23 ส.ค.61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางพิมพ์ภา ศิลาอ่อน อายุ 56 ปี ชาวจ.สุรินทร์ อดีตแม่บ้านตามบริษัทห้างร้านต่างๆในกรุงเทพฯมากว่า 30 ปี กลับบ้านเกิด เพื่อดูแลแม่ของสามีที่ชรามากแล้ว และลูกสาวพิการ ด้วยเปิดร้านก๋วยเตี๋ยวต้มยำรสเด็ด ขายตั้งแต่ราคาชามละ 10 บาท ปัจจุบัน ราคาเริ่มต้น ธรรมดา 25 พิเศษ 30 บาท และ จัมโบ้ 35 บาทที่บริเวณหน้าบ้านซึ่งอยู่ตรงข้ามวัดธาตุ เปิดขายทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00 ถึงเวลา 14.00น. ก๋วยเตี๋ยวก็จะจำหน่ายหมดเกลี้ยง โดยเฉลี่ยแล้วสามารถจำหน่ายได้วันละ 70-100 ถ้วย ลงทุนวันละ 1,200 บาท หลังหักค่าใช้จ่ายก็จะพอเหลือกำไรวันละ 200-300 บ้าน ก็อยู่ได้อย่างสุขใจ เพราะบ้านไม่ต้องเช่า ข้าวไม่ต้องซื้อ แถมได้ดูแลแม่ และลูกสาวที่พิการได้อย่างใกล้ชิด ไม่ต้องไปเป็นลูกจ้างใคร เพราะได้เป็นเจ้านายตัวเอง

ด้วยรสชาติก๋วยเตี๋ยวต้มยำเจ๊ภา ไม่เหมือนใคร เพราะปรุงแต่งรสด้วยสูตรเฉพาะ ทำเองทุกอย่าง ทุกๆชามถูกจัดเต็มด้วย หมูสับ ลูกชิ้นปลา ตับหมู และเครื่องใน ส่วนผสม น้ำยำ ประกอบด้วยพริกป่น  น้ำปลา น้ำส้มพริกดอง  ถั่วลิสงคั่วบด 2 ช้อนโต๊ะ กากหมูกระเทียมเจียว 2 ช้อนโต๊ะมะนาว  ต้นหอมผักชีซอย ถ้วย หมูบด และน้ำตาลทราย  ด้วยสูตรผสมที่ลงตัว จึงให้ถูกปาก ถูกใจลูกค้าเป็นอย่างมาก ประกอบกับน้ำซุปที่ใช้จะนำกระดูกหมูมากต้มหลายกิโลกรัม เพื่อให้น้ำซุปมีความ หอม หวานน้ำต้มกระดูก ผสมสมุนไพรจีนที่เป็นสูตรเฉพาะ จึงทำให้ทุกวันนี้หลังจากขายมาได้กว่า 10 ปี มีลูกค้าถูกใจในความอร่อย

นางพิมพ์ภา ศิลาอ่อน อายุ 56 ปี เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวต้มยำเจ๊ภา กล่าวว่า ตนกลับบ้านมาเปิดร้านก๋วยเตี๋ยวต้นยำกว่า10 ปี มีความสุขมากๆ ที่ได้ทำงานที่บ้านเกิด โดยเฉพาะเวลาบริการลูกค้า บางคนบอกว่า เจ๊ภาวันนี้ขอเยอะๆ ตนก็จัดให้ตามคำขอ แต่ถ้าใครรับประทานเหลือก็จะถูกปรับ เท่าตัว เพราะคุณของมาเราก็จัดให้  อดีตชีวิตที่ผ่านมาสุดรันทด ไม่อยากจะเล่าให้ใครฟัง  แม่เสียชีวิตทั้งแต่อายุได้เพียง 7 ขวบ ตนเกิดในครอบครัวที่มีฐานะยากจน แต่เป็นคนที่ชอบทำงาน และเป็นคนขยัน จะอยู่เฉยๆไม่ได้ ต้องทำงาน  เลี้ยง วัว เลี้ยงควาย ออกไปรับจ้างสารพัด ตามประสาคนบ้านนอกเรา ไปอยู่กรุงเทพไปเป็นคนใช้เขา 30 ปี และเป็นแม่บ้าน ทำความสะอาดในโรงแรมชื่อดังอีกหลายแห่ง  พอมาแต่งงานกับสามี ชีวิตก็ล้มลุกคลุกคลานกันมาตลอดกว่า 30 ปี สามีก็มีอาชีพกินเหล้า จึงคิดว่าปัญหาตรงนี้ มันไม่เกี่ยว มันอยู่ที่ว่าเรามีพลังที่จะต่อสู้ชีวิตไหม ล้มก็ต้องลุกขึ้นมาได้ จึงพูดกับสามีว่า แม้ว่าเราจะยากจน มันอยู่ที่สองมือเรานะ สามีก็ไปรับจ้างขับแท็กซี่ เพื่อหากินมาสร้างบ้านหลังนี้  ขับแท็กซี่สร้างบ้านหลังนี้ 42 ครั้ง จึงจะเป็นบ้านหลังนี้นะ สะสมเงินเงินที่ละ 2,000-7,000 บาท แล้วแต่จะเก็บได้ และบ้านหลังนี้ถ้าใครให้เซ็น คุณทำให้ก่อนค่อยให้เงินทีหลัง ตนจึงเอาเพราะตนไม่มีเงินจ่าย โดยทุกวันอังคารสามีจะโอนเงินมาให้  กว่าจะมาถึงวันนี้ ตนมีลูกสาว พิการ ตาบอด ปัญญาอ่อน ชักบ้าหมู กินเสื้อผ้าเป็นอาหาร แม่ยายเป็นคนดูแลให้มาโดยตลอด  ถ้าหากว่าใครท้อแท้ ตนไม่อยากจะให้ท้อ ล้มให้รีบลุก อย่าไปจมปลักกับชะตาชีวิตมากมาย คนเรามีโอกาสที่จะฟื้นขึ้นมาได้เสมอ ความรวยไม่ได้มาจาก พ่อและแม่ ความรวยมาจากสองมือที่สร้างทำ ผ่านมาทาง อ.สนม จ.สุรินทร์ ก็แวะอุดหนุนให้กำลังใจกัน หรือโทรศัพท์ 082-126-1761