‘สมศักดิ์’ยังไม่ชัด ยับยั้งมติ‘แพทยสภา’หรือไม่ อ้างรอข้อมูลก่อนตัดสินใจ ยกกฎหมายให้อำนาจ‘สภานายกพิเศษ’ ลั่นไม่อยากให้มีก็ไปแก้ ระบุต้องพิจารณาให้ดี ไม่อย่างนั้นเสี่ยง‘ม.157’
เมื่อเวลา 09.35 น.วันที่ 20 พ.ค.68 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข ในฐานะสภานายกพิเศษ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีแพทยสภาส่งมติมาให้พิจารณาลงโทษแพทย์จำนวน 3 คน กรณีส่งนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ไปรักษาที่โรงพยาบาลตำรวจ ว่า คณะกรรมการเสนอความเห็นสภานายกพิเศษเพื่อพิจารณาตามมาตรา 25 แห่ง พ.ร.บ.วิชาชีพเวชกรรม พ.ศ.2525 ที่ตนตั้งขึ้น มีหน้าที่ให้คำปรึกษากับตน
ทั้งนี้ การพิจารณาแพทยสภาต้องผ่านคณะกรรมการ 4 ชุด เริ่มต้นคือ คณะอนุกรรมการจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรมชุดเฉพาะกิจ จะเป็นผู้รับเรื่องร้องเรียน เมื่อคณะกรรมการดังกล่าวมีมติจะส่งให้คณะกรรมการสอบสวนชุดเฉพาะกิจ เมื่อทำงานจบแล้วจะส่งให้คณะกรรมการกลั่นกรอง จากนั้นจะนำเข้าคณะกรรมการแพทยสภาที่มีคณะกรรมการทั้งหมด 70 คน เพื่อดำเนินการในการพิจารณาโทษ ซึ่งตนได้ข้อมูลจากคณะกรรมการทั้ง 4 ชุด แต่ยังไม่ได้คำตอบ หากได้คำตอบมาแล้วจะมีการพูดคุยและประชุมร่วมกับคณะกรรมการที่ตนตั้งขึ้นตามมาตรา 25 วันนี้ตนยังไม่สามารถบอกข้อมูลได้ว่าจะยับยั้งหรือไม่ยับยั้ง เพราะข้อมูลยังไม่ครบ และยังมีเอกสารที่ต้องเอานำมาเสนอเพื่อให้สอดคล้องกับที่เริ่มมาตั้งแต่เรื่องจริยธรรม
ผู้สื่อข่าวถามว่า ข้อมูลการรักษา ผลสอบของคณะกรรมการจะต้องออกมาจากแพทยสภาใช่หรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ตนดูในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการทำงานของตนตามมาตรา 25 และจะรับฟังจากคณะกรรมการเสนอความเห็นสภานายกพิเศษฯ ที่ตั้งมาเป็นหลัก
เมื่อถามว่า อดีตแพทยสภาออกมาตั้งคำถามว่า หากมี พ.ร.บ.แพทยสภาฉบับใหม่ ควรจะให้อำนาจสภานายกพิเศษมีอำนาจในการยับยั้งมติแพทยสภาหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า “นั่นสิ กฎหมายเขียนไว้ทำไม ต้องเปลี่ยนสิ งั้นก็ต้องไปเปลี่ยนกฎหมายใหม่ เพราะผมทำตามกฎหมาย ถ้าผมไม่ทำตามกฎหมายก็จะมีความผิด เหมือนกับแพทยสภาถ้าไปพิจารณาแล้วทำให้ผู้ที่ถูกพิจารณาโทษรู้สึกว่าไม่ผิด เขาฟ้องร้อง มันจะเป็นปัญหา เหมือนผมไม่ดำเนินการ ไม่ทำอะไร ปล่อยไว้เฉยๆ ก็อาจจะถูกฟ้องร้องได้ ถ้าคิดว่าสภานายกพิเศษไม่มีประโยชน์ กฎหมายก็ต้องเปลี่ยน แต่ตรงนี้ผมถูกบังคับด้วยกฎหมาย เลยต้องทำงาน”
เมื่อถามว่า กำหนด 15 วันที่สภานายกพิเศษจะต้องพิจารณามติแพทยสภา จะเริ่มนับตั้งแต่วันไหน นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ตนคิดว่าถ้าข้อมูลครบก็จะใช้เวลา 15 วันหลังจากได้รับหนังสือจากแพทยสภา ทั้งนี้ จากการขอข้อมูลไปครั้งที่ 2 หากได้กลับมาข้อมูลก็ครบแล้ว ซึ่งจะพยายามไม่ขอขยายเวลา
เมื่อถามถึงกรณีแพทยสภาแนบเอกสารมาในรายงานว่า นายทักษิณไม่ได้ป่วยวิกฤติ ตรงนี้จะมีการขอข้อมูลเพิ่มอีกหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ในส่วนตนเข้าใจว่า เขาได้มีการพิจารณาไปหมดแล้ว ซึ่งคณะกรรมการเหล่านี้ก็ยังไม่ได้พูดถึง และมีการเสนอความเห็นมายังสภานายกพิเศษ ทั้งนี้ สำหรับประมวลกฎหมายอาญา 157 เกี่ยวข้องกับคนที่อยู่ในกระบวนการทั้งหมด รวมถึงตน และคนที่ทำหน้าที่เป็นคณะกรรมการแต่ละชุด ฉะนั้น เราจะต้องพิจารณาให้ดีตามอำนาจหน้าที่ที่เรามี
เมื่อถามว่า ได้อ่านหนังสือของนายแพทย์โรงพยาบาลตำรวจที่ร้องขอความเป็นธรรมหรือยัง นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ก็ดูแล้ว จึงตนได้ขอเอกสารจากแพทยสภาว่ามันตรงกับสิ่งที่เขาร้องเรียน ขอร้อง ขอความเป็นธรรมมาหรือไม่ เพราะมันมีความเกี่ยวข้องกับมาตรา 157
เมื่อถามถึงกรณี นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรคไทยภักดี ระบุหากยับยั้งมติแพทยสภาโดยไม่มีเหตุผลทางการแพทย์ สภานายกพิเศษอาจโดนมาตรา 157 นายสมศักดิ์ กล่าวว่า คนต้องถูกตรวจสอบโดยกฎหมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งคณะกรรมการของแพทยสภาทุกชุด เราต้องระมัดระวังว่าอะไรที่ควรหรือไม่ควร จะต้องดำเนินการไม่ให้ขัดกับมาตรา 157 เพราะเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี