วันเสาร์ ที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ผู้หญิง
บทความพิเศษ : 'รู้เขา รู้เขมร' รู้เอ็มโอยู...รู้ทันการณ์ : รู้จัก MOU43 และMOU44 บันทึกความเข้าใจไทย-กัมพูชา

บทความพิเศษ : 'รู้เขา รู้เขมร' รู้เอ็มโอยู...รู้ทันการณ์ : รู้จัก MOU43 และMOU44 บันทึกความเข้าใจไทย-กัมพูชา

วันพุธ ที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2568, 16.05 น.
Tag : ไทย-กัมพูชา บทความพิเศษ รู้เขา รู้เขมร MOU43 MOU44
  •  

ปัจจุบันนี้ การติดตามข่าวสารเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างไทยและกัมพูชามักจะได้ยินคำว่า "เอ็มโอยู" (MOU) โดยเฉพาะ MOU 43 และ MOU 44 บ่อยครั้ง ซึ่งอาจทำให้หลายคนสงสัยว่าคำเหล่านี้หมายถึงอะไร และมีความเกี่ยวข้องอย่างไรกับข้อพิพาทเรื่องปราสาทหินและเขตแดนระหว่างสองประเทศ

เอ็มโอยูคืออะไร?   เอ็มโอยู (MOU) ย่อมาจาก Memorandum of Understanding หรือ "บันทึกความเข้าใจ" ซึ่งเป็นเอกสารที่ระบุข้อตกลงร่วมกันระหว่างสองฝ่าย แม้ว่าเอ็มโอยูจะไม่ใช่สนธิสัญญาที่มีผลผูกพันทางกฎหมายอย่างสมบูรณ์ แต่เป็นการแสดงเจตจำนงร่วมกันที่จะดำเนินการในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ตรงกันและเป็นแนวทางในการทำงานร่วมกันในอนาคต


เอ็มโอยู 43 และ 44: ข้อตกลงเขตแดนที่สำคัญ

•             MOU 43 (พ.ศ. 2543 / ค.ศ. 2000): เป็นบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลกัมพูชาว่าด้วยเขตแดนทางบก  จัดทำสมัยนายชวน หลีกภัย เป็นนายกรัฐมนตรี

•             MOU 44 (พ.ศ. 2544 / ค.ศ. 2001): เป็นบันทึกความเข้าใจที่เกี่ยวข้องกับเขตแดนทางทะเล  จัดทำสมัย ดร.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี

"เอ็มโอยู 43 MOU43  คือ บันทึกความเข้าใจระหว่างราชอาณาจักรกัมพูชากับราชอาณาจักรไทยว่าด้วยการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบก" (MOU on the Survey and Demarcation of Land Boundary) ลงนามเมื่อวันที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2543      เอมโอยู 44 MOU 44คือ บันทึกความเข้าใจระหว่างไทยและกัมพูชา เกี่ยวกับการกำหนดเขตไหล่ทวีปในพื้นที่ทับซ้อนทางทะเล (Memorandum of Understanding between Thailand and Cambodia regarding the Area of their Overlapping Maritime Claims in the Continental Shelf) ลงนามเมื่อวันที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2543

MOU43 ภาษาอังกฤษ https://oneangzone.blogspot.com/2010/08/mou-cambodia-thailand-14-jun-2000.html       

MOU 43  ภาษาไทย

https://www.pptvhd36.com/news/%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%A1/252176  

MOU 44  4 ภาษาอังกฤษ https://www.nationtv.tv/politic/378950946

สาระสำคัญของ MOU 43 และ 44

บันทึกความเข้าใจทั้งสองฉบับมีสาระสำคัญที่ควรทราบดังนี้:

1.            ไม่ใช่การแบ่งเขตแดนถาวร: เอ็มโอยูไม่ได้กำหนดว่าพื้นที่ใดเป็นของใคร แต่ยอมรับให้มี "พื้นที่ทับซ้อน" ที่จะต้องมีการเจรจาเพื่อหาข้อยุติในอนาคต

2.            รักษาสถานะเดิม (Status Quo): ข้อตกลงนี้ห้ามกิจกรรมใด ๆ ที่อาจเปลี่ยนแปลงสภาพพื้นที่หรือเพิ่มความตึงเครียด (ข้อ 5 ถือเป็นหัวใจสำคัญ)

3.            จัดตั้งคณะทำงานร่วม (JBC - Joint Boundary Commission): เพื่อดำเนินการสำรวจและปักปันเขตแดน

