เส้นทางแห่งปัญญา : ประสบการณ์วิจัยและบทเรียน  จาก “นักวิจัยดีเด่นแห่งชาติ” สู่ “คนรุ่นใหม่”

เส้นทางแห่งปัญญา : ประสบการณ์วิจัยและบทเรียน จาก “นักวิจัยดีเด่นแห่งชาติ” สู่ “คนรุ่นใหม่”

วันจันทร์ ที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2568, 17.39 น.
Tag :

“นักวิจัยดีเด่นแห่งชาติ” เป็นอีกหนึ่งรางวัลที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง ในการยกย่องเชิดชูเกียรติ นักวิจัยไทยที่อุทิศตน ทุ่มเททำงานวิจัยมาอย่างต่อเนื่อง ยาวนาน มีผลงานโดดเด่นเป็นที่ประจักษ์ ก่อให้เกิดองค์ความรู้ใหม่ ที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศทั้งด้านวิชาการ เศรษฐกิจและสังคม และยังเป็นแบบอย่างที่ดีในการสร้างแรงบันดาลใจให้กับนักวิจัยรุ่นใหม่ ได้เห็นถึงคุณค่าและความสำคัญของการทำงานวิจัย ซึ่งจะช่วยขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศให้มีความเจริญก้าวหน้าอย่างมั่นคงและยั่งยืน

 เส้นทางของผู้ที่ได้รับรางวัล “นักวิจัยดีเด่นแห่งชาติ” ไม่ใช่ได้มาง่าย ๆ ต้องใช้ทั้งเวลาและแรงกายแรงใจในการสร้างองค์ความรู้ พัฒนาบุคลากร กว่าผลงานจะประสบความสำเร็จ สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้จริง ต้องผ่านอุปสรรคและความท้าทายต่าง ๆ  มากมาย ซึ่งประสบการณ์วิจัยรวมถึงบทเรียนต่าง ๆ เหล่านี้ ล้วนเป็นประโยชน์ต่อนักวิจัยรุ่นใหม่  


ล่าสุด ... สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) จัดเสวนา “เส้นทางแห่งปัญญา: ประสบการณ์วิจัยและบทเรียนที่อยากส่งต่อสู่คนรุ่นใหม่” ขึ้น ภายในงานแถลงข่าวการจัดงาน “วันนักประดิษฐ์ ประจำปี 2569” เพื่อแบ่งปันประสบการณ์ในเส้นทางการวิจัยของนักวิจัยดีเด่นแห่งชาติ ประจำปี 2569 ที่มีบทบาทและความสำคัญ ในการขับเคลื่อนทั้งด้านการศึกษา สังคม และการพัฒนาประเทศ แต่ละท่านให้ทัศนะผ่านงานเสวนาได้อย่างน่าสนใจ

ศ.วิจัย ดร.เจตสุมน ประจำศรี  จากคณะเวชศาสตร์เขตร้อน  มหาวิทยาลัยมหิดล  นักวิจัยดีเด่นแห่งชาติ สาขาวิทยาศาสตร์การแพทย์ ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านโรคไข้มาลาเรีย บอกว่า ทำงานวิจัยนี้มากว่า 40 ปัจจุบันทีมวิจัย ได้พัฒนาวัคซีน mRNA สำหรับต้านเชื้อไข้มาลาเรียพีวี ที่พบมากในภูมิภาคเอเชีย โดยอยู่ในช่วงการทดลองก่อนที่จะนำไปทดสอบในมนุษย์จริง หากประสบความสำเร็จตามแผน ในอีก 2 ปีข้างหน้า จะสามารถทดลองในมนุษย์ได้ ซึ่งจะเป็นครั้งแรกในประเทศไทยและในภูมิภาคเอเชีย กล่าวว่า “ความท้าทายของงานวิจัยนี้ จะเป็นเรื่องความเข้าใจชีววิทยาของเชื้อมาลาเรีย ซึ่งเป็นโมเดลที่ทำได้ยาก และต้องทำจากเชื้อที่ได้จากคนไข้โดยตรง การมีองค์ความรู้ และเทคโนโลยีที่ทันสมัยช่วยพัฒนาวัคซีนได้เร็วขึ้น ความโชคดี ก็คือประเทศไทยยังมีเชื้อไข้มาลาเรียพีวี ทำให้สามารถทำวิจัยได้เองในประเทศ การได้รับรางวัลในครั้งนี้เป็นความภาคภูมิใจทั้งของตนเองและทีมงาน ซึ่งงานวิจัยกว่า 40 ปีนี้ ไม่สามารถทำคนเดียวได้ สำหรับนักวิจัยรุ่นใหม่ อยากจะบอกว่า ให้เลือกทำเรื่องที่ชอบแล้วจะสนุกในสิ่งที่ทำ เนื่องจากงานวิจัยเป็นอะไรที่ไม่รู้ว่าจะประสบความสำเร็จหรือไม่ และเมื่อทำกับเรื่องโรค จะมีอะไรใหม่ ๆ ตลอดเวลา ดังนั้นการทำงานวิจัยทางการแพทย์ ต้องชอบจริง ๆ จะทำให้เราสนุกที่จะค้นหา เรียนรู้ และไม่ท้อกับสิ่งที่ทำอยู่ ซึ่งต้องมีการตั้งเป้าก่อนกับสิ่งที่ทำ และทำในสิ่งที่ชอบ  ความยากไม่ใช่ปัญหา แต่เป็นความท้าทายที่ทำให้เราหาทางแก้”

ศ.วิจัย ดร.เจตสุมน ประจำศรี 

ศ.ดร.วิไล รังสาดทอง จากคณะวิทยาศาสตร์ประยุกต์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ นักวิจัยดีเด่นแห่งชาติ สาขาเกษตรศาสตร์และชีววิทยา ซึ่งเชี่ยวชาญการวิจัยด้าน Bio-Circular-Green โดยบูรณาการงานด้านเทคโนโลยีชีวภาพและเทคโนโลยีการแปรรูปอาหาร มีผลงานวิจัยที่โดดเด่น อาทิ การปรับปรุงคุณภาพและผลผลิตของกุ้งแช่เยือกแข็ง เทคโนโลยีการเพาะเลี้ยง การสกัดและเพิ่มมูลค่าเห็ดออกฤทธิ์เชิงยา ฯลฯ กล่าวว่า ในฐานะอาจารย์ที่มีหน้าที่สอนเป็นหลัก  การสอนจากตำราอย่างเดียวไม่พอและไม่ทันสมัย งานวิจัยเป็นสิ่งที่จำเป็นต้องทำ  เพราะจะช่วยพัฒนาตนเอง สร้างองค์ความรู้ใหม่ ๆ และยังสร้างเครือข่ายให้กับลูกศิษย์  ทั้งนี้ย้ำว่า งานวิจัยที่ทำ ไม่ควรได้เพียงแค่ Paper  หรือการตีพิมพ์ในวารสารวิชาการเท่านั้น แต่ต้องสามารถนำไปใช้ได้จริง และต่อยอดในเชิงธุรกิจได้

ศ.ดร.วิไล รังสาดทอง 

ศ.เภสัชกร ดร.ปิติ  จันทร์วรโชติ  จากคณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย  นักวิจัยดีเด่นแห่งชาติ สาขาวิทยาศาสตร์เคมีและเภสัช   ซึ่งเชี่ยวชาญด้านการค้นคว้าสารต้านมะเร็งจากสมุนไพรและสารสังเคราะห์ โดยศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างโครงสร้างและฤทธิ์ทางยา เพื่อสร้างองค์ความรู้สำคัญในการพัฒนาโมเลกุลยาใหม่ ตลอดจนการศึกษาชีววิทยาของเซลล์มะเร็งเพื่อค้นหาและยืนยันโมเลกุลเป้าหมายการออกฤทธิ์ของยามะเร็ง ฯลฯ  กล่าวว่า ความเชี่ยวชาญของนักวิจัยจะสามารถช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับวัตถุดิบได้  และหากต้องการให้เกิดความยั่งยืนความเชี่ยวชาญของนักวิจัยจะต้องอยู่ในระดับมาตรฐานที่นานาชาติยอมรับด้วย     ขณะเดียวกันการพัฒนาบุคลากรภายในประเทศ ก็อาจจะถึงจุดที่ประเทศไทยจะต้องผลิตนักวิจัยและเทคโนโลยีเองภายในประเทศ แทนที่จะพึ่งพาการรับการถ่ายทอดเทคโนโลยีหรือการเรียนจบจากต่างประเทศเพียงอย่างเดียว

ศ.เภสัชกร ดร.ปิติ  จันทร์วรโชติ 

ศ.ดร.อภิรัฐ  ศิริธราธิวัตร  คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น นักวิจัยดีเด่นแห่งชาติ สาขาวิศวกรรมศาสตร์และอุตสาหกรรมวิจัย    เชี่ยวชาญด้านอุตสาหกรรมวิจัยทางวิศวกรรมไฟฟ้า  โดยงานวิจัยที่โดดเด่น คือ การช่วยอุตสาหกรรมฮาร์ดดิสก์ของประเทศไทย ในยุคที่มีการเปลี่ยนผ่านสู่เทคโนโลยีใหม่เมื่อ 20 ปีที่ผ่านมา  ซึ่งทีมวิจัยสามารถทำวิจัยจนพิสูจน์ได้และตีพิมพ์ในวารสารระดับนานาชาติ ทำให้อุตสาหกรรมฮาร์ดดิสก์เชื่อมั่น และลงทุนในประเทศไทยจนถึงปัจจุบัน กล่าวว่า“ สำหรับนักวิจัย และน้อง ๆ  ที่จะเข้าสู่การทำงานวิจัยนั้น อยากให้มองประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลัก  ซึ่งเชื่อว่านักวิจัยทุกคนจะรู้สึกดีใจที่งานวิจัยได้ถูกตีพิมพ์   แต่ความสุขที่แท้จริง คือ เมื่องานวิจัยของเราได้เอาไปใช้จริง และได้เห็นผลของมัน ความสุขครั้งแรกที่เกิดขึ้นนี้ทำให้เกิดความ "ติดใจ" และต้องการทำวิจัยต่อไป ”

ศ.ดร.อภิรัฐ  ศิริธราธิวัตร

รศ.ดร.ศกร  คุณวุฒิฤทธิรณ  คณะเกษตร  มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์  นักวิจัยดีเด่นแห่งชาติ สาขาเกษตรศาสตร์และชีววิทยา มีความเชี่ยวชาญด้านพันธุศาสตร์และการปรับปรุงพันธุ์สัตว์ในเขตร้อนชื้น  โดยเน้นการใช้ข้อมูลขนาดใหญ่ เทคโนโลยีจีโนม และปัญญาประดิษฐ์ เพื่อเพิ่มศักยภาพพันธุกรรมของสัตว์เศรษฐกิจ รวมถึงการพัฒนาโครงการปรับปรุงพันธุ์ระดับชาติ ฯลฯ กล่าวว่า“นโคน็น สิ่งที่อยากจะฝากถึงนักวิจัยรุ่นใหม่ ก็คือ  เราสามารถทำโจทย์วิจัยที่ช่วยแก้ปัญหาให้กับภาคอุตสาหกรรมและประเทศได้ก่อน แล้วค่อยเอาผลของการตอบโจทย์ปัญหานั้น ๆ ไปขยายผลให้คนอื่นได้เรียนรู้  ถ้าสามารถทำอย่างนี้ได้ ผมมั่นใจว่าการสร้างผลกระทบจากงานวิจัยจะเกิดขึ้นได้อย่างชัดเจน  ”

 รศ.ดร.ศกร  คุณวุฒิฤทธิรณ

ศ.ดร.ศิริมล ตรีพงษ์กรุณา  สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์ แห่ง จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นักวิจัยดีเด่นแห่งชาติ สาขาเศรษฐศาสตร์    นักวิจัยที่เชี่ยวชาญด้านการวิจัยทางการเงิน  ที่มุ่งมั่นทำให้เกิดระบบการเงินและตลาดทุนที่มีเสถียรภาพ โปร่งใส และยั่งยืน  โดยมีการวิจัยหลัก ๆ  อาทิ การส่งเสริมความยั่งยืนของตลาดเงินและตลาดทุน  มุ่งเน้นการบริหารจัดการความรับผิดชอบต่อสังคม   การกำกับดูแลกิจการที่ดี  ฯลฯ กล่าวว่า“ความท้าทาย ของนักวิจัยทางการเงิน คือ การขาดแคลนทุนวิจัย  เพราะรายได้ของคณะมักถูกส่งไปสนับสนุนงานด้านวิทยาศาสตร์  ขณะเดียวกันการตีพิมพ์ผลงานวิจัยทางด้านสังคมศาสตร์ก็ทำได้ยากมาก  มีงานวิจัยบางผลงานที่ใช้เวลาถึง 10 ปี กว่าจะได้ตีพิมพ์  การทำงานวิจัยด้านนี้จึงต้องอาศัยความอดทนอย่างมาก ทั้งนี้สิ่งที่จะบอกกับนักวิจัยรุ่นใหม่ คือ อย่ากลัวที่จะตั้งคำถาม คำถามเล็ก ๆ น้อย ๆ สามารถสร้างงานวิจัยที่ยิ่งใหญ่ได้  และสิ่งที่ฝากไว้ คือ “ความรู้เพื่อความพอเพียง  วิจัยเพื่อยั่งยืน”

ศ.ดร.ศิริมล ตรีพงษ์กรุณา

นอกจากนักวิจัยดีเด่นแห่งชาติที่ร่วมเสวนาทั้ง  6 ท่านแล้ว  ยังมีนักวิจัยดีเด่นแห่งชาติ ประจำปี 2569 ที่ วช.ประกาศรางวัลเพื่อเชิดชูเกียรติ อีก 9 ท่าน รวม 15 ท่านใน 9 สาขา ประกอบด้วย ศ.ดร.สุปรีดิ์ พินิจสุนทร จากคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น และ ศ.ดร.จักรพงษ์ แก้วขาว  จากคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชภัฎนครปฐม เป็นนักวิจัยดีเด่นแห่งชาติ ในสาขาวิทยาศาสตร์กายภาพและคณิตศาสตร์ ศ.ดร.ธีระพล ศรีชนะ จากคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เป็นนักวิจัยดีเด่นแห่งชาติใน สาขาวิทยาศาสตร์เคมีและเภสัช ศ.ดร.กาญจนา  เศรษฐนันท์   จากคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เป็นนักวิจัยดีเด่นแห่งชาติในสาขาวิศวกรรมศาสตร์และอุตสาหกรรมวิจัย

รศ.ดร.ประจักษ์ ก้องกีรติ และ ศ.ดร.ชนินทร์ทิรา ณ ถลาง จากคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์  เป็นนักวิจัยดีเด่นแห่งชาติในสาขารัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์ ศ.ดร.ปังปอนด์ รักอำนวยกิจ จากคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นนักวิจัยดีเด่นแห่งชาติในสาขาเศรษฐศาสตร์ ศ.ดร.ดุษฎี อายุวัฒน์ จากคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เป็นนักวิจัยดีเด่นแห่งชาติ ในสาขาสังคมวิทยา และ ศ.ดร.นิพนธ์ ธีรอำพน จากสถาบันวิศวกรรมชีวการแพทย์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เป็นนักวิจัยดีเด่นแห่งชาติ ในสาขาเทคโนโลยีสารสนเทศและนิเทศศาสตร์

นักวิจัยดีเด่นแห่งชาติ ทั้ง 15 ท่าน จะเข้าเฝ้ารับพระราชทานเกียรติบัตรรางวัลการวิจัยแห่งชาติ ภายในงาน “วันนักประดิษฐ์” ประจำปี 2569 ที่ วช. จัดขึ้น ภายใต้แนวคิด "ปลดล็อกประเทศไทยด้วยพลังของสิ่งประดิษฐ์และนวัตกรรม" เพื่อเทิดพระเกียรติและน้อมรำลึกถึงพระอัจฉริยภาพด้านการประดิษฐ์ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร “พระบิดาแห่งการประดิษฐ์ไทย”  โดยงานดังกล่าวจะเป็นเวทีสำคัญในการนำเสนอสิ่งประดิษฐ์และนวัตกรรมพร้อมใช้ ตลอดจนความก้าวหน้าด้านการประดิษฐ์คิดค้นของประเทศ เพื่อขยายผลและนำไปใช้ประโยชน์ในมิติต่าง ๆ สอดคล้องกับเป้าหมายยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ในการขับเคลื่อนประเทศด้วยการวิจัยและนวัตกรรมสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน

งาน วันนักประดิษฐ์” ประจำปี 2569 จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 5 – 9 มกราคม 2569 ณ Event Hall 100 – 104ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา กรุงเทพฯ ผู้สนใจติดตามรายละเอียด และลงทะเบียนเข้าร่วมงานได้ที่ https://www.inventorsdayregis.com/

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top