โอวาทธรรมจากพระอริยะสงฆ์ พระญาณสิทธาจารย์ หรือ หลวงปู่สิม พุทฺธาจาโร วัดถ้ำผาปล่อง อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่
"...เวลาที่หมดไป สิ้นไป โดยไม่ได้ทำอะไรที่เป็นคุณประโยชน์แก่ตัวเองบ้างในชีวิตที่เกิดมาในโลกและได้พบพระพุทธศาสนานี้ช่างเป็นชีวิตที่น่าเสียดายยิ่งนัก เวลาแม้เพียงหนึ่งนาทีที่ผ่านไปนั้น แม้ว่าจะทุ่มเงินจำนวนมหาศาลก็ไม่สามารถซื้อกลับคืนมาได้ ฉะนั้น สิ่งที่น่าเสียดายในโลกนี้ จะมีอะไรน่าเสียดายเท่ากับปล่อยวันเวลาผ่านเลยไปโดยเปล่าประโยชน์ แม้ว่าจะเพียงแค่นาทีเดียว
เราผู้เป็นสาวก สาวิกา ศรัทธาญาติโยม ภิกษุสงฆ์ สามเณร ก็อย่าได้มีความท้อถอย อย่าไปคิดว่าเราทำไม่ได้ เราบุญน้อย วาสนาน้อย ละกิเลสไม่ได้ อย่าไปคิดอย่างนั้น อะไรก็ตาม ถ้าหากว่าเรามีความตั้งใจมั่น ไม่หวั่นไหวแล้ว ย่อมได้ย่อมถึง เป็นไปได้ทุกถ้วนหน้า
เรื่องการภาวนานั้นไม่หมายเอาเพียงรูปร่างภายนอก การนั่งแต่เพียงรูปร่างกายนั้นไม่ยุ่งยาก ข้อสำคัญอยู่ที่การทำจิตใจ ตั้งมั่น รู้อยู่ภายใน รวมอยู่ภายใน รู้ตามเป็นจริงของสิ่งต่างๆ มี อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา เป็นต้น จนไม่ยึดมั่นถือมั่นเสียได้
การภาวนานั้น ต้องรู้จักเลือกอุบายภาวนา พิจารณาอุบายที่ถูกจริต อาศัยความเพียรอย่างเดียวไม่ได้ กิเลสมันพลิกแพลงเก่ง ต้องตามให้ทัน คนรู้จักพิจารณาก็ได้บรรลุธรรมเร็ว
การภาวนา เป็นเหมือนเครื่องค้นคว้าหาแก้วอันประเสริฐ คนเรามีแก้วอันประเสริฐอยู่ในตัว แต่เมื่อไม่อาศัยการภาวนาก็ไม่สามารถค้นพบแก้วนั้นได้ พระพุทธศาสนามีคุณค่าสูงก็ด้วยสอนวิธีภาวนา ทำจิตใจที่มีกิเลสอาสวะเศร้าหมองอยู่ให้หมดจดจากสิ่งเศร้าหมองกลับผ่องใสขึ้น
เป็นธรรมดาที่สังขารร่างกายของเรา จะต้องเดินไปสู่ความเสื่อมความสลาย แม้จะป้องกันแก้ไขอย่างไร ก็เป็นแต่ ยืดเวลาออกไปเท่านั้น ที่จะห้ามไม่ให้แก่ ไม่ให้เจ็บ ไม่ให้ตายเลยนั้นไม่ได้
ฉะนั้น จึงให้มุ่งเอาจิตเป็นสำคัญ คือบำรุงรักษาร่างกายพอประมาณ แต่บำรุงรักษาจิตให้มากๆ เป็นการหาสาระ จากสิ่งที่ไม่เป็นแก่นสารนั้นๆ ให้มากที่สุดที่จะทำได้ คือให้เร่งรัดบำเพ็ญกุศลเต็มสติกำลัง ทั้งทาน ศีล ภาวนา แม้ร่างกายจะแก่ จะแตก จะตาย ก็ไม่วิตกกังวล เพราะสมบัติดีๆ มีไว้ เตรียมไว้แล้ว ดังนี้ จะไปไหนก็ไม่ต้องกลัว
"การภาวนา" เป็นเรื่องการบำเพ็ญเพื่อความสุข ไม่ใช่เพื่อความทุกข์ แม้จะมีความยากลำบากบ้างก็อย่าท้อถอย ให้เห็นเป็นธรรมดาของการจะทำสิ่งมีค่าให้เกิดขึ้น
"มรณกรรมฐาน" นี้เป็นยอดกรรมฐานก็ว่าได้ คนเราเมื่ออาศัยความประมาทมัวเมา ไม่ได้มองเห็นภัยอันตรายจะมาถึงตน คิดเอาเอง หมายเอาเองว่า เราคงไม่เป็นไรง่ายๆ เราสบายดีอยู่ เรายังเด็กยังหนุ่มอยู่ ความตายคงไม่กล้ำกรายได้ง่าย อันนี้เป็นความประมาทมัวเมา
กิเลสมันมีอุบายหลายอย่างที่มักจะเอาชนะคน ผู้จะปราบมันเสมอ แทนที่จะปราบมัน กลับถูกมันปราบเอา ฉะนั้น วันคืนล่วงไป อย่าให้ล่วงไปเปล่า ต้องประกอบความพากเพียรภาวนา อย่าเห็นแก่กินแก่นอนเป็นใหญ่ ให้มุ่งชำระกิเลสเป็นของจำเป็น เป็นหน้าที่สำคัญ
ยิ่งเจริญ ยิ่งภาวนาเท่าใด จิตใจมันก็มีกำลัง เมื่อใจมีกำลัง มีความสามารถอาจหาญแล้ว สิ่งที่เราว่ายากก็ไม่มีอะไรยาก สิ่งที่เราคิดว่าเหลือวิสัยก็ไม่เหลือวิสัย อยู่ในวิสัยทุกคนจะทำได้ทั้งสิ้น
ภัยต่างๆ ที่เห็นๆ กันนั้น อย่างมากก็เพียงชั่วระยะเวลาหนึ่งแล้วก็ผ่านไป แต่ส่วนภัยของกิเลสนั้น ตายแล้วยังไม่หมดภัย มันยังเป็นภัยข้ามภพข้ามชาติไปอีกไม่รู้สิ้นสุด ถ้าเราไม่หาอุบายวิธีกำจัดมันให้หมดสิ้นหรือเบาบางไป เราก็ต้องประสบภัยจากมันเรื่อยไป
กาลเวลามันล่วงไปผ่านไป แต่มันก็ไม่ได้ล่วงไปเปล่า มันเอาอายุวัยของเราไปด้วย
ถ้าเราภาวนาชำระกิเลสโลภ โกรธ หลง ออกไปมากเท่าไร ก็เท่ากับความเป็นพุทธะ ธัมมะ สังฆะ ของเราเพิ่มขึ้นทุกที
เมื่อสิ่งที่ไม่เที่ยงนั้นแหละ มาถึงบุคคลใด บุคคลนั้นจะต้องรู้เท่าทัน อย่าไปยึดเอาถือเอา เมื่อไปยึดสิ่งใด ถือสิ่งใด สิ่งนั้นไม่เป็นไปตามใจหวัง ก็เกิดความทุกข์ขึ้นมา ถ้าไม่ยึดเอาถือเอา เห็นว่าทุกสิ่งทุกอย่างย่อมมีความไม่เที่ยงอย่างนี้ มีความเกิดขึ้น ตั้งอยู่ แล้วดับไป เกิดขึ้นใหม่ ตั้งอยู่ ก็ดับไป เกิดขึ้นแล้วก็ดับไป เป็นอยู่อย่างนี้ ทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่ว่าคน สัตว์ วัตถุธาตุทั้งหลาย มีความไม่เที่ยงแท้แน่นอนอย่างนี้
อุบายใดก็ตามเป็นอุบายยังจิตของตนให้สงบระงับได้ ก็ให้ถือเป็น "อุบายภาวนา" ได้ทั้งนั้น
คนเราโดยมากมักถืออุปสรรคเป็นเครื่องบั่นทอนกำลังใจ เลยท้อแท้ที่จะแก้ไขปรับปรุงหรือดำเนินกิจการให้รุดหน้าต่อไป
ส่วนผู้ที่มีความเข้มแข็ง หรือจะทำจิตใจของตนให้เข้มแข็งต่อไป จะต้องถืออุปสรรคอันตรายต่างๆ เป็นสิ่งที่จะช่วยสร้างเสริม บารมีของตนให้เพิ่มขึ้น
ชีวิตของเราเป็นของไม่ยั่งยืน เป็นของที่จะต้องตายลงโดยแน่นอน เวลานี้อาจได้ยินข่าวมรณกรรมของผู้อื่น ของพระอื่น แต่อีกไม่นาน ข่าวนั้นจะต้องเป็นของเราบ้าง เพราะชีวิตทุกชีวิตจะต้องเป็นไปในลักษณะนี้ทั้งนั้น
ฉะนั้น อย่างประมาทเรื่องความตาย ให้เร่งภาวนาทำจิตใจให้หมดกิเลส หมดทุกข์หมดร้อนให้ได้ก่อนความตายจะมาถึง..."
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี