มูลนิธิศุภนิมิตแห่งประเทศไทย เร่งช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้กว่า 8 พันครัวเรือน

มูลนิธิศุภนิมิตแห่งประเทศไทย เร่งช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้กว่า 8 พันครัวเรือน

วันพฤหัสบดี ที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2568, 16.28 น.

มูลนิธิศุภนิมิตแห่งประเทศไทยเริ่มปฏิบัติการตอบสนองฉุกเฉินในพื้นที่ภาคใต้ตั้งแต่วันที่ 21 พฤศจิกายน 2568 ซึ่งเป็นช่วงที่หลายชุมชนเริ่มประสบภัยน้ำท่วมฉับพลัน เจ้าหน้าที่ของมูลนิธิศุภนิมิตฯ ได้ลงพื้นที่ทันทีเพื่อประเมินสถานการณ์และให้ความช่วยเหลือเบื้องต้นแก่ครอบครัวที่ถูกตัดขาดจากโลกภายนอก พร้อมดูแลเด็กเล็ก ผู้หญิง ผู้สูงอายุ ผู้พิการ และครอบครัวรายได้น้อย ซึ่งเป็นกลุ่มที่ฟื้นตัวยากที่สุดในยามเกิดภัยพิบัติ

มูลนิธิศุภนิมิตฯ ได้ขยายการช่วยเหลือเร่งด่วนในจังหวัดสงขลา โดยมอบข้าวสาร อาหารแห้ง นม และชุดสุขอนามัยให้ครอบครัวในศูนย์พักพิง 10 แห่ง ช่วยเหลือผู้ประสบภัยรวมถึงเด็กกว่า 15,200 คน ในขณะที่ระดับน้ำยังคงสูงขึ้นและความเสียหายขยายตัวเป็นวงกว้างในหลายพื้นที่ของภาคใต้


หลังจากการตอบสนองในระยะแรก มูลนิธิศุภนิมิตฯ ได้ประกาศการดำเนินโครงการ “ตอบสนองอุทกภัยภาคใต้ 2568” โดยมีเป้าหมายให้ความช่วยเหลือกว่า 8,100 ครัวเรือน (กว่า 32,000 คน) การขยายการช่วยเหลือครั้งนี้ครอบคลุมการจัดหาอาหารและสิ่งของจำเป็น การตั้งครัวชุมชน การดูแลสุขภาวะจิตสังคมเด็ก การจัดอุปกรณ์การเรียน รวมถึงการช่วยเหลือเพื่อฟื้นฟูระยะเริ่มต้น เช่น การซ่อมแซมบ้านและโรง เรียนที่ได้รับความเสียหาย พร้อมทั้งจัดการอบรมการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติเพื่อเสริมสร้างความพร้อมของชุมชนขณะที่มูลนิธิศุภนิมิตฯ กำ ลังตอบสนองต่อความต้องการเร่งด่วนของครอบครัวที่ได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะเด็กกลุ่มเปราะบาง การประเมินความต้องการเพิ่มเติมยังดำ เนินไปพร้อมกัน เพื่อปรับแผนการฟื้นฟูให้เหมาะสม และอาจขยายการช่วยเหลือไปยังพื้นที่หรืออำเภออื่น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความสามารถในการระดมทุน น้ำท่วมครั้งนี้ครอบคลุมพื้นที่ 9 จังหวัด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ตรัง พัทลุง สตูล สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ส่งผลกระทบต่อประชาชนมากกว่า 1,099,877 ครัวเรือน หรือราว 3 ล้านคน และมีรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

“สิ่งที่เราเห็นในพื้นที่ตั้งแต่วันแรก ไม่ได้มีเพียงบ้านเรือนที่เริ่มจมน้ำ แต่คือความหวาดกลัวและความไม่ปลอดภัยที่เด็กหลายพันคนต้องเผชิญ เด็กเล็กหลายคนต้องอพยพออกจากบ้านกลางดึกโดยไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น ผู้ปกครองเองก็มีความกังวลอย่างมากว่าจะปกป้องลูกหลานได้อย่างไรขณะที่ระดับน้ำท่วมสูงขึ้นเรื่อย ๆ ในบ้าน โดยเฉพาะครอบครัวที่มีผู้สูงอายุและผู้พิการที่ไม่สามารถอพยพได้ด้วยตนเอง” รสลิน โกแวร์ ผู้อำนวยการมูลนิธิศุภนิมิตแห่งประเทศไทย

หลายคนต้องอพยพไปอยู่ศูนย์พักพิงในขณะที่หลายคนไม่สามารถหาที่พักได้ มีหลายคนที่ไม่ได้ทานอาหารเป็นเวลาหลายวัน มูลนิธิศุภนิมิตฯ ทำงานกับภาคี ศูนย์พักพิง 10 แห่ง คริสตจักรในจังหวัดสงขลา จัดหาอาหาร อุปกรณ์เครื่องใช้ จัดตั้งโรงครัว จัดทำกิจกรรมสันทนาการเพื่อดู แลสภาพจิตใจของเด็ก ๆ ที่ได้รับผลกระทบที่พักอยู่ที่ศูนย์พักพิง ตอนนี้ ประชาชนอยากกลับเข้าบ้านมากที่สุด เด็ก ๆ อยากกลับไปเรียน อุป กรณ์เครื่องใช้ในการดำรงชีวิต ที่พักอาศัย การเรียนการสอน ให้ชุมชนเข้าสู่สภาวะปกติ ให้เด็ก ๆ ได้กลับไปโรงเรียน ได้อย่างปลอดภัยและเร็วที่สุด” รสลิน กล่าวเสริม

เด็กๆ ในพื้นที่ อำเภอสทิงพระ จ.สงขลา เล่าให้ฟังว่า “น้ำท่วมขึ้นสูงมาก ต้องเอาอิฐมารองของให้พ้นน้ำ แต่ก็ยังไม่พ้นอยู่ดี ครอบครัวต้องย้ายไปอยู่ที่วัด มีคนอยู่ร่วมกัน 40–50 คน เด็กประมาณสิบคน ได้รับข้าวและของใช้ แต่ไม่ได้สนุกเลย อยากให้น้ำลด จะได้กลับไปโรงเรียน คิดถึงเพื่อนและอยากเรียนหนังสือ”

คุณตา คุณยายของน้อง ๆ กล่าวว่า "คุณแม่ของน้อง ๆ ได้รับการอบรมจากศุภนิมิตฯ เรื่องครอบครัวสุขสันต์และการประกอบอาชีพ พวกเราอยากให้ทุกอย่างกลับมาเหมือนเดิม จะได้เรียนหนังสือ เล่นแบดมินตัน และใช้ชีวิตเหมือนเดิมอีกครั้ง ซึ่งน้องเรียนเก่งมาก ได้เกรดเฉลี่ย 3.98 เลย”

ผู้อำนวยการโรงเรียนในอำเภอสทิงพระ จ.สงขลา กล่าวฟังว่า“โรงเรียนถูกน้ำท่วมตั้งแต่วันที่ 22 พฤศจิกายน ระดับน้ำสูงเกือบสองเมตรและท่วมนานหลายวัน ทำให้อุปกรณ์การเรียนการสอน ทั้งของโรงเรียนและของนักเรียนเสียหายทั้งหมด บ้านของชาวบ้านเองก็น้ำท่วมสูงกว่าเดิม แม้ทุกคนจะพยายามยกของขึ้นที่สูงแล้ว แต่ระดับน้ำปีนี้สูงกว่าที่คาดมาก แม้แต่ห้องสมุดก็ไม่รอด ตอนนี้น้ำเริ่มเน่าเพราะขังนาน และเริ่มมีความกังวลเรื่องโรคที่อาจตามมา รวมถึงปัญหาน้ำดื่มที่เริ่มขาดแคลน”

“โรงเรียนขอขอบคุณมูลนิธิศุภนิมิตฯ ที่เคยสนับสนุนสร้างห้องน้ำยกสูงตั้งแต่ปี 2560 ซึ่งช่วยให้ใช้งานได้แม้ในช่วงน้ำท่วม และขอบคุณที่ลงพื้นที่เยี่ยม ให้กำลังใจ และมอบสิ่งของให้เด็ก ๆ ในช่วงเวลาที่ยากลำบาก ความห่วงใยเหล่านี้ช่วยให้เรามีกำลังใจต่อสู้กับสถานการณ์น้ำท่วมครั้งนี้ต่อไป”

ในช่วงการระดมทุนเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยครั้งนี้ มูลนิธิศุภนิมิตฯ ยังได้รับน้ำใจสำคัญจากภาคประชาชน รวมถึงการสนับสนุนครั้งใหญ่จาก   MINNIE (มินนี่) ณิชา ยนตรรักษ์ นักร้อง นักแต่งเพลงชาวไทย และสมาชิกวง i-dle เกิร์ลกรุ๊ปจากประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งได้มอบเงินบริจาคจำนวน 34,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1.1 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือเด็กและครอบครัวที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยภาคใต้ การสนับสนุนของเธอเป็นกำลังใจสำคัญในการเร่งขยายการช่วยเหลือให้เข้าถึงกลุ่มเปราะบางได้มากยิ่งขึ้น

จนถึงปัจจุบัน มูลนิธิศุภนิมิตฯ ได้รับเงินบริจาคเพื่อสนับสนุนโครงการตอบสนองฯ แล้ว 1.9 ล้านบาท แต่ยังคงต้องการการสนับสนุนทางการเงินเพิ่มเติมเพื่อรองรับความต้องการเร่งด่วนในชุมชนที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุด ซึ่งการสนับสนุนจากทุกท่าน รวมถึงการบริจาคของคุณมินนี่ มีบทบาทสำคัญในการช่วยเติมเต็มช่องว่างนี้ และหนุนน้ำใจให้ผู้มีจิตศรัทธาเกิดแรงบันดาลใจในการเข้ามามีส่วนร่วมในวงกว้างมากขึ้น

น้ำใจของประชาชนคือพลังที่ทำให้เด็กเปราะบางยากไร้สามารถกลับมามีชีวิตปกติสุข ทุกการสนับสนุนของท่านจะช่วยให้ครอบครัวสามารถรับมือกับผลกระทบที่เกิดจากภัยพิบัติ และเริ่มต้นใหม่อีกครั้งหลังจากสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่างไป เราจะร่วมมือกันเพื่อสร้างความมั่นใจว่าจะไม่มีใครถูกทิ้งไว้ข้างหลัง” รสลิน โกแวร์ กล่าว

มูลนิธิศุภนิมิตฯ ขอเชิญชวนประชาชนร่วมสนับสนุนการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้ได้ที่:
https://give.worldvision.or.th/Nj9Vs9

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top