ปลุกพลังผู้นำหญิง! CP เนรมิตเวทีนวัตกรรม 'Where Are the Women in Innovation' ดันผู้หญิงเป็นพลังขับเคลื่อนแห่งอนาคต

ปลุกพลังผู้นำหญิง! CP เนรมิตเวทีนวัตกรรม 'Where Are the Women in Innovation' ดันผู้หญิงเป็นพลังขับเคลื่อนแห่งอนาคต

วันเสาร์ ที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2568, 12.38 น.

ปลุกพลังผู้นำหญิง! CP เนรมิตเวทีนวัตกรรม “Where Are the Women in Innovation – Why It Matters” จุดประกายอนาคตที่เท่าเทียมและยั่งยืนในมหกรรม “CP Innovation Exposition & Symposium 2025”

มหกรรม “CP Innovation Exposition & Symposium 2025” มหกรรมด้านนวัตกรรมระดับนานาชาติครั้งที่ 8 จัดโดยเครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) เดินหน้าสู่วันที่สามอย่างยิ่งใหญ่ ณ ทรู ดิจิทัล พาร์ค กรุงเทพมหานคร โดยปีนี้ซีพีย้ำบทบาทในฐานะ องค์กรแห่งนวัตกรรม” (Tech Driven Company 5.0) ที่ขับเคลื่อนความก้าวหน้าของประเทศมากว่าศตวรรษ และกำลังก้าวเข้าสู่ศตวรรษที่สองด้วยพลังแห่งเทคโนโลยี นวัตกรรม และการพัฒนาอย่างยั่งยืน งานนี้รวบรวมผลงานกว่า 200 ชิ้นงานจากพนักงานทั่วโลก จัดแสดง “ชุมชนหุ่นยนต์เสมือน” มากที่สุดครั้งแรกของไทย และเวทีเสวนากว่า 30 เวที โดยมีผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีจากองค์กรระดับโลกกว่า 60 คน ร่วมแลกเปลี่ยนมุมมอง


หนึ่งในไฮไลต์สำคัญของวันที่สามคือเวทีเสวนา “Where Are the Women in Innovation – Why It Matters” ที่สะท้อนบทบาทสำคัญของสตรีในโลกแห่งนวัตกรรม โดยมีผู้นำหญิงผู้ทรงพลังมาร่วมแบ่งปันประสบการณ์ ได้แก่ ดร.นิรามัย เอกรัตน์เจริญชัย ผู้เชี่ยวชาญด้านการวิจัยสุขภาพและอายุยืนยาว เครือเจริญโภคภัณฑ์, นางสาวอรนุช เลิศสุวรรณกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท เทคซอส มีเดีย จำกัด และนางสาวมนสินี นาคปนันท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ (ร่วม) บริษัท แอสเซนด์ มันนี่ จำกัด โดยมี แคนอติรุจ กิตติพัฒนะ ผู้ประกาศข่าวชื่อดังจากช่อง 3 เป็นผู้ดำเนินรายการ

 

ดร.นิรามัย เอกรัตน์เจริญชัย ผู้เชี่ยวชาญด้านการวิจัยสุขภาพและอายุยืนยาว เครือเจริญโภคภัณฑ์ ถ่ายทอดแรงบันดาลใจในการเข้าสู่วงการนวัตกรรมว่า จุดเริ่มต้นมาจากการเรียนไบโอเทคและชีวเคมีในช่วงมหาวิทยาลัย ที่ทำให้เห็นพลังของการถอดรหัสพันธุกรรมและความเป็นไปได้ใหม่ ๆ จนนำไปสู่บทบาทสำคัญในซีพีในการค้นหาเทคโนโลยีด้านสุขภาพและอายุยืนยาว ซึ่งที่ผ่านมาไม่ได้มองว่าความเป็นผู้หญิงจะเป็นข้อจำกัดในการศึกษา หรือการทำงานในสายไบโอเทคโนโลยีแต่อย่างใด ตรงกันข้าม สามารถนำจุดเด่นมาบางประการของความเป็นผู้หญิงเข้ามาช่วยพัฒนาการทำงานได้   

 ความเป็นผู้หญิงไม่ใช่ข้อจำกัดในการทำงานด้านเทคโนโลยี คุณค่าของเราไม่จำเป็นต้องให้ใครมาตัดสิน หากเราเคารพและเชื่อมั่นในสิ่งที่เราทำ วันหนึ่งคนอื่นก็จะเห็นคุณค่าเช่นกัน  ดร.นิรามัยกล่าว

อย่างไรก็ตาม ดร.นิรามัย เชื่อว่า หากผู้หญิงมีพื้นที่ในระบบนิเวศนวัตกรรมมากขึ้น เราจะไม่เพียงได้เห็นผู้หญิงเข้ามามีบทบาทมากขึ้นเท่านั้น แต่ยังหมายถึงการสร้างชุมชนที่แข็งแกร่ง ที่พร้อมส่งต่อองค์ความรู้ ประสบการณ์ และพลังการสนับสนุนซึ่งกันและกัน หากเริ่มต้นจากสิ่งเล็ก ๆ รอบตัว ก็สามารถขยายเป็นเครือข่ายที่ทรงพลัง ที่จะช่วยให้ผู้หญิงก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงในสังคมได้จริง

นางสาวอรนุช เลิศสุวรรณกิจ หรือมิหมี ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท เทคซอส มีเดีย จำกัด เล่าถึงเส้นทางจากการถูกบ่มเพาะด้านวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ตั้งแต่วัยเด็ก ก่อนก่อตั้ง Techsauce ขึ้นเพื่อเป็นแพลตฟอร์มสำคัญในการสร้างระบบนิเวศสตาร์ทอัพไทยและเชื่อมโยงสู่ระดับภูมิภาค โดยเธอระบุว่าประเทศไทยจะไม่ได้เผชิญปัญหาความเหลื่อมล้ำทางเพศในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีชัดเจนเหมือนต่างประเทศ ซึ่งนั่นทำให้ความหลากหลายเป็นปัจจัยสำคัญสู่ความสำเร็จ และเป็นเปิดทางให้ผู้หญิงก้าวขึ้นเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมได้

การทำงานร่วมกันจากหลากหลายเพศจะทำให้ productivity สูงขึ้น และในเมื่อผู้หญิงกว่าครึ่งของโลกคือผู้ใช้งาน (users) การมีผู้หญิงในฐานะผู้สร้างนวัตกรรมจึงสำคัญไม่แพ้กันนางสาวอรนุชกล่าว

นางสาวอรนุช ยังเชื่อว่า ไทยสามารถเป็นต้นแบบที่เปิดพื้นที่ให้ผู้หญิงจากภูมิภาคอื่น ไม่ว่าจะเป็นญี่ปุ่นหรือประเทศเพื่อนบ้าน ได้เข้ามาศึกษา เรียนรู้ และต่อยอดจากประสบการณ์ของเรา การส่งต่อองค์ความรู้เช่นนี้ไม่เพียงยกระดับผู้ประกอบการหญิงในระดับภูมิภาค แต่ยังช่วยสร้างระบบนิเวศนวัตกรรมที่แข็งแรงและมีพลังร่วมกันในระดับเอเชีย

นางสาวมนสินี นาคปนันท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ (ร่วม) บริษัท แอสเซนด์ มันนี่ จำกัด ถ่ายทอดเส้นทางจากการเรียนวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ในยุคเริ่มต้นของอินเทอร์เน็ต ก่อนเข้ามามีบทบาทสำคัญในทรู คอร์ปอเรชั่น และต่อยอดสู่การก่อตั้ง Ascend Money ธุรกิจฟินเทคที่ช่วยแก้ปัญหาทางการเงินของคนไทยและอาเซียน โดยระบุว่าความเป็นผู้หญิงไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการทำงานด้านเทคโนโลยี แต่กลับเป็นมุมมองที่เสริมให้เกิดการทำงานเชิงการทำงานแบบร่วมมือกัน (Collaborative) ที่มีพลัง

 

ความเป็นผู้หญิงไม่ใช่ข้อจำกัด แต่คือพลังในการสร้างการทำงานร่วมกันอย่างแท้จริง สิ่งสำคัญไม่ใช่เพศชายหรือหญิง ตรงกันข้ามเราควรทำงานแบบร่วมกัน (Collaborative) ขณะเดียวกันก็ส่งเสริมบทบาทของผู้หญิงในการร่วมมือกันข้ามอุตสาหกรรม เพื่อให้เกิดการเรียนรู้ และถ่ายทอด สร้างพลังของผู้หญิงให้มากขึ้น นางสาวมนสินีกล่าว

นางสาวมนสินี ยังกล่าวเสริมว่ามิติการทำธุรกิจไม่ได้พิจารณาจากเพศ หากแต่ใช้ข้อมูลเชิงลึก (data insight) เป็นตัวกำหนดทิศทางการพัฒนาผลิตภัณฑ์ เช่น กรณีคุณแม่ที่ต้องการเห็นพฤติกรรมการใช้จ่ายของลูก จึงถูกต่อยอดเป็นฟีเจอร์ที่ตอบสนองความต้องการได้อย่างแท้จริง ภายใต้ความยินยอมของผู้ใช้ หรือแม้แต่การสร้างเกมเพื่อปลูกฝังการออมเงินให้กับเด็ก ๆ ทั้งหมดนี้สะท้อนให้เห็นว่าการทำงานที่ตั้งต้นจาก “ปัญหา” และความเข้าใจเชิงลึกของผู้ใช้ คือหัวใจสำคัญของนวัตกรรม

เวทีเสวนาครั้งนี้ไม่เพียงเป็นการแลกเปลี่ยนแนวคิดจากผู้นำหญิงที่ทรงพลัง แต่ยังเป็นการยืนยันว่า ความเท่าเทียม ความหลากหลาย และการเปิดพื้นที่ให้ผู้หญิงมีบทบาท คือกุญแจสำคัญของการขับเคลื่อนนวัตกรรมและสังคมสู่อนาคตที่ยั่งยืน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top