องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน (อพท.) ร่วมกับมหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา นำผู้ประกอบการสตูลและทั่วประเทศ รวมทั้งสื่อมวลชน เยี่ยมชมชุมชนท่องเที่ยวต้นแบบ "การท่องเที่ยวโดยชุมชน" ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส เพื่อเปิดมุมมองการรับรู้ และชวนเที่ยวชุมชนสำหรับนักท่องเที่ยวที่สนใจทั้งในและต่างประเทศ
โดยชุมชนท่องเที่ยวบางปู อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี เป็นหนึ่งใน 6 ชุมชนต้นแบบ 3 จังหวัดชายแดนใต้มีวิถีชีวิตพึ่งพาร่วมกับธรรมชาติ ชาวไทย-มุสลิม ประกอบอาชีพประมงพื้นบ้านติดอ่าวปัตตานี โดยมีต้นโกงกางใบเล็กที่อุดมสมบูรณ์ล้อมรอบสวยงาม เป็นแหล่งอาหารของคนในชุมชนได้เป็นอย่างดี และมีความสวยงามที่ธรรมชาติปรุงแต่งให้ ส่งผลให้ชาวบ้านเกิดความหวงแหนจนเกิดการผลักดันให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ
เส้นทางลงเรือชมธรรมชาติด้วยเรือประมงพื้นบ้านพร้อมอุปกรณ์ที่ปลอดภัย ล่องเรือสัมผัสวิถีชีวิตของชาวประมงพื้นบ้าน ดื่มด่ำความงดงามสองฝั่งข้างทางด้วยป่าโกงกางที่อุดมสมบูรณ์ พร้อมลอดซุ้มอุโมงค์โกงกางที่มีความยาวกว่า 500 เมตรที่งดงามตามธรรมชาติสร้างสรรค์มอบให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสรากโกงกางที่แข็งแรงวิจิตตระการตา เล่ากันว่าหากท่านใดได้เหยียบย่ำรากโกงกางไปมาจะช่วยผ่อนคลาย เลือดลมหมุนเวียนได้ดีเลยทีเดียว
โดยมีนายแวฮาซัน หะยีสอเฮาะ อายุ 34 ปี นักสื่อสารในท้องถิ่นจะคอยให้คำแนะนำความมหัศจรรย์ของธรรมชาติที่นี่ สัตว์เล็กน้อยใหญ่ที่อยู่คู่ผืนป่าอุโมงค์โกงกาง หอย ปู และนานาชนิด ดอกไม้หลากสีสันที่ชูช่ออวดโฉมที่ชุมชนแหล่งนี้ ได้กลายเป็นแหล่งเรียนรู้ให้เยาวชน นักเรียน ได้ล่องเรือเข้าศึกษาความงดงามและความมหัศจรรย์ของธรรมชาติกันไม่เว้นวันเลยเช่นกัน
หลังจากหลุดจากอุโมงค์ป่าโกงกายไปไม่ไกลนัก นักท่องเที่ยวจะตื่นตาตื่นใจกับฝูงนกกาน้ำ สีดำมันวาวบินโชว์เลียบเลาะผิวน้ำให้ช่างภาพได้ถ่ายรูปกันอย่างตื่นตาตื่นใจ สร้างความตื่นเต้นตื่นตาให้กับผู้พบเห็นทุกครั้ง ซึ่งนายแวฮาซัน หะยีสอเฮาะ อายุ 34 ปี นักสื่อสารในท้องถิ่นนักสื่อสารชุมชนบางปู เล่าว่า ยิ่งใกล้เวลาพลบค่ำจะพบฝูงนกกาน้ำจำนวนมากบินกลับลงมาพักในป่าโกงกางนับพันตัวในท้องน้ำแหล่งนี้
การท่องเที่ยวที่ชุมชนบางปูแห่งนี้หากจะเที่ยวให้สนุกต้องมาในเวลาบ่ายแก่ ๆ จนถึงเย็น หากโชคดีน้ำลดนักท่องเที่ยวจะได้เก็บหอยกัน และชมหิงห้อยในเวลากลางคืน และพบฝูงนกหลากหลายกลุ่มบินกลับลังเป็นภาพที่อลังการตามธรรมชาติสรรค์สร้างเลยทีเดียว
นายคมกริช เจะเซ็ง ประะานชุมชนท่องเที่ยวบางปู บอกว่า หลังนักท่องเที่ยวล่องเรือ ถ่ายภาพกันจนดื่มด่ำร่วมชั่วโมงกับเส้นทาง ร่วมหนึ่งกิโลเมตร ที่ชุมชนแหล่งนี้ยังมีอาหารสด ๆ จากวัตถุดิบในชุมชนตามฤดูกาล ไม่ว่าจะเป็นปูดำก้ามโต ยำสาหร่ายผมนาง, แกงโบราณ เป็นการเปิดมุมมองใหม่ให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัส และเป็นทางเลือกของนักท่องเที่ยวให้รู้ว่า "โลกใบนี้ยังมีมุมดีๆ ให้เรามอง" อย่างชุมชนบางปู พร้อมเชิญชวนทุกท่านที่ชื่นขอบเที่ยวเชิงธรรมชาติเปิดมุมมองใหม่ได้สัมผัส
นางสุภาพรรณ สุนทรารชุน ผู้ประกอบการท่องเที่ยว CPS สตูล กล่าวว่า แม้จะคนละฝั่งทะเลกับจังหวัดสตูลซึ่งอยู่อันดามัน แต่ชุมชนบางปู จ.ปัตตานี ซึ่งอยู่ฝั่งอ่าวไทยมีความอุดมสมบูรณ์ของป่าโกงกางไม่แพ้กัน มีแหล่งท่องเที่ยวคล้ายสตูลแต่ถือเป็นความสวยที่แตกต่างเพราะคนละฝั่งทะเล ชุมชนที่นี่มีความพร้อมในการให้บริการนักท่องเที่ยวช่วงเวลาเย็นน่าจะเป็นเวลาที่เหมาะสำหรับการท่องเที่ยวแห่งนี้ เพราะอากาศไม่ร้อนเกินไปนักท่องเที่ยวอาจได้ทำกิจกรรมเก็บหอยกัน และชมหิงห้อยสร้างความตื่นตา ตื่นใจได้มากเลยทีเดียว
หรือสามารถติดต่อ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ นายคมกริช เจะเซ็ง ประธานชุมชนท่องเที่ยวบางปู 064-2691815 หรือติดต่อทางเฟสบุก "ชุมชนท่องเที่ยวบางปู ปัตตานี"
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี