วันอังคาร ที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
มูลนิธิร่วมจิตต์น้อมเกล้าฯ เพื่อเยาวชน ในพระบรมราชินูปถัมภ์ ร่วมกับ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ จัดโครงการส่งเสริมศิลปะและวัฒน ธรรมไทย ประจำปี 2568 ซึ่งมูลนิธิฯ จัดเป็นครั้งที่ 10 เพื่อเฉลิมพระเกียรติในวโรกาสที่ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ประธานที่ปรึกษามูลนิธิฯ ทรงเจริญพระชนมายุ 70 พรรษา ปี2568 โดยมี ภราดา ดร.ศิริชัย ฟอนซีกา อธิการบดีมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เป็นประธานโครงการฯ เพื่อนำตัวแทนเยาวชนทุนมูลนิธิด้อยโอกาส 97 คน จาก 66 จังหวัด ที่ผู้ว่าราช การจังหวัดเป็นผู้คัดเลือกมาทัศนศึกษาศิลปะและวัฒนธรรมไทยในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล เมื่อวันที่ 21-25 ตุลาคม 2568 ที่ผ่านมา
โครงการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้เยาวชนผู้ด้อยโอกาสในชนบทได้มารับความรู้ ได้เพิ่มพูนประสบการณ์ด้านศิลปวัฒนธรรมไทยและมุ่งหวังที่จะปลูกฝังจิตสำนึกให้เยาวชนไทยเกิดความภาคภูมิใจ ความรัก ความผูกพันและความหวงแหนในสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และวัฒนธรรมไทยให้มากยิ่งขึ้น ตามพระดำริในพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ ประธานมูลนิธิร่วมจิตต์น้อม เกล้าฯ เพื่อช่วยกันอนุรักษ์มรดกอันล้ำค่าของชาติไทยให้ยั่งยืนอยู่คู่ผืนแผ่นดินไทยตราบกาลนิรันดร์
ก่อนเริ่มพิธี ผศ.ดร.พรทิพย์ พุกผาสุข เลขาธิการมูลนิธิฯ และรองประธานโครงการฯ ได้จุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย และเปิดกรวยถวายราชสักการะหน้าพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี กับทั้งได้เชิญพระราชดำรัสในพระองค์มาอ่านให้เยาวชนผู้รับทุนมูลนิธิฯทุกคนได้ซาบซึ้งที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ที่แม้ว่าจะทรงมีพระราชกรณียกิจมากมายเพียงใด โดยพระราชดำรัสส่วนหนึ่ง คือ “ทรงแสดงความยินดีแก่เยาวชนทุกคนซึ่งได้รับคัดเลือกเป็นผู้แทนจากจังหวัดต่างๆ มารับโอกาสอันดีเลิศครั้งหนึ่งในชีวิตที่ได้มาร่วมโครงการดีๆ เช่นนี้ เท่ากับเป็นการเปิดโลกทัศน์ให้กว้างขวางยิ่งขึ้น ตามที่ผู้ใหญ่ทุกคนตั้งใจคัดสรรมาให้เยาว ชนผู้รับทุนทุกคน นอกจากความรู้ทางวิชาการที่โรงเรียนแล้ว ขอให้ทุกคนนำประสบการณ์ และประโยชน์ของการมาทัศนศึกษาร่วมกันกับเพื่อน ๆ จากจังหวัดต่างๆ ในครั้งนี้ไปประยุกต์ใช้ในการดำเนินชีวิตต่อไป เพื่อจะได้สร้างสรรค์ประโยชน์ให้แก่ตนเอง ครอบครัวและส่วนรวม อันจะส่งผลให้บ้านเมืองมีความผาสุกร่มเย็นและมั่นคงยั่งยืนตลอดไป”
จากนั้นมูลนิธิจัดให้เยาวชนได้ฟังการบรรยายหัวข้อ “สถาบันพระมหากษัตริย์กับประเทศไทย ” โดย นายหมวดโท น้ำเพ็ชร คชเสนี สัตยารักษ์ วิทยากรจิตอาสาพระราชทาน ก่อนเดินทางไปทัศนศึกษา ณ สถานที่ต่างๆ สถานที่สำคัญที่มูลนิธิฯได้คัดสรรเป็นอย่างดีให้เยาวชนผู้รับทุนมูลนิธิฯได้ไปทัศนศึกษา อาทิ พระบรมมหาราชวัง วัดพระศรีรัตนศาสดาราม เมืองโบราณ วัดพระเชตุพนฯ วัดอรุณราชวราราม วัดสุทัศน์ มิวเซียมสยาม พิพิธภัณฑ์การเกษตรเฉลิมพระเกียรติ ร.9 ถวายบังคมพระบรมราชานุสรณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 รวมทั้งให้เยาวชนได้ผ่อนคลาย สนุกสนานและมีความรอบรู้กับการไปชม Sea Life Ocean World ที่พารากอน รับฟังโอวาทจากผู้ว่าราชการกรุงเทพมหา นคร ที่ศาลาว่าการ กทม. โดยภราดา ดร.ฟอนซิก้า ได้จัดให้เยาวชนทุกคนพักค้างที่มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ วิทยาเขตสุวรรณภูมิ ซึ่งเด็กๆ ต่างจังหวัดจะตื่นตาตื่นใจมาก เพราะมีสถาปัตยกรรมที่สวยงดงามมากเช่นในยุโรป และเป็นสถานที่ที่คนจำนวนมากเลือกมาถ่ายพรีเว็ดดิ้งด้วย
การจัดโครงการนี้เกิดจากความคิดริเริ่มของ ภราดา ดร.ประทีป ม.โกมลมาศ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เมื่อปี 2537 และจัดต่อเนื่องถึงครั้งที่ 9 โดย ภราดา ดร.บัญชา แสงหิรัญ เพื่อให้โอกาสและประสบการณ์ที่พิเศษแก่เยาวชนผู้รับทุนมูลนิธิฯ จากจังหวัดต่างๆ ทั่วประ เทศซึ่งเป็นโอกาสครั้งหนึ่งในชีวิตที่หาได้ยาก โดยเฉพาะบางคนยังไม่เคยมากรุงเทพ เยาวชนที่เคยมาร่วมโครงการครั้งที่ผ่านๆ มาร่วมแสดงความคิดเห็นไว้ว่าประทับใจในโครงการที่ดีเช่นนี้มากๆ ซึ่งมูล นิธิฯ ได้รับความสนับสนุนอย่างดียิ่งจากผู้มีจิตศรัทธาร่วมเฉลิมพระเกียรติจำนวนมาก อาทิ กระทรวงมหาดไทย กองทัพบกกองทัพเรือ สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล จังหวัดสมุทรปราการ บขส. และเจ้าของทุนผู้อุปการะให้ทุนการศึกษา
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี