หลายคนคงคุ้นตากับการแข่งขันนกกรงหัวจุกทางภาคใต้ แต่ภาพการแข่งขันประชันเสียงไก่แจ้คงหาดูได้ยาก สำหรับที่จังหวัดสตูลนั้น กลายเป็นกีฬาพื้นบ้านที่กำลังฮิตติดชาร์ตไปแล้ว สำหรับการแข่งขันประชันเสียงไก่แจ้ โดยไก่ไม่เจ็บตัวเหมือนแข่งไก่ชนเพลิดเพลินทั้งไก่และคนเลี้ยง
การแข่งขันเริ่มขึ้นครั้งใดนับเป็นการได้พบปะกันระหว่างคนที่ชื่นชอบไก่เหมือนๆกัน อย่างที่สนามสี่แยกเจ๊ะบิลัง ต.พิมาน อ.เมือง จ.สตูล นายอนุรักษ์ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต อายุ 43 ปี ได้เปิดสนามแข่งขันประชันเสียงไก่แจ้ ชิงเงินรางวัล
เจ้าของสนาม กล่าวว่า การแข่งขันไก่ถือว่ามาแรงในตอนนี้เป็นการแข่งขันประชันเสียงซึ่งเป็นการละเล่นพื้นบ้านอย่างหนึ่ง ชาวบ้านชื่นชอบ เพราะการแข่งขันชัดเจนไก่ขันแต่ละครั้งจะนับง่าย รางวัลก็ชัดเจนจะให้คะแนนโดย ไก่ขัน 1 ครั้ง นับเป็น 1 ดอก ในเวลา 1 นาที โดยจะแบ่งจับตามเวลากำหนด สำหรับไก่ 1 ตัว แข่งขัน 4 รอบ ตัวไหนขันมากที่สุดในช่วงเวลาที่มีการจับเวลาจะได้คะแนนมากสุดก็รับรางวัลที่ 1 ไปครอง สำหรับผู้เข้าร่วมแข่งขันมาจากทั่วไปใน จ.สตูล หากทำตั๋วบัตรแพงๆ มีผู้เล่นเยอะเหล่าบรรดานักเลงไก่แจ้ ก็จะแห่มาร่วมประชันเสียงด้วยเพราะเงินรางวัลก็จะสูงขึ้นคุ้มค่ากับค่าเดินทาง
อีกหนึ่งสนามประชันเสียงไก่แจ้ ซึ่งเป็นสวนยางพารา บ้านเขาจีน ต.คลองขุด อ.เมือง จ.สตูล ที่ถูกจัดให้เป็นสนามไก่อีกแห่งหนึ่ง ภายหลังกรีดยางในตอนเช้า บรรยากาศดีมาก ร่มรื่น เจ้าของสนามตอกเสาเรียงรายให้ไก่ขันยืน สวยงาม ผู้เข้าแข่งขันร่วมเชียร์สุดใจ เรียกชื่อไก่ตนเองอย่างมีความสุข ชื่อไก่ที่มีความ หลากหลาย เท่ห์ ดูหล่อขึ้นมา เมื่อเจ้าของเรียกชื่อ อย่าง เจ้าแจ็คสเปโรว์, ยุทธ, ทอง, หงศ์ ,เจี๊ยบ ,เล็ก ,บอด สำหรับเจ้าบอดนี้ เหตุผลเพราะเป็นไก่ ตาบอดข้างเดียว แต่ยังร้องได้
ผู้เข้าร่วม แข่งขันอีกราย กล่าวด้วยความชื่นชมไก่ที่เลี้ยงว่า ไก่ตัวนี้ ชื่อ “แจ็คสเปโรว์” ลงสนามมา 3 ครั้งแล้วครั้งแรกขันได้ 5 ดอก (5 คะแนน) ครั้งที่ 2 ได้ 4 ดอกครั้งนี้ได้ 8 ดอก ได้ที่ 1 ยังไม่ทราบว่าได้รางวัลเท่าไร
ด้านนายวารินทร์ หลิมประเสริฐ ผู้ร่วมแข่งขัน กล่าวว่า สำหรับไก่แจ้นั้นเลี้ยงมาระยะหนึ่งแล้ว เมื่อก่อนเลี้ยงไก่สวยงามอยู่ ตอนนี้ได้หันมาเลี้ยงไก้แจ้เพราะมีเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนไก่ทั่วไป มีหูขาว หงอน ขาเข้งดำอมเขียว อีกอย่างคือเป็นสัตว์ที่จับต้องได้ การเลี้ยงก็เหมือนไก่ทั่วไป มีข้าวเปลือก มีหัวอาหาร อาบน้ำ 10 วันครั้งหนึ่ง ในส่วนเสน่ห์ของเสียงนั้น ผู้เลี้ยงรายนี้บอกว่า หากเป็นคนที่ชื่นชอบในไก่แจ้ก็จะเข้าใจดีว่า ฟังแล้วมีความสุข สำหรับการแข่งขันในครั้งนี้ นำมาตัวเดียว แข่งขันกันแบบสนุกๆ เพราะเป็นกิจกรรมในการอนุรักษ์ไก่แจ้ของไทย
ส่วนตัวแล้วชอบไก่ตรงที่สีสันการจับต้องได้ เล่นได้ อุ้มได้ พาไปเที่ยