วันพฤหัสบดี ที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2568
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดอาคารเรียนรู้เฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา และทรงเปิดงาน “โครงการหลวง 2568 ” ณ ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรโครงการหลวง ชนกาธิเบศรดำริ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ โดยมี พลเอก กัมปนาท รุดดิษฐ์ องคมนตรี เลขาธิการและประธานกรรมการบริหารมูลนิธิโครงการหลวง นายวิรัตน์ ปราบทุกข์ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน) พร้อมคณะกรรมการจัดงาน ข้าราชการ และประชาชน เฝ้าฯรับเสด็จ

อาคารเรียนรู้เฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา จัดตั้งขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 และน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ผู้ทรงก่อตั้งมูลนิธิโครงการหลวงและวางรากฐานการพัฒนาทางเลือกบนที่สูงอย่างยั่งยืน เป็นอาคารเรียนรู้ของสถาบันการเรียนรู้มูลนิธิโครงการหลวง ในการสนองพระบรมราโชบายสืบสาน รักษา และต่อยอด งานของมูลนิธิโครงการหลวงที่ประสบผลสำเร็จจนเป็นที่ประจักษ์อย่างกว้างขวาง ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เริ่มก่อสร้างเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2567 เป็นอาคาร 3 ชั้น ประกอบด้วย ห้องปฏิบัติการเรียนรู้ ห้องอบรมประชุมสัมมนา ห้องนิทรรศการ ถ่ายทอดประวัติศาสตร์โครงการหลวง และห้องการเรียนการสอนหลักสูตรต่าง ๆ อีกทั้งเป็นต้นแบบอาคารที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและประหยัดพลังงาน

ในโอกาสเดียวกันนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงเปิดงาน “โครงการหลวง 2568“ ณ ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรโครงการหลวง ชนกาธิเบศรดำริ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ ทอดพระเนตรการแสดง สื่อผสม แสง สี เสียง ประกอบบทเพลงประสานเสียง ชุด “ทศมมหาราชา พระมหากรุณานำการพัฒนาสู่ความยั่งยืน” เป็นชุดการแสดงที่ถ่ายทอดพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงสืบสาน รักษา และต่อยอดแนวพระราชดำริของสมเด็จพระบรมชนกนาถ ที่ทรงก่อตั้งมูลนิธิโครงการหลวง นำไปสู่การพัฒนาในพื้นที่สูงด้วยแนวทางโครงการหลวงโมเดล โดยนักร้องประสานเสียงเยาวชน ร่วมกับวงดนตรีจิตอาสา ในรูปแบบศิลปะล้านนาร่วมสมัย ประกอบด้วย 3 องก์ ได้แก่ องก์ที่ 1 เสียงแห่งขุนเขา องก์ที่ 2 แสงทองแห่งพระมหากรุณา องก์ที่ 3 ความยั่งยืนแห่งแผ่นดิน สืบสาน รักษา ต่อยอด

พร้อมกันนี้ เสด็จฯ ไปทอดพระเนตรนิทรรศการ “ทศมมหาราชา พระมหากรุณานำการพัฒนาสู่ความยั่งยืน” ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวกับพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในการสืบสาน รักษา และต่อยอด งานโครงการหลวง และนำเสนอผลสำเร็จของงานวิจัยและนวัตกรรมของมูลนิธิโครงการหลวง ประกอบด้วย นิทรรศการ สืบสาน “นวัตวิจัย ผลลัพธ์ที่จับต้องได้” นิทรรศการ รักษา “พืชพระราชทาน สร้างงาน สร้างคุณค่า” นิทรรศการ ต่อยอด “พลังบูรณาการ เพื่อความยั่งยืนของพื้นที่สูง” และนิทรรศการ สืบสาน รักษา ต่อยอด “หัตถศิลป์พื้นที่สูง...ด้วยพระเมตตาแห่งแผ่นดิน” พร้อมทอดพระเนตรซุปเปอร์มาร์เก็ตจำหน่ายผลิตผลและผลิตภัณฑ์โครงการหลวง ซึ่งในปีนี้ มีสินค้าที่โดดเด่น อาทิ ข้าวเจ้าพันธุ์จาคูเนเน ซึ่งเป็นข้าวเจ้าพันธุ์ท้องถิ่นของชนเผ่าลีซอ น้ำนมข้าวโพดหวาน ชาอู่หลงกลิ่น ข้าวเหนียวมะม่วง เป็นชาโครงการหลวงที่มีกลิ่นและรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว และกุหลาบพันธุ์รอยัล 4 สมควรแก่เวลา จึงประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินไปยังท่าอากาศยานทหาร กองบิน 41 อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อประทับเครื่องบินพระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินกลับกรุงเทพมหานคร

งานโครงการหลวง 2568 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 1-10 ธันวาคม 2568 ในปีนี้ ภายในงานแบ่งพื้นที่การจัดงานเป็น 2 โซน ประกอบด้วย ลานวัฒนธรรมโครงการหลวง เป็นลานจัดกิจกรรมการแสดงกลางแจ้ง และภายในอาคารเรียนรู้เฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา มีการจัดแสดงนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ นิทรรศการแสดงผลงานทางวิชาการ และนิทรรศการจากหน่วยงานต่าง ๆ อาทิ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา และโรงพยาบาลสวนปรุง กรมส่งเสริมสุขภาพจิต รวมถึงจัดจำหน่ายผลิตผล และผลิตภัณฑ์แปรรูป จาก 14 กลุ่มสินค้า กว่า 1,200 รายการ

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี