วันอังคาร ที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ผู้หญิง
คุยกัน 7 วันหน : หลากเรื่องน่าหนักใจของสวนสัตว์ต่างแดน

คุยกัน 7 วันหน : หลากเรื่องน่าหนักใจของสวนสัตว์ต่างแดน

วันอาทิตย์ ที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2568, 06.00 น.
Tag : สวนสัตว์ต่างแดน
  •  

สัปดาห์นี้ มีเรื่องราวน่าสนใจของสวนสัตว์ในต่างประเทศ 2 แห่งมาเล่าสู่กันฟัง

เริ่มที่สวนสัตว์เมืองอัลบอร์ก (Aalborg) ทางตอนเหนือของประเทศเดนมาร์ก ซึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมา มีรายงานจากสำนักข่าวต่างประเทศที่อาจทำให้หลายคนที่ได้อ่านต้องแปลกใจ เนื่องจากเมื่อไม่กี่วันก่อน ทางสวนสัตว์ได้โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ก Aalborg Zoo ขอให้ประชาชนบริจาคสัตว์เลี้ยง เช่น กระต่าย ไก่ หนูตะเภา และแม้แต่ม้าขนาดเล็ก ที่พวกเขารู้สึกว่าไม่ชอบใจหรือไม่ได้ประโยชน์แล้ว ให้กับสวนสัตว์ เพื่อที่จะใช้เป็นอาหารสำหรับสัตว์นักล่าในสวนสัตว์ เช่น สิงโตเอเชีย เสือสุมาตรา และแมวป่าลิงซ์ยุโรป


สวนสัตว์เมืองอัลบอร์กอธิบายว่า แนวคิดนี้มีเป้าหมายเพื่อเลียนแบบห่วงโซ่อาหารตามธรรมชาติของสัตว์ป่า การให้อาหารสัตว์นักล่าด้วยสัตว์ทั้งตัว เช่น กระต่าย ไก่ หรือหนูตะเภา ช่วยให้สัตว์นักล่าได้รับสารอาหารที่ทั้งช่วยเสริมสุขภาพ และส่งเสริมพฤติกรรมตามธรรมชาติเหมือนในป่า สวนสัตว์ระบุว่า สัตว์เลี้ยงเหล่านี้เป็นส่วนสำคัญในอาหารของสัตว์นักล่า โดยเฉพาะแมวป่าลิงซ์ยุโรปที่ต้องการเหยื่อทั้งตัวคล้ายที่พบในป่า สัตว์ที่ได้รับบริจาค จะถูก "การุณยฆาตอย่างนุ่มนวล" โดยพนักงานที่ผ่านการฝึกอบรม เพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีสิ่งใดสูญเปล่า ผู้ที่สนใจสามารถนำสัตว์มาบริจาคได้ที่สวนสัตว์ในเวลาทำการ สูงสุดคราวละ 4 ตัว และไม่จำเป็นนอกนัดหมายล่วงหน้า

 

นอกจากนี้ ทางสวนสัตว์เมืองอัลบอร์ก ยังขอรับบริจาค 'ม้า' ตัวเป็นๆ ด้วย ต้องเป็นม้าที่สุขภาพแข็งแรง ไม่เจ็บป่วย ผู้บริจาคม้าสามารถขอรับการลดหย่อนภาษีตามมูลค่าน้ำหนักของม้าได้ พร้อมกับเน้นย้ำว่า ภารกิจหลักของสวนสัตว์ ซึ่งเปิดตั้งแต่ปี 2478 และมีผู้เยี่ยมชมปีละกว่า 500,000 คน คือการอนุรักษ์ธรรมชาติ และการให้อาหารตามธรรมชาติเป็นส่วนหนึ่งของความรับผิดชอบนี้

ตามรายงานของสถานีโทรทัศน์ TV2 Nord ในปีนี้ สวนสัตว์เมืองอัลบอร์ก ได้รับบริจาคสัตว์กว่า 140 ตัว ทั้งกระต่าย ไก่บ้าน หนูตะเภา ปลาค็อด และม้า

เรื่องราวที่เกิดขึ้น ทำให้สวนสัตว์เมืองอัลบอร์กได้รับเสียงตอบรับที่หลากหลายในโลกออนไลน์ บางคนวิจารณ์ว่าแนวคิดนี้โหดร้ายและไม่เหมาะสม โดยเฉพาะการใช้สัตว์เลี้ยงที่เคยเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวมาเป็นอาหารสัตว์ป่า ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งระบุว่า การเอาสัตว์เลี้ยงมาเป็นอาหารสัตว์ป่าเป็น "สิ่งที่ยอมรับไม่ได้" ขณะที่อีกคนเรียกแนวคิดนี้ว่า "แนวโน้มที่น่าสยดสยองของความเฉยเมยต่อสัตว์ในเดนมาร์ก" อย่างไรก็ดี หลายคนเห็นด้วยกับแนวคิดนี้ ชาวเดนมาร์กคนหนึ่งที่เคยไปเที่ยวสวนสัตว์นี้มา 40 ปี เผยว่า เธอต้องการบริจาคม้าที่ป่วยหนักของเธอให้สวนสัตว์เพื่อใช้เป็นอาหาร แต่เนื่องจากม้าของเธอหนักกว่า 2,000 ปอนด์ ซึ่งเกินขนาดที่สวนสัตว์รับได้ เธอจึงบริจาคให้องค์กรอื่นเพื่อใช้ผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพหรือปุ๋ยแทน

 

เพีย นีลเซน รองผู้อำนวยการสวนสัตว์เมืองอัลบอร์ก กล่าวกับสื่อ The Guardian ของอังกฤษว่า การให้อาหารสัตว์นักล่าด้วยสัตว์เลี้ยงขนาดเล็ก เช่น กระต่าย ไก่ หรือม้า เป็นแนวปฏิบัติที่สวนสัตว์ทำมานานหลายปี และเป็นเรื่องปกติในเดนมาร์ก เมื่อสวนสัตว์เลี้ยงสัตว์นักล่า ก็จำเป็นต้องให้อาหารที่มีขน กระดูก และส่วนอื่น ๆ เพื่อให้ได้อาหารที่ใกล้เคียงธรรมชาติมากที่สุด การให้สัตว์ที่ต้องถูกการุณยฆาตด้วยเหตุผลต่าง ๆ มาใช้ประโยชน์เช่นนี้จึงสมเหตุสมผล และย้ำว่า ผู้เยี่ยมชมและพันธมิตรหลายรายของสวนสัตว์ล้วนชื่นชมและเห็นด้วยกับแนวทางนี้ของสวนสัตว์

ที่ผ่านมา มีข้อถกเถียงเกี่ยวกับนโยบายของสวนสัตว์เดนมาร์กเรื่องการจัดการสัตว์ ในปี 2014 สวนสัตว์โคเปนเฮเกนถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก หลังการุณยฆาตยีราฟหนุ่มวัย 2 ปี ชื่อ "มาริอัส" ซึ่งมีสุขภาพดี แต่ถูกฆ่าเพื่อป้องกันการผสมพันธุ์เลือดชิดในฝูงยีราฟ ร่างของมาริอัสถูกใช้บางส่วนเพื่อการวิจัยและบางส่วนเป็นอาหารให้สิงโต เสือ และเสือดาวในสวนสัตว์

ไม่กี่สัปดาห์ต่อมา สวนสัตว์แห่งนี้ถูกวิจารณ์อีกครั้งเมื่อการุณยฆาตสิงโต 4 ตัว เพื่อเปิดทางให้สิงโตตัวผู้ใหม่เข้าฝูง เพื่อหลีกเลี่ยงการผสมพันธุ์แบบเลือดชิดเช่นกัน สะท้อนถึงแนวทางของสวนสัตว์ในยุโรป ที่มักปล่อยให้สัตว์ผสมพันธุ์ตามธรรมชาติและการุณยฆาตสัตว์ส่วนเกิน แทนการใช้ยาคุมกำเนิดเหมือนในสหรัฐฯ

 

อย่างไรก็ดี แนวทางปฏิบัติดังกล่าวอาจใช้เพื่อลดความแออัดของสัตว์ในสวนสัตว์ ซึ่งบางกรณีก็นำมาซึ่งเสียงวิพากษ์วิจารณ์

สวนสัตว์เทียร์การ์เทน เนิร์นแบร์ก (Tiergarten Nürnberg) ในเมืองเนิร์นแบร์ก เยอรมนี ได้ทำการฆ่าลิงบาบูนสายพันธุ์กินี (Guinea baboons) จำนวน 12 ตัว แม้จะเผชิญการประท้วงอย่างหนักจากกลุ่มพิทักษ์สัตว์ ทางสวนสัตว์ให้เหตุผลว่าประชากรบาบูนที่เพิ่มขึ้นถึง 43 ตัว เกินกว่าความจุของสถานที่พักที่รองรับเพียง 25 ตัวและลูก ๆ ลิงทำให้เกิดความขัดแย้งภายในฝูง

สวนสัตว์ระบุด้วยว่า ที่ผ่านมาได้พยายามแก้ไขปัญหาความแออัดมานาน โดยตั้งแต่ปี 2011 มีบาบูน 16 ตัวถูกย้ายไปยังสวนสัตว์ในกรุงปารีสของฝรั่งเศส ประเทศจีน และสเปน แต่สวนสัตว์เหล่านี้ก็ถึงขีดจำกัดความจุแล้วเช่นกัน นอกจากนี้ การทดลองใช้การคุมกำเนิดเมื่อหลายปีก่อนไม่ประสบผลสำเร็จ จึงถูกยกเลิก สวนสัตว์ยังพิจารณาข้อเสนอรับบาบูนจากหน่วยงานอื่น แต่ไม่สามารถดำเนินการได้ ส่งผลให้ตัดสินใจฆ่าบาบูน 12 ตัว โดยเลือกตัวที่ไม่ใช่ตัวเมียตั้งท้องหรือเกี่ยวข้องกับงานวิจัย และใช้วิธีการยิง

 

แผนการฆ่าบาบูน ถูกประกาศครั้งแรกในเดือน ก.พ. 2024 ได้จุดกระแสวิพากษ์วิจารณ์จากกลุ่มสิทธิสัตว์ เช่น Animal Rebellion และนำไปสู่การประท้วงหน้าสวนสัตว์เมื่อปลายเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา จนสวนสัตว์ประกาศปิดให้บริการโดยอ้าง "เหตุผลด้านการปฏิบัติงาน" แต่ก็ยังมีนักกิจกรรม 7 คนบุกเข้าไปในสวนสัตว์ โดยหญิง 1 คนใช้กาวติดมือกับพื้นเพื่อประท้วง ทั้งหมดจะถูกควบคุมตัวเพียงไม่กี่เมตรจากทางเข้า

กลุ่มพิทักษ์สัตว์ เช่น สมาคมพิทักษ์สัตว์แห่งเยอรมนี ประกาศจะยื่นฟ้องร้องทางอาญาต่อสวนสัตว์ โดยมองว่าการฆ่าบาบูนที่มีสุขภาพดีเป็นการละเมิดกฎหมายคุ้มครองสัตว์ การการุณยฆาตสัตว์ในสวนสัตว์ยุโรปเป็นเรื่องปกติด้วยเหตุผลต่าง ๆ เช่น ความแออัดหรือปัญหาสุขภาพ แต่กรณีนี้ถูกเปรียบเทียบกับเหตุการณ์ในปี 2557 ที่สวนสัตว์เมืองอัลบอร์กในเดนมาร์กฆ่ายีราฟวัย 2 ปีที่มีสุขภาพดีและชำแหละต่อหน้าสาธารณะ ซึ่งสร้างความไม่พอใจอย่างมาก

ทั้งนี้ สวนสัตว์เมืองเนิร์นแบร์ก กำลังเผชิญความท้าทายจากพื้นที่จำกัด ซึ่งเป็นปัญหาที่พบในสวนสัตว์หลายแห่งในยุโรป การเพิ่มจำนวนประชากรสัตว์ที่ควบคุมไม่ได้ ทำให้เกิดความขัดแย้งในฝูง และสวนสัตว์อ้างว่าไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากการการุณยฆาต อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจนี้จุดกระแสวิจารณ์ถึงจริยธรรมในการจัดการสัตว์ในสวนสัตว์ และเรียกร้องให้มีการทบทวนแนวปฏิบัติในอนาคต

ดาโน โทนาลี

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  

Breaking News

(คลิป) 'ฮุนเซน-ทักษิณ'ตราบาป! 'ไทย-กัมพูชา'

(คลิป) 'เจ๊ปอง'เปิดที่มา'ป้ามาลี' จากนักร้องสู่ยศพลโท

TMAC สรุป 11 วัน! กู้วัตถุระเบิดชายแดนไทย-กัมพูชาใน 4 จังหวัด 483 รายการ

ระทึก! เครื่องบินเล็กตกกระแทกรันเวย์ ก่อนไถลพุ่งชนเครื่องบินหลายลำไฟลุกท่วม

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved