รู้ทันโรคหัวใจก่อนสายเกินไปทำความเข้าใจ 4 ประเภทโรคแนวทางรักษาโดยทีมแพทย์เฉพาะทางครบสหสาขา

รู้ทันโรคหัวใจก่อนสายเกินไปทำความเข้าใจ 4 ประเภทโรคแนวทางรักษาโดยทีมแพทย์เฉพาะทางครบสหสาขา

วันจันทร์ ที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2568, 14.00 น.
Tag :

โรคหัวใจยังคงเป็นหนึ่งในสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้น ๆ ของประเทศไทย โดยเฉพาะโรคหัวใจที่เกิดขึ้นแบบเฉียบพลันโดยไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้า การรู้ทันประเภทของโรคหัวใจ, การเข้ารับการรักษาโรคหัวใจ, การประเมินจากแพทย์เฉพาะทางตั้งแต่ระยะเริ่มต้น จึงมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งต่อการลดความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสในการรักษาอย่างมีประสิทธิภาพ

โรคหัวใจไม่ได้มีเพียงรูปแบบเดียว แต่สามารถแบ่งออกได้เป็นหลายชนิดตามตำแหน่งและกลไกการเกิดโรค ซึ่งแต่ละประเภทมีความรุนแรง อาการ และแนวทางการรักษาที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน โดยหลักทางการแพทย์สามารถแบ่งโรคหัวใจออกเป็น 4 ประเภทใหญ่ ๆ ดังนี้


1) โรคของหลอดเลือดหัวใจ (Coronary Artery Disease)

โรคหลอดเลือดหัวใจเป็นโรคหัวใจที่พบบ่อยที่สุด และเป็นสาเหตุหลักของภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด เกิดจากการตีบหรืออุดตันของหลอดเลือดหัวใจจากการสะสมของไขมันและคราบพลัค ทำให้เลือดและออกซิเจนไปเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจไม่เพียงพอ และอาจนำไปสู่ภาวะหัวใจวายเฉียบพลันได้

อาการที่พบบ่อย

  • เจ็บแน่นหน้าอก หรือจุกเสียดบริเวณกลางอก
     
  • เหนื่อยง่าย หายใจไม่อิ่ม
     
  • ใจสั่น เหงื่อแตก หน้ามืด

ในผู้สูงอายุหรือผู้ป่วยเบาหวานบางราย อาจไม่มีอาการเตือนชัดเจนมาก่อน และเกิดภาวะรุนแรงขึ้นทันที

แนวทางการรักษา
 การรักษาขึ้นกับระดับความรุนแรง ตั้งแต่การใช้ยา การปรับพฤติกรรม ไปจนถึงการตรวจสวนหัวใจและใส่ขดลวด (Stent) เพื่อเปิดทางไหลเวียนเลือดในกรณีฉุกเฉิน

2) โรคของกล้ามเนื้อหัวใจ (Cardiomyopathy)

โรคกล้ามเนื้อหัวใจคือภาวะที่โครงสร้างหรือการทำงานของกล้ามเนื้อหัวใจผิดปกติ ทำให้หัวใจสูบฉีดเลือดได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ ซึ่งอาจนำไปสู่ภาวะหัวใจล้มเหลวในระยะยาว

อาการสำคัญ

  • เหนื่อยง่ายกว่าปกติ
     
  • หายใจลำบาก โดยเฉพาะขณะนอนราบ
     
  • ขาบวม เท้าบวม ใจสั่น หรือเป็นลม

การวินิจฉัย
 อาศัยการตรวจคลื่นเสียงสะท้อนหัวใจ (Echo) และ MRI หัวใจ เพื่อประเมินโครงสร้างและการทำงานของกล้ามเนื้อหัวใจอย่างละเอียด

3) โรคของลิ้นหัวใจ (Heart Valve Disease)

หัวใจมีลิ้นหัวใจทั้งหมด 4 ลิ้น ทำหน้าที่ควบคุมทิศทางการไหลของเลือด หากเกิดภาวะลิ้นตีบหรือรั่ว จะทำให้หัวใจต้องทำงานหนักขึ้น และอาจนำไปสู่ภาวะหัวใจโต หัวใจล้มเหลว หรือภาวะน้ำท่วมปอดได้

อาการเตือน

  • เหนื่อยง่าย หายใจลำบาก
     
  • ใจสั่น หัวใจเต้นแรง
     
  • ขาบวม นอนราบไม่ได้

แนวทางรักษา
 แพทย์จะประเมินความรุนแรงด้วยการตรวจ Echo และคลื่นไฟฟ้าหัวใจ เพื่อวางแผนการรักษา ตั้งแต่การใช้ยา การติดตามอาการ ไปจนถึงการผ่าตัดซ่อมหรือเปลี่ยนลิ้นหัวใจในรายที่จำเป็น

4) โรคของระบบไฟฟ้าหัวใจ (Cardiac Arrhythmia)

โรคหัวใจเต้นผิดจังหวะเกิดจากความผิดปกติของระบบไฟฟ้าหัวใจ ทำให้หัวใจเต้นเร็ว ช้า หรือไม่สม่ำเสมอ ซึ่งบางชนิดอาจนำไปสู่ภาวะฉุกเฉินรุนแรงได้

อาการที่ไม่ควรมองข้าม

  • ใจสั่น หน้ามืด วิงเวียน
     
  • เป็นลมหมดสติ
     
  • เหนื่อยง่ายผิดปกติ

หนึ่งในชนิดที่พบบ่อยคือ Atrial Fibrillation (AF) ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดลิ่มเลือดอุดตันและโรคหลอดเลือดสมอง (Stroke)

การตรวจวินิจฉัย
 ใช้การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (EKG) และ Holter Monitor เพื่อติดตามจังหวะการเต้นของหัวใจอย่างละเอียด

สัญญาณเตือนโรคหัวใจที่ไม่ควรละเลย

  • เจ็บแน่นหน้าอก หรือร้าวไปแขน กราม หลัง
     
  • เหนื่อยง่าย หายใจลำบาก
     
  • ใจสั่น หน้ามืด เป็นลม
     
  • ขาบวม หรือนอนราบไม่ได้

หากมีอาการเหล่านี้ ควรรีบเข้ารับการตรวจโดยแพทย์เฉพาะทางหัวใจทันที เพราะการวินิจฉัยและรักษาอย่างทันท่วงทีช่วยลดความเสียหายของกล้ามเนื้อหัวใจได้อย่างมีนัยสำคัญ

การรักษาโรคหัวใจในปัจจุบัน

การรักษาโรคหัวใจครอบคลุมตั้งแต่การปรับลดปัจจัยเสี่ยง การใช้ยา การรักษาเฉพาะทาง เช่น การสวนหัวใจ การจี้หัวใจผิดจังหวะ ไปจนถึงการผ่าตัดหัวใจในรายที่มีความรุนแรง โดยต้องอาศัยการดูแลจากทีมแพทย์สหสาขาอย่างใกล้ชิด

ศูนย์หัวใจ โรงพยาบาลวิภาวดี: One-Stop Cardiac Center

ศูนย์หัวใจ โรงพยาบาลวิภาวดี ให้บริการดูแลโรคหัวใจแบบครบวงจร ตั้งแต่การตรวจ วินิจฉัย รักษา ไปจนถึงการฟื้นฟู โดยทีมแพทย์เฉพาะทางด้านอายุรกรรมหัวใจ ทีมสวนหัวใจ และทีมศัลยแพทย์หัวใจ พร้อมเทคโนโลยีมาตรฐานสากล เช่น Echo, EKG และ Holter Monitor เพื่อการรักษาที่แม่นยำ ปลอดภัย และต่อเนื่อง

แพทย์เฉพาะทางแนะนำ

นายแพทย์วรงค์ ลาภานันต์
 แพทย์ชำนาญการด้านหัตถการปฏิบัติรักษาโรคหัวใจและหลอดเลือด (Interventional Cardiology)

โรคหัวใจหลายชนิดสามารถควบคุมและรักษาได้ดี หากได้รับการวินิจฉัยตั้งแต่ระยะเริ่มต้น การเข้ารับการตรวจเมื่อมีอาการผิดปกติเล็กน้อย จะช่วยลดความเสียหายของกล้ามเนื้อหัวใจและลดความเสี่ยงของภาวะฉุกเฉินได้อย่างมาก”

นายแพทย์ชัชชัย เต็มยอด

 ศัลยแพทย์ทรวงอก

ผู้ป่วยโรคหัวใจที่มีความรุนแรงควรได้รับการดูแลแบบทีมสหสาขา เพื่อให้สามารถวางแผนการรักษาได้อย่างเหมาะสม ปลอดภัย และเพิ่มคุณภาพชีวิตในระยะยาว”

สรุป

โรคหัวใจอาจดูน่ากลัว แต่หากรู้ทัน สังเกตอาการได้เร็ว และเข้ารับการดูแลจากแพทย์เฉพาะทางอย่างเหมาะสม โอกาสในการรักษาและการกลับมาใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพย่อมเพิ่มขึ้นอย่างมาก ศูนย์หัวใจ โรงพยาบาลวิภาวดี พร้อมดูแลคุณและคนที่คุณรักในทุกจังหวะการเต้นของหัวใจ

 

 

 

 

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top