กรณีเพจเฟซบุ๊กส่วนตัวชื่อ Pattawee Konwimon ที่เป็นเพจของ พ.ต.ท.ปฐวี ก้อนวิมล รอง ผกก.ป้องกันปราบปราม สภ.หนองวัวซอ ภ.จว.อุดรธานี ได้โพสต์ข้อความ ระบุว่า “พี่หมาน้อยจัดให้ผมหน่อยครับ ไอ้นี่มันอยากชกกะตำรวจ เอาแบบแฟร์ ๆ ถือเป็นการกีฬา เอาเงินที่ได้จากการจัดไปทำประโยชน์อะไรก็ได้ ถ้าแพ้ผมก็ยอมรับ ถือเป็นการกีฬา ผมแต่งเครื่องแบบต่อยก็ได้ครับ ช่วยกันแชร์ให้ถึงมาร์ค พิทบูล ด้วยครับ ปฐวี ขอท้า” หลังมีการแชร์ข้อความออกไป ปรากฎว่ามีคนให้ความสนใจจำนวนมาก โดยมีทั้งผู้หนุนทั้งฝ่ายของ พ.ต.ท.ปฐวีฯ และผู้หนุนฝ่ายของมาร์ค พิทบูล และมีผู้ต้องการดูการชกมวยระหว่าง 2 คนนี้
ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อขอสัมภาษณ์ พ.ต.ท.ปฐวี ก้อนวิมล รอง ผกก.ป.สภ.หนองวัวซอ เพื่อขอทราบเรื่องที่โพสต์ในเพจส่วนตัวดังกล่าว ซึ่งทาง พ.ต.ท.ปฐวี ที่เพิ่งเดินทางกลับจาก จ.สกลนคร หลังจากไปเป็นครูฝึกยุทธวิธี ให้กับกำลังตำรวจ สังกัด ภ.จว.สกลนคร
พ.ต.ท.ปฐวี ก้อนวิมล รอง ผกก.สภ.หนองวัวซอ เปิดเผยว่า ก่อนจะมีการท้าชกกับมาร์ค พิทบูล เนื่องจากได้ไปเห็นพี่มาร์ค ไลฟ์สด เชิญชวนให้ประชาชนมาตีตำรวจที่ด่าน ผมมีความรู้สึกว่า ถ้าจะให้ไปตีที่ด่าน มันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว ถึงแม้พี่มาร์คจะอยากตีตำรวจมาก ๆ ก็ทำที่ด่านไม่ได้ ตำรวจที่ไหนก็ทำไม่ได้ เพราะต้องปฎิบัติหน้าที่ แต่ถ้าพี่มาร์คอยากต่อยจริง ๆ ตนจึงมีความเห็นว่า น่าจะจัดเป็นกีฬา มีกติกาที่เป็นสากล จัดให้เป็นการกุศลไปเลย ไหน ๆ พี่มาร์คก็มีมูลนิธิเกี่ยวกับการปราบโกง เป็นการคิดสร้างสรรค์ ดีกว่าที่จะพาคนไปตีตำรวจที่กำลังปฎิบัติหน้าที่
“โดยส่วนตัวผมไม่ได้มีสาเหตุโกรธกันมาก่อน แม้แต่ผมโพสต์ท้าชกไปแล้ว ก็ยังไปคุยไลน์กับพี่เขาปกติ โดยส่วนตัวผมเป็น FC หรือแฟนคลับพี่เขาอยู่แล้ว ได้คุยไลน์สอบถามที่มาที่ไปของเรื่องราว ซึ่งพี่มาร์คพยายามบอกว่าที่โพสต์ไป มันเป็นการโพสต์นานแล้ว ว่าเกี่ยวกับตำรวจที่ทำไม่ดี แต่ในความรู้สึกของผมเห็นว่า ความเชื่อมั่นที่ประชาชนมีต่อตำรวจ มีคนมาตีมาต่อยตำรวจที่ด่าน แล้วตำรวจยอมให้ทำได้ ประชาชนจะไม่เชื่อมั่นตำรวจ ที่จะมาปกป้องชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน”
พ.ต.ท.ปฐวี กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องที่จะชกต่อยกัน หากต่อยกันแล้วมันเป็นเรื่องสร้างสรรค์ตนก็จะทำ แต่ถ้ามันทำให้องค์กรเสียหายตนก็เลิกไม่ทำดีกว่า ถ้ามีการจัดชกแบบมีโปรโมเตอร์ นำรายได้มาพัฒนาโรงพัก หรือนำเข้ามูลนิธิปราบโกง ตนคิดว่าคนอยากดูกันเยอะ โดยเฉพาะตำรวจ หลังจากโพสต์แล้วเป็นข่าวออกมา ผู้บังคับบัญชาแสดงความเป็นห่วง เพราะตนไปโพสต์เกี่ยวกับการแต่งเครื่องแบบชก ซึ่งกติกาจริง ๆ ถ้าจะขึ้นชกต้องแต่งชุดนักมวย ซึ่งตนก็ฟิตและพร้อมตลอด
"อยากฝากถึงพี่มาร์คว่า ตำรวจทุกคนทำงาน บางคนต้องเสียเลือดเนื้อ ตำรวจดีๆ ก็มีเยอะ ถ้าพูดในภาพรวม ว่าตีตำรวจได้ หาเกิดพฤติกรรมเรียนแบบ ทำให้คนไม่เคารพกฎหมายขึ้นมา แบบที่เคยเห็นมา หากตำรวจถูกกระทำเช่นนี้อยู่บ่อยๆ ประชาชนจะขาดความเชื่อมั่น ถือว่าไม่ใช่บทบาทของผู้บำบัดทุกข์บำรุงสุข ควรจะให้เกียรติในเรื่องนี้"
พ.ต.ท.ปฐวี กล่าวอีกว่า เท่าที่คุยกับทางโปรโมเตอร์ที่เขาอยากมาจัดมวย เขาบอกหากชกกันจริงก็อยากจะจัดขึ้นที่เวทีมวยลุมพินี ซึ่งไม่ได้จะมีแต่คู่ของตนคู่เดียว ซึ่งรายได้ก็จะสมทบทำการกุศล หรือจะนำมาพัฒนาสนามยิงปืนให้กับทางตำรวจหนองวัวซอ ซึ่งก็คงจะด้รับความกรุณาจากพี่มาร์ ฯด้วย เพราะตอนนี้ที่โรงพักหนองวัว ซอกำลังสร้างสนามยิงปืนอยู่ที่ด้านหลังโรงพัก เพื่อจะได้ช่วยพัฒนาโรงพักของตนด้วย ส่วนหากต่อยกัน เรื่องของกีฬาหากแพ้ชนะคงไม่สำคัญ ถ้าต่อยกันไม่ได้หมายความว่าตนจะต้องชนะ เพราะเมื่อขึ้นชกก็ต้องเป็นไปตามกติกาสากล ไม่ใช่ขึ้นไม่ชกเพื่อประหัตประหารตายกันไปข้างหนึ่ง ก็คงพูดไม่ได้ว่าใครจะแพ้ใครจะชนะ ยังไงก็ขอให้ว่ากันเป็นเรื่องของการกีฬาแล้วกัน
สำหรับประวัติ "สารวัตรโก้" พ.ต.ท.ปฐวี ก้อนวิมล รอง ผกก.ป้องกันปราบปราม สภ.หนองวัวซอ จบโรงเรียนนายร้อยตำรวจสามพราน รุ่น 58 มีชื่อเล่นว่า "โก้" จากบุคลิกส่วนตัว และลักษณะวิธีการทำงาน จึงได้รับสมญาว่า "แรมโก้" ล้อเลียนจาก "แรมโบ้" ก่อนจะไปรับตำแหน่งที่ สภ.หนองวัวซอ มีตำแหน่งเป็น สวป.สภ.เมืองอุดรธานี เป็นผู้จัดโปรแกรม และควบคุมการฝึก ตำรวจสายตรวจ 191 แบบเข้มข้น จนเป็นที่พูดกันมากในหมู่ตำรวจสูงอายุ และเมื่อไปเป็น รอง ผกก.ป.สภ.หนองวัวซอ ตำรวจภูธรภาค 4 ก็มีคำสั่งไปช่วยงานงานสำคัญบางเรื่อง ล่าสุด กรณีตามล่าวิสามัญ "น้อย เหล็กเพชร" ยิงตำรวจ ภาค 4 เสียชีว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี