17 ต.ค.61 น.ส.ประภาพร สุวรรณดรัณ อายุ 53 ปี ผู้ประกอบการส่งออกผลไม้ไทยรายหนึ่ง เปิดเผยต่อทีมข่าวแนวหน้าออนไลน์ว่า ตนได้รับความเสียหายและเดือดร้อนจากผู้ขายทุเรียนที่มีเจตนาส่งทุเรียนสดแช่แข็งที่แก่จัด และแตก ซึ่งไม่ตรงตามที่ได้ตกลงซื้อขายกัน จึงเดินทางกลับมาจากประเทศออสเตรเลีย เพื่อมาแจ้งความดำเนินคดีที่ สน.บางแขน เมื่อวันที่ 8 ต.ค.61 ที่ผ่านมา เพราะก่อนหน้านี้ได้ไปยื่นเรื่องร้องเรียนที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) และได้คำแนะนำให้ไปแจ้งความดังกล่าวข้อหาฉ้อโกง เนื่องจากได้สั่งทุเรียนที่คุณภาพดี แต่ปรากฎว่าทุเรียนที่สั่งไปนั้นไม่ได้เป็นไปตามคุณภาพที่ตกลงกันไว้
น.ส.ประภาพร กล่าวอีกว่า เพื่อนที่อยู่ประเทศออสเตรเลียสนใจซื้อทุเรียนลูกแช่แข็ง ตนจึงสอบถามเพื่อนร่วมงานรุ่นน้อง ที่เคยทำงานด้วยกัน ได้แนะนำให้รู้จักกับชิ๊ปปิ้งที่ส่งทุเรียนออกต่างประเทศ ประสบการณ์ 8 ปี ตนจึงเชื่อถือและไว้ใจให้ชิ๊ปปิ้งเป็นผู้จัดหาบริษัทขายทุเรียนที่มีมาตรฐานและเอกสารส่งออกครบถ้วน แต่ตนไม่ได้ตรวจสอบว่ามีเอกสารตามมาตรฐานส่งออกจริงหรือไม่ ตนตัดสินใจเลือกบริษัทดังกล่าวตามคำแนะนำของชิ๊ปปิ้ง และเริ่มติดต่อพูดคุยกันในวันที่ 17 ก.ค.61 ที่ผ่านมา เราตกลงสั่งซื้อทุเรียนทั้งหมด 6 ตู้คอนเทนเนอร์ ประมาณตู้ละ 7,500 กิโลกรัม ราคา 145 บาทต่อกิโลกรัม รวม 1,087,500,000 บาทต่อตู้ ซึ่งราคานี้รวมกล่องบรรจุและตาขายโฟมแล้ว ตนจึงโอนมัดจำไปให้ 500,000 บาท ในวันที่ 23 ก.ค.61 ที่ผ่านมา
จากนั้นในวันที่ 11 ส.ค.61 ทางบริษัทดังกล่าวแจ้งมาว่าได้ขึ้นของเสร็จเรียบร้อยแล้ว ดังนั้น ระหว่างที่เช็คสิ้นค้าขึ้นเรือได้บันทึกว่าภายในกล่องมีบรรจุทุเรียนต่อกล่องจำนวนกี่ลูก ซึ่งจากที่เช็คแล้วปรากฎว่า กล่องที่บรรจุขนาด 5 ลูก มีจำนวน 326 กล่อง และกล่องที่บรรจุขนาด 6 ลูก มีจำนวน 209 ลูก จึงเห็นว่าไม่เป็นไปตามที่ตกลงกันไว้ว่าจะต้องมีกล่องที่บรรจุขนาด 4 ลูก ซึ่งไม่ตรงวัตถุประสงค์ของลูกค้าต่างประเทศที่ต้องการ ตนจึงทำหนังสือยกเลิกสินค้าที่เหลืออีก 5 ตู้คอนแทนเนอร์ ในวันที่ 15 ส.ค.61 แต่ขณะนั้นของล๊อตแรกออกจากท่าเรือ วันที่ 13-29 ส.ค.61 ของถึงประเทศออสเตรเลีย วันที่ 30 ส.ค.61
"เมื่อเห็นทุเรียนที่ส่งมาไม่ได้เป็นไปตามที่ตกลงกันตามใบสั่งซื้อ เลขที่ 1/2561 ฉบับลงวันที่ 9 ส.ค.61 เนื่องจากทางบริษัทดังกล่าวบอกว่าจะบรรจุทุเรียน 4-6 ลูกต่อกล่อง โดยกล่อง 4-5 ลูก จะมีจำนวนมากกว่ากล่อง 6 ลูก แต่ปรกฎว่าตู้ที่ที่ส่งมาตู้แรกไม่ได้ส่งทุเรียนขนาด 4 ต่อกล่องเลย กลับบรรจุทุเรียนกล่องละ 6 ลูกมาเป็นจำนวนมาก จึงไม่เป็นไปตามความต้องการของลูกค้าต่างประเทศ
ประกอบกับยังไม่ได้ระบุเงื่อนไขการจ่ายเงินและระยะเวลาการส่งมอบทุเรียนแช่แข็งให้ทราบด้วย ทั้งนี้ สัญญาซื้อขายที่ทางบริษัทส่งมานั้นเป็นสัญญาที่เอาเปรียบผู้ซื้อและเสี่ยงในการซื้อทุเรียนที่จะไม่ได้รับสินค้าหรือได้รับสินค้าไม่ตรงตามความต้องการอีกด้วย อย่างไรก็ตาม ได้ตรวจสอบแล้วว่าบริษัทดังกล่าวไม่ได้มีใบรับรองการผลิตทุเรียนแช่เยือกแข็งฯ ซึ่งเป็นมาตรฐานสินค้าการเกษตรตามกฎหมาย" น.ส.ประภาพร กล่าว
ด้าน น.ส.เขมฤดี พุฒฤทธิ์ แม่ค้าขายทุเรียนสดให้กับ น.ส.ประภาพร สุวรรณดรัณ เปิดเผยว่า ตนบอกตั้งแต่แรกแล้วว่ารับซื้อทุเรียนสดในสวน เพื่อมาให้บริษัทที่รู้จักผลิตเป็นผลไม้แช่แข็งส่งออก ตนเห็นแล้วรูปที่เขาส่งมาให้ดู ซึ่งทุเรียนที่ส่งไปให้นั้น ไม่ได้เสียหาย และยังมีการแล็บให้เรียบร้อยอีกด้วย แต่เขามาบอกว่าทุเรียนที่เราส่งไปนั้นเน่ากินไม่ได้ เขาไม่มีความรู้ด้านส่งออกทุเรียนเลยสั่งไปแล้วบอกว่าเน่า เพราะไม่มีตลาดส่งออกแน่นอน วันที่สั่งของเขาไม่มาเช็คของ และก่อนจะปิดตู้ที่ท่าเรือแหลมฉบังไม่มี QC มาตรวจสินค้าก่อนส่งออกด้วยซ้ำ จะจ่ายเงินสุ่มสี่สุ่มห้ามาไม่ได้ ทั้งนี้ เขาไม่มีเงือนไขไม่มี QC เพราะทำงานคนเดียว แต่เราไม่ได้ทำงานคนเดียวเรามีบริษัทที่มีความเชียวชาญที่ทำธุรกิจส่งออกมา 20-30 ปีแล้ว
"มันไม่มีคำว่าเสียหาย แต่ด้วยความเป็นจริง คือ ทุเรียนมีความจำเป็นต้องแตก เพราะถ้าทุเรียนไม่สุกจริงจะไม่แตก แต่ทุเรียนที่เราส่งไปสุกจริงมันเลยแตก แต่คนที่เอาไปขายมีที่ขายจริงหรือไม่ เพราะถ้าเขาจะเอาไปขายจริงๆ เขาต้องแกะเนื้อทุเรียนไปขายไม่ได้ขายทั้งลูก แต่ส่วนมากจะระบุว่าต้องการลูกทุเรียนที่แช่แข็งแบบ IQF นั้นเขาก็บอกมา แต่เราทำโดยการเชี่ยวชาญ IQF ตามแบบที่ส่งออกตามมารฐานอยู่แล้ว ไม่อย่างนั้นเราก็ไม่สามารถส่งสินค้าออกไปต่างประเทศถ้าไม่ผ่านมาตรฐานการส่งออก และที่สำคัญบริษัทดังกล่าวทำมากว่า 20-30ปี" น.ส.เขมฤดี กล่าว
สำหรับข้อมูลการเก็บรักษาเนื้อทุเรียนสด โดยนายสมทรง ปวีณการก์ และคณะรายงานผลการวิจัย ศูนย์วิจัยพืชสวนจันทบุรี สถาบันวิจัยพืชสวน กรมวิชาการเกษตร กรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 2531 ทำรายงานไว้ว่า ระบบการแช่แข็งอาหารแต่ละระบบมีวิธีการและประสิทธิภาพแตกต่างกันไป การศึกษาระบบการแช่แข็งในการเก็บรักษาเนื้อทุเรียนสด จะเป็นประโยชน์ต่อการเก็บเนื้อทุเรียนสดในระยะเวลาที่ยาวนาน วัตถุประสงค์การวิจัย เพื่อศึกษาระบบการแช่แข็ง ระหว่างระบบไอคิวเอฟ (IQF/INDIVIDUAL QUICK FROZEN) และระบบ คอนแทค (CONTACT) มีผลต่อคุณภาพเนื้อทุเรียนแช่แข็งอย่างไรบ้าง การทดลองวิจัยใช้ทุเรียนพันธุ์ชะนีที่แก่จัด จากปากคลองตลาดนำมาดำเนินการแช่แข็งโดยไม่ต้องคว้านเมล็ด
ด้วยระบบแช่แข็ง ไอคิวเอฟ ใช้อุณหภูมิลด 40 องศาเซลเซียน ระยะเวลา 4 นาที และระบบคอนแทคใช้อุณหภูมิลบ 40 องศาเซลเซียส ระยะเวลา 4 ชั่วโมง บรรจุกล่องพลาสติก น้ำหนักกล่องละ 250 กรัม แล้วบรรจุรวมแต่ละระบบในกล่องกระดาษ เก็บรักษาในห้องเย็น อุณหภูมิลบ 20 ถึงลบ 25 องศาเซลเซียส ที่บริษัทห้องเย็นซินฮู จำกัด ทำการตรวจสอบคุณภาพด้านรสชาติ จุลชีววิทยาและธาตุอาหารทางเคมีทุกเดือนๆ ละครั้ง เป็นระยะเวลานาน 12 เดือน
ผลการตรวจสอบคุณภาพปรากฏว่า ทุเรียนพันธุ์ชะนีที่แช่แข็งระบบ ไอคิวเอฟ (IQF) มีคุณภาพด้านรสชาติรับประทานได้อร่อยดี เป็นที่ยอมรับของผู้บริโภค สีของเนื้อเข้มขึ้นดูสวยงามกว่าเดิม ปริมาณธาตุอาหารทางเคมีคงสภาพที่ดี คุณภาพทางจุลชีววิทยา ได้มาตรฐานผลไม้แช่แข็งของประเทศญี่ปุ่นส่วนทุเรียนพันธุ์ชะนีที่แช่แข็งด้วยระบบคอนแทค (CONTACT) ในระยะเวลา 6 เดือนหลังรสชาติมีคุณภาพดีไม่แตกต่างจากระบบ ไอคิวเอฟ แต่ระยะเวลา 6 เดือนหลัง รสชาติมีกลิ่นหืน เนื้อทุเรียนตรงใกล้เนื้อเยื่อสีขาวมีลักษณะฉ่ำน้ำเป็นดวง สำหรับปริมาณธาตุอาหารทางเคมียังคงสภาพที่ดีและคุณภาพจุลชีววิทยาได้มาตรฐานผลไม้แช่แข็งของประเทศญี่ปุ่น
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี