บันทึกประสบการณ์‘ผู้ป่วยมะเร็ง’ บนเส้นทางความหวังจาก“สมุนไพร หมอแสง”

“...ผมเป็นหนึ่งในอีกหลายหมื่นชีวิตของผู้ป่วยด้วยโรคมะเร็งร้าย ที่ดั้นด้นเดินทางสู่เส้นทางแห่งความหวังเพื่อรับสมุนไพร จากหมอพื้นบ้าน นายแสงชัย แหเลิศตระกูล หรือ “หมอแสง”…

“จิรศักดิ์ จาตุพรพิพัฒน์”...

ผู้สื่อข่าว “แนวหน้า” ประจำ จ.ตรัง หนึ่งในผู้ป่วยโรคมะเร็ง ที่ดั้นด้นจากถิ่นเมืองใต้ สู่เมืองปราจีนบุรี เพื่อรับยาสมุนไพรจาก “หมอแสง” ภายใต้ความหวังเดียวกับผู้ป่วยรายอื่นๆ

“จิรศักดิ์” ถ่ายทอดเรื่องราวการเดินทางสู่สถานที่รับ “สมุนไพรหมอแสง” ซึ่งจะเป็นประโยชน์กับคนอื่นๆที่มีแนวคิดจะเดินทางไปยังสถานที่ดังกล่าว ว่าควรตรียมตัวอย่างไร โดย จิรศักดิ์ เล่าว่า มีผู้ป่วยจากทั่วสารทิศ ทั้งที่เป็นผู้ป่วย พ่อ แม่ พี่น้อง ญาติมิตร เพื่อนพ้องคนที่รักของผู้ป่วยมะเร็ง สู่จุดหมายเดียวกัน ณ บ้านหมอแสง ตั้งอยู่ตรงข้ามองค์การบริหารส่วนตำบล(อบต.) บางเดชะ อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี

ทุกๆวันเสาร์-อาทิตย์แรกของทุกเดือน!!!

แม้จะเพียงเป็นทางเลือกท้ายๆของชีวิต เพื่อต่อสู้เอาชนะกับโรคมะเร็งร้าย  แต่ด้วยความหวังเชื่อมั่นและมั่นใจว่าเมื่อได้กิน “สมุนไพรหมอแสง” แล้ว จะสามารถ “หยุดยั้ง” การเติบโตของเชื้อมะเร็งร้ายให้หมดสิ้นไปได้ ซึ่งจะช่วยให้อยู่บนโลกใบนี้ได้อย่างมีความสุข

“ผู้ป่วย” ทุกคน จึงพร้อมใจกันก้าวเดินหา “แสงเทียนแห่งความหวัง” ที่นายแสงชัย แหเลิศตระกูล หรือ “หมอแสง” หยิบยื่นให้

“วันหยุดเสาร์-อาทิตย์ทุกๆต้นเดือน” หมอแสงจะแจกสมุนไพรให้กับผู้ป่วย โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ  ทำให้บรรยากาศบริเวณบ้านหมอแสง สถานที่แจกสมุนไพรคึกคัก เต็มไปด้วยผู้คนที่เดินทางมารับยาทั่วทุกสารทิศ ทั้งกลาง เหนือ อีสาน ใต้ มีทั้งพระภิกษุ  แม่ชี นักบวชในศาสนา รวมทั้งผู้ป่วยจากประเทศบ้านใกล้เรือนเคียงครั้งละหลายหมื่นคน

“หมอแสง” แจกสมุนไพรมานานกว่า 10 ปี หลังประสบความสำเร็จในการรักษามะเร็งร้ายให้กับลูกสาวตัวเอง  จนเป็นที่รับทราบและรู้จักของบรรดาผู้ป่วยเดินทางรับสมุนไพรจากหมอแสง จากจำนวนผู้ป่วยนับสิบ นับร้อย นับพัน และนับหมื่นในขณะนี้ การจัด “ระบบแจกสมุนไพร” จึงถูกกำหนดขึ้น เพื่อให้การจ่ายสมุนไพรเป็นไปด้วยความเป็นระเบียบเรียบร้อย ปลอดภัยทั้งผู้ให้และผู้รับ ด้วยหลักเกณฑ์จะต้องเป็นผู้ป่วยโรคมะเร็งเท่านั้น และจะต้องที่ผ่านการรับรองจากแพทย์แผนปัจจุบันเท่านั้น

ด้วยเหตุผลของจำนวนผู้ป่วยที่เจ้ารับสมุนไพรอยู่ในเลข 5 หลัก อาจจะมีการร้องเรียนเอาผิดหมอแสงหากผู้ป่วยรับยาไปกินแล้วเกิดอาการผิดปกติ หมอแสงจึงป้องกันตัวเองด้วยการที่ให้ผู้ป่วยไปลง “บันทึกประจำวัน” ที่ สภ.เมืองปราจีนบุรี ว่าหากเกิดเหตุร้ายใดๆขึ้นกับหลังจากกินสมุนไพร จะไม่ขอเอาผิดทั้งทางแพ่งและอาญาแต่อย่างใด

“สภ.เมืองปราจีนบุรี” จึงเปิดบริการให้ผู้ป่วยที่ประสงค์รับสมุนไพรหมอแสง มาลงบันทึกประจำวันตลอด 24 ชม.ทุกวัน โดยมีการจัดสถานที่ และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้มาติดต่อจำนวนมาก

ในการลงบันทึกประจำวันมีการนำ “เชือก” ผูกเชื่อมเป็นเส้นทางไปตามจุดให้บริการ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งโต๊ะตรวจเอกสาร และปริ้นใบบันทึกประจำวันผ่านคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก บริเวณสถานที่ด้านหน้าสถานีฯ ซึ่งเป็นลานกว้าง ตำรวจมีการจัดระเบียบการเข้าแถวเพื่อให้ผู้ป่วยและญาติๆได้แจ้งความลงบันทึกประจำวัน โดยเก็บค่าธรรมเนียมใบละ 20 บาท เดือนหนึ่งๆมีรายได้จากค่าธรรมเนียมด้วยเลข  6 หลัก

การลงบันทึกประจำเป็นไปตามระเบียบของหมอแสง ที่แบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม ประกอบด้วย 1.ผู้ป่วยเก่ารับด้วยตัวเอง 2.ผู้ป่วยเก่าญาติรับแทน 3.ผู้ป่วยใหม่รับด้วยตัวเอง และ 4.ผู้ป่วยใหม่ญาติรับแทน โดยนำหลักฐาน บัตรประจำตัวประชาชน ทะเบียนบ้าน ใบรับรองแพทย์รับรองว่าป่วยเป็นโรคมะเร็ง (ไม่เกิน6 เดือน)

เมื่อถึงวันเสาร์-อาทิตย์ ทุกๆต้นเดือน บรรดาผู้ป่วยจากทั่วสารทิศ หลายหมื่นคน ต่างเดินทางสู่บ้านหมอแสง ที่มีการปรับแต่งใช้เป็นที่พัก ที่จอดรถ  จุดกางเต้นท์ จุดพักผู้ป่วย รวมถึงวัดวาอารามเปิดให้บริการผู้ป่วยญาติผู้ป่วยใช้สำหรับพักผ่อน หลับนอน รอเวลาเข้ารับสมุนไพร ทำให้เศรษฐกิจโดยรวมในท้องถิ่นคึกคัก  ทั้งบริการที่จอดรถ ห้องสุขา เต้นท์ อาหาร เครื่องดื่ม รถรับจ้าง และที่พักรีสอร์ท เป็นการสร้างงาน สร้างอาชีพและรายได้ให้กับชาวบ้านในละแวกนั้นได้เป็นอย่างดี เป็นอานิสงค์อีกอย่างหนึ่งที่ทุกฝ่ายได้รับจากหมอแสง นอกเหนือจากผู้ป่วยมะเร็งโดยตรง

“กำหนดการจ่ายสมุนไพร” เริ่มตั้งแต่เย็นวันเสาร์ เวลา 16.00 น.ถึงวันอาทิตย์ เวลา 06.00 น.ของวันใหม่ การแจกยาแยกออกเป็น 4 กลุ่ม ตามเอกสารลงบันทึกประจำ เข้าแถวเรียง 1 จำนวน 5 แถวยาวเหยียดระยะทางกว่า 1 กม. โดยมีจิตอาสาเป็นผู้จัดระเบียบแถวทยอยเดินไปรับสมุนไพรจากหมอแสง ภายในบริเวณลานกว้างมีการนำเก้าอี้และเสื่อปูนั่งและนอน อุปกรณ์ที่ใช้ในการนั่งนอนรอชาวบ้านในละแวกหมู่บ้านจะนำมาขาย อาทิ เสื่อปูนั่ง เสื่อพับ เก้าอี้ ยากันยุง  ไฟฉาย ร่ม

สิ่งที่ขาดไม่ได้เห็นจะเป็นผ้าปิดปากและจมูก ป้องกันมลพิษจากฝุ่น เป็นความเสมอภาคของผู้ป่วยทั้งคนจนยากไร้ไปถึงเศรษฐีขับเบนซ์ หากมารับยาหมอแสงก็ต้องผ่านกระบวนการขั้นตอนเหมือนๆกัน

การรอเพื่อรับสมุนไพรทุกคนที่ต้องมานั่งรอ นอนรอ เข้าคิวรอ จะเกิดความรู้สึกเหมือนๆกันคือจะต้องอึด อดทน ในแถวขยับไปตามจังหวะทั้งเดินและหยุด เมื่อถึงจุดรับสมุนไพร ทีมสต๊าฟตรวจสอบเอกสารอย่างละเอียด โดยเฉพาะใบบันทึกประจำวัน ผู้ป่วยจะต้องเซ็นรายมือชื่อ ระบุโรค พร้อมโรงพยาบาลที่รับการรักษาไว้อย่างชัดเจน

ก่อนถึงจุดรับสมุนไพร  ผ่านการจัดระเบียบให้เดินตามช่องจุดคัดกรองจำนวน 18 ช่อง ตรวจสอบเอกสารอย่างละเอียด ซึ่งจะต้องถูกต้องตามที่ระบุไว้  จากนั้นผ่านไปยังจุดรับ “คูปอง” จะระบุไว้ให้ทราบว่า เราเป็นคนรับสมุนไพรคิวที่เท่าไหร่ จากนั้นเดินต่อไปเพื่อรับสมุนไพรจากเจ้าหน้าที่โดยมี “หมอแสง” ยืนให้กำลังใจ ทุกคนจะได้รับสมุนไพรเท่าๆกัน คือ “คนละ 10 เม็ด” เป็นอันเสร็จสิ้นขั้นตอนการรับสมุนไพร

จิรศักดิ์ จาตุพรพิพัฒน์/ตรัง...รายงาน