ข้อห้ามสำคัญในข้อ 5 ของ MOU 43

ข้อ 5 ของ MOU 43 มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการรักษาความสงบในพื้นที่พิพาท:

- ภาษาไทย : เพื่ออำนวยความสะดวกให้การสำรวจตลอดแนวเขตแดนทางบกร่วมกันเป็นไปอย่างประสิทธิผล หน่วยงานของรัฐบาลกับเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานเหล่านั้นจะงดเว้นการดำเนินการใด ๆ ที่มีผลเป็นการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมของพื้นที่ชายแดน เว้นแต่จะเป็นการดำเนินการของคณะอนุกรรมาธิการเทคนิคร่วมเพื่อประโยชน์ในการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดน

- ภาษาอังกฤษ: “To facilitate the effective survey along the entire stretch of the common land boundary; authorities of either Government and their agents  shall not carry out any work resulting in changes of environment of the frontier zone, except that which is carried out by the Joint Technical Sub Commission in the interest of the survey and demarcation.

ความหมายเชิงปฏิบัติ: คือการห้ามกิจกรรมใด ๆ ที่จะเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อม หรือการกระทำที่เป็นการ อ้างสิทธิ์ครอบครองพื้นที่ (เช่น การแสดงสัญลักษณ์) ซึ่งอาจก่อให้เกิดความตึงเครียดระหว่างสองประเทศ

ปราสาทเขาพระวิหาร: ความทรงจำที่ไม่จางหาย

แม้เวลาจะผ่านไปกวา 60 ปี แต่  เหตุการณ์ใน พ.ศ. 2505 ที่ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือศาลโลก  (ICJ) ตัดสินให้ปราสาทเขาพระวิหารเป็นของกัมพูชายังคงฝังใจประชาชนไทยจำนวนมาก จนกระทั่ง เอ็มโอยู 43 และ เอ็มโอยู 44 ถูกมองว่าเป็นการสานต่อหรือแม้แต่ "ยอมจำนน" ต่อแนวทางที่อาจเปิดทางให้อีกฝ่ายอ้างสิทธิ์เพิ่มมากขึ้น

จุดเปราะบางชายแดน : ช่องบก สามปราสาท และเกาะกูด

มีหลายพื้นที่ชายแดนที่ถือเป็นจุดอ่อนไหวและมักเกิดความตึงเครียดขึ้น:

•             ช่องบก: เป็นจุดติดต่อชายแดนที่มีกิจกรรมทางทหารและประชาชนเคลื่อนไหวอย่างเข้มข้นหลายครั้ง

•             สามปราสาท: ได้แก่ ตาเมือนธม ตาเมือนโต๊ด และ ตาควาย ซึ่งถูกจัดว่าอยู่ในพื้นที่อ่อนไหว มีความซับซ้อนในการตีความแนวเขตแดนตามแผนที่คนละฉบับ

•             เกาะกูดและพื้นที่ทะเลใกล้เคียง: มีศักยภาพในการสำรวจและผลิตน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ ซึ่งเป็นเหตุให้ความตึงเครียดเพิ่มขึ้นเมื่อมีการอ้างสิทธิ์ในเขตทะเลทับซ้อน

การเคลื่อนไหวเชิงสัญลักษณ์และผลกระทบ

            ประชาชนชาวไทยและกัมพูชาหลายกลุ่มพยายามแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ตามชายแดน เช่น:

•             ร้องเพลงชาติบริเวณปราสาทหรือจุดพิพาท

•             ผูกผ้าสีธงชาติบนต้นไม้หรือวัตถุในพื้นที่พิพาท

•             ถ่ายคลิปวิดีโอ-ไลฟ์สดบริเวณปราสาทหรือด่านชายแดน

•             จุดธูปสักการะบนปราสาทตาเมือนธมและตาควาย

แม้ว่าเจตนาเหล่านี้จะมาจากความรักชาติ แต่กิจกรรมเหล่านี้อาจ ขัดต่อเงื่อนไขของข้อตกลงร่วมข้อ 5 ซึ่ง การกระทำลักษณะดังกล่าวอาจถูกตีความว่า "ละเมิดข้อตกลง" ส่งผลให้เกิดความขัดแย้งทางการทูต และในบางกรณี เจ้าหน้าที่อาจดำเนินคดีฐานสร้างความไม่สงบตามชายแดน หรือฝ่าฝืนพระราชบัญญัติเกี่ยวกับการเดินทางข้ามแดน

การฝ่าฝืนข้อ 5 ของ MOU 43 ในปราสาทตาควาย-ตาเมือน

กิจกรรมของชาวกัมพูชาหรือชาวไทยในพื้นที่ปราสาทตาเมือนและตาควาย เช่น การร้องเพลงชาติ    ผูกผ้าสีธงชาติ หรือการถ่ายคลิปวิดีโอเชิงสัญลักษณ์เพื่ออ้างสิทธิ์ ถือเป็นการฝ่าฝืนข้อตกลงร่วมข้อ 5 เนื่องจาก:

•             เป็นการอ้างสิทธิ์ครอบครอง: กิจกรรมเหล่านี้เป็นสัญลักษณ์แห่ง อธิปไตย (national sovereignty) เสมือนประกาศว่าพื้นที่นี้เป็นของกัมพูชาหรือของไทย ซึ่งขัดกับเจตนารมณ์ของข้อตกลงร่วมที่ต้องการรักษาสถานะเดิม (ยังไม่รู้ว่าเป็นของใคร)

•             ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด: สร้างภาพให้สาธารณชนทั้งสองฝ่ายเข้าใจผิดว่าพื้นที่นี้เป็นของตนแล้ว

•             ก่อให้เกิดความตึงเครียด: กระตุ้นความรู้สึกไม่พอใจในหมู่ประชาชนและทหารที่ดูแลพื้นที่ เนื่องจากทั้งไทยและกัมพูชาต่างก็มีหลักฐานทางประวัติศาสตร์และกฎหมายสนับสนุนการอ้างสิทธิ์ในพื้นที่ดังกล่าวเช่นกัน

•             สร้าง "ข้อเท็จจริงบนพื้นที่ (facts on the ground)" เพื่ออ้างสิทธิ์

บทลงโทษผู้ฝ่าฝืน (ในกรณีคนไทย)

1.            ขับไล่ออกจากพื้นที่, ริบของกลาง (เช่น ธง, อุปกรณ์), ห้ามเข้าพื้นที่

2.            ดำเนินคดีส่งฟ้องในศาลไทย

คำแนะนำสำหรับทหารไทยในการชี้แจงประชาชน

กับประชาชนไทย: อธิบายว่ากิจกรรมแสดงสัญลักษณ์บนพื้นที่ปราสาทนั้นฝ่าฝืนข้อตกลงร่วมเอ็มโอยู MOU 43 ข้อ 5

กับประชาชนกัมพูชา: อธิบายว่า กิจกรรมแสดงสัญลักษณ์อธิปไตย (អត្តាធិបតេយ្យភាព - Attaathibateyyaphap) เช่น การร้องเพลงชาติ/ติดธง/ถ่ายคลิป นั้นฝ่าฝืนข้อตกลงร่วม MOU 43 ข้อ 5 (រំលោភលើខណ្ឌទី៥ - Romlob Le Khanda Ti 5) การกระทำดังกล่าว อาจก่อให้เกิดความเข้าใจผิดและความตึงเครียด (អាចបង្កឱ្យមានការយល់ច្រឡំ និងភាពតានតឹង - Arch Bong Oyu Mean Karyl Kralom Ning Pheapta Toen)

ทหารไทย อาจจัดกิจกรรมมัดใจประชาชนทั้งชาวไทยและกัมพูชาได้ด้วยการแบ่งของบริจาค ที่เกินความต้องการ เช่นน้ำดื่ม ปลากระป๋อง บะหมี่สำเร็จรูป เพื่อสร้างความเป็นมิตร  และใช้พลังอ่อนโยน Soft Power  “เอาชนะใจโดยไม่ต้องรบ”

สรุปคือ ข้อตกลงร่วม MOU 43 ข้อ 5 ห้ามกิจกรรมแสดงอธิปไตย เช่น การร้องเพลงชาติ/ติดธง/ถ่ายคลิป ในปราสาทตาควาย-ตาเมือน เพราะเป็นการอ้างสิทธิ์ครอบครองที่ขัดต่อสถานะเดิมและก่อความตึงเครียด ทหารไทยมีอำนาจจัดการตามข้อตกลง เอ็มโอยู และกฎหมายไทย การฝ่าฝืนอาจนำไปสู่โทษทั้งทางปกครองและอาญา

แนวปฏิบัติของทหารไทย: เมื่อห้ามการแสดงสัญลักษณ์แล้วแต่คนไทยหรือกัมพูชาไม่เชื่อ

1.            ขั้นสันติวิธี:

o             เตือนด้วยวาจา 2 ครั้ง พร้อมแสดงหลักฐานทางกฎหมาย

o             บันทึกภาพ/เสียง เป็นหลักฐาน

o             รายงานผู้บังคับบัญชา

2.            ขั้นควบคุมตัว:

o             หากเป็นคนกัมพูชา แจ้งให้ทหารฝ่ายกัมพูชาดำเนินการ โดยทหารไทยไม่จับกุมเอง

o             หากเป็นคนไทย แจ้งให้ตำรวจไทยดำเนินคดี

3.            หลีกเลี่ยง:

o             งดใช้ความรุนแรง เพราะอาจทำให้เหตุการณ์ลุกลาม

แนวปฏิบัติของทหารไทย: กรณีคนไทย-เขมร "ต่อยตีกัน" ในพื้นที่ปราสาท

1.            ขั้นเฉียบพลัน:

o             แยกคู่กรณีทันที

o             ปฐมพยาบาลผู้บาดเจ็บ

o             กักตัวผู้ก่อเหตุเพื่อสอบสวน

2.            ขั้นสอบสวน:

o             ตั้ง "คณะทำงานร่วมไทย-กัมพูชา" สอบสวน

o             ตรวจสอบกล้องวงจรปิด/หลักฐานภาพ

o             หากผิดกฎหมาย ส่งตัวให้กระบวนการยุติธรรมของประเทศตน

3.            ป้องกันการเกิดเหตุซ้ำ:

o             เพิ่มจุดตรวจรอบพื้นที่อ่อนไหว

o             จัดการฝึกซ้อมระงับเหตุร่วม (Joint Drill)

o             ตั้ง "สายด่วนแจ้งเหตุ" เฉพาะพื้นที่

โดย สุริยพงศ์

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • บทความพิเศษ : \'รู้เขา รู้เขมร\' การแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ของชาวกัมพูชาที่ปราสาทตาเมือน–ตาควาย บทความพิเศษ : 'รู้เขา รู้เขมร' การแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ของชาวกัมพูชาที่ปราสาทตาเมือน–ตาควาย
  • บทความพิเศษ : \'รู้เขา รู้เขมร\' ภาษาและอักษรไทย-เขมร บทความพิเศษ : 'รู้เขา รู้เขมร' ภาษาและอักษรไทย-เขมร
  • บทความพิเศษ : \'รู้เขา รู้เขมร\' ประวัติศาสตร์และข้อพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชา ยุคปัจจุบัน บทความพิเศษ : 'รู้เขา รู้เขมร' ประวัติศาสตร์และข้อพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชา ยุคปัจจุบัน
  • ซีพี ร้อยเรียงความดี ผนึกทุกกลุ่มธุรกิจ มอบสิ่งของจำเป็น เครื่องอุปโภคบริโภค และด้านการสื่อสาร ช่วยเหลือพี่น้องชายแดนอีสานที่ประสบเหตุการณ์ไม่สงบไทย-กัมพูชา ซีพี ร้อยเรียงความดี ผนึกทุกกลุ่มธุรกิจ มอบสิ่งของจำเป็น เครื่องอุปโภคบริโภค และด้านการสื่อสาร ช่วยเหลือพี่น้องชายแดนอีสานที่ประสบเหตุการณ์ไม่สงบไทย-กัมพูชา
  • บทความพิเศษ : \'รู้เขา รู้เขมร\' สหรัฐอเมริกาขัดแย้งกับกัมพูชา 2568 ไฟป่าที่ลุกลาม บทความพิเศษ : 'รู้เขา รู้เขมร' สหรัฐอเมริกาขัดแย้งกับกัมพูชา 2568 ไฟป่าที่ลุกลาม
  • บทความพิเศษ : ‘รู้เขา รู้เขมร’ แรงงานกัมพูชาในประเทศไทย บทความพิเศษ : ‘รู้เขา รู้เขมร’ แรงงานกัมพูชาในประเทศไทย
  •  

Breaking News

‘นัท นิสามณี’ เผยแพลนแต่งงานปีหน้า! สารภาพเคยโด๊ปยาคุมม้า หวังสวยคูณสอง ตับไตเกือบพัง!

‘อย่าใกล้มากกว่านี้’ เพลงใหม่ชวนให้หัวใจหวั่นไหว จาก ‘ซิน จิรัชญา’

โอ๊ยเล่าเรื่อง 'นากรักมาก ม๊ากมาก'

‘ริด้า ฟาริดา’ชื่นใจแฟนละครอินทักต่อว่าทำไมใจร้าย เผยบทสรุป ‘คุณแม่แก้ขัด’ คาดไม่ถึง

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved