนำไปใช้ได้จริงในการประกอบอาชีพ เปิดรับเยาวชนที่ขาดแคลนทุนทรัพย์หรือมีข้อจำกัดทางสังคม ให้เข้ามาเรียนฟรี มีอาหารและที่พักพร้อม สนับสนุนทั้งการพัฒนาทักษะและจิตใจ ให้สามารถพึ่งพาตนเองได้หลังสำเร็จการศึกษา นอกจากความรู้เชิงวิชาชีพแล้ว ศิษย์พระดาบสยังได้รับการฝึกอบรมในด้าน คุณธรรม จริยธรรม วินัย และความรับผิดชอบ ผ่านการใช้ชีวิตประจำวันภายในโรงเรียนอย่างมีระบบ เช่น การตื่นเช้า ทำกิจวัตรร่วมกัน การเรียนรู้การอยู่ร่วมกับผู้อื่นอย่างมีระเบียบวินัย การช่วยเหลืองานส่วนรวม ตลอดจนการพัฒนาทัศนคติในเชิงบวกเพื่อการทำงานในอนาคต
ระบบการเรียนการสอนของ โรงเรียนพระดาบส (อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ) และ โรงเรียนพระดาบสจังหวัดชายแดนภาคใต้ จัดการศึกษาสายอาชีพอย่างเข้มข้น โดยเน้นการเรียนรู้จากการลงมือทำจริง ไม่ใช่เพียงแค่ทฤษฎีในตำรา เพื่อให้นักเรียนสามารถนำความรู้ไปใช้ในการประกอบอาชีพได้ทันทีเมื่อจบการศึกษา แบ่งออกเป็นหลายสาขาอาชีพที่ตรงกับความต้องการของตลาดแรงงาน โดยเปิดสอนหลักสูตรช่าง 7 หลักสูตรสำหรับศิษย์พระดาบส (ชาย) ให้มีโอกาสเลือกเรียนในสาขาที่ตนมีความสนใจและความถนัดภายหลังจากจบการฝึกพื้นฐานช่างเรียบร้อยแล้ว ได้แก่ 1. หลักสูตรวิชาชีพช่างยนต์ 2. หลักสูตรวิชาชีพช่างไฟฟ้า 3. หลักสูตรวิชาชีพช่างอิเล็กทรอนิกส์ 4. หลักสูตรวิชาชีพช่างซ่อมบำรุง 5. หลักสูตรวิชาชีพการเกษตรพอเพียง 6. หลักสูตรวิชาชีพช่างไม้เครื่องเรือน และ 7. หลักสูตรวิชาชีพช่างเชื่อม ส่วนศิษย์พระดาบส (หญิง) เปิดสอนหลักสูตรเคหบริบาลเพื่อดูแลผู้สูงอายุ เด็ก และงานดูแลสุขภาพพื้นฐาน ซึ่งมีความต้องการเพิ่มสูงขึ้นทุกปี นอกจากนี้ยังมีโครงการเสริมอาชีพ โดยโรงเรียนพระดาบสได้ร่วมมือกับกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยฯ เปิดหลักสูตรระยะสั้นแก่บุคคลทั่วไป ได้แก่ "การนวดเพื่อสุขภาพ" และ "หลักสูตรต่อยอดผู้ช่วยแพทย์แผนไทย"
คุณสมบัติเบื้องต้นของผู้สมัคร
- ชายหรือหญิง อายุ 18–35 ปี (สำหรับโรงเรียน อ.บางพลี) และ 18–25 ปี (สำหรับจังหวัดชายแดนภาคใต้)
- ขาดแคลนทุนทรัพย์และด้อยโอกาสทางการศึกษา
- วุฒิไม่เกิน ม.6 (ไม่รับผู้จบ ปวส. อนุปริญญา หรือปริญญาตรี)
- อ่านเขียนภาษาไทยและคำนวณพื้นฐานได้
- ตั้งใจศึกษา มีวินัย พร้อมอยู่ประจำ
- ไม่มีภาระผูกพันหรือคดีความ ไม่เป็นโรคร้ายแรง
โดยปัจจุบันมีผู้เรียนจบหลักสูตร “ประกาศนียบัตรพระดาบส” แล้ว 47 รุ่น สำหรับศิษย์พระดาบส ประจำปีการศึกษา 2568 เป็นรุ่นที่ 48 โรงเรียนพระดาบส อ.เภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ มีจำนวนทั้งสิ้น 116 คน และ โรงเรียนพระดาบสจังหวัดชายแดนภาคใต้ จำนวน 100 คน
เพื่อร่วมส่งเสริมการศึกษาและเสริมสร้างวิชาชีพให้แก่เยาวชนไทย บริษัท ชลิต อินดัสทรี จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายชิ้นส่วนประกอบรถยนต์และอะไหล่ยาง ภายใต้ แบรนด์ “POP” เล็งเห็นถึงความสำคัญของการสร้างเยาวชนคุณภาพจากรากฐานที่มั่นคง บริษัทฯได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนการเรียนรู้อาชีพของนักเรียนโรงเรียนพระดาบส ภายใต้โครงการ “ชลิต อินดัสทรี สานต่อก่ออาชีพช่าง ปี 4” ร่วมสนับสนุนเสริมสร้างอาชีพให้กับน้องๆโรงเรียนพระดาบส ต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 โดยเมื่อๆ นี้ นายชวิศ ยงเห็นเจริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชลิต อินดัสทรี จำกัด ได้มอบเงินสมทบทุนการศึกษาเพื่อร่วมสนับสนุนการดำเนินงานโรงเรียนพระดาบส และโรงเรียนพระดาบสจังหวัดชายแดนภาคใต้ มูลนิธิพระดาบส โดยมี พลอากาศเอกชลิต พุกผาสุข กรรมการและเลขาธิการมูลนิธิพระดาบส เป็นผู้รับมอบ
และในโอกาสนี้ นายชวิศ ยงเห็นเจริญ พร้อมด้วย นางมนัสนันท์ เปรมพุฒิพันธ์ กรรมการบริษัทฯ ยังได้เข้าเยี่ยมชมการดำเนินงานของโรงเรียนพระดาบส มูลนิธิพระดาบส โดยมี พลอากาศโท ศ.นพพล หาญกล้า ผู้อำนวยการโรงเรียนพระดาบส ร่วมด้วย นายอัครเดช ชูจิตต์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ฝ่ายวิชาการ, นาวาอากาศเอก ปภัณศัก สายแจ้ง รองหัวหน้า สำนักงานมูลนิธิพระดาบส และ นายวิทูล สายแก้ว หัวหน้าหลักสูตรช่างยนต์ โรงเรียนพระดาบส พาเยี่ยมชมการเรียนการสอนและการฝึกปฏิบัติวิชาชีพของศิษย์พระดาบส ณ โรงเรียนพระดาบส มูลนิธิพระดาบส อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ
หลักสูตรของโรงเรียนพระดาบสไม่ใช่เพียงการ "สอนให้ทำงาน" แต่คือการ "สร้างคนให้มีคุณภาพ" มีความรู้ มีคุณธรรม ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการมอบอาชีพให้กับเยาวชนคือการสร้างพลังแห่งการให้ที่ยั่งยืน ผู้สนใจร่วมสนับสนุนด้านการศึกษา หรือต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อมูลนิธิพระดาบส โทร. 02-282-7000 หรือเยี่ยมชมเว็บไซต์ www.phradabos.or.th
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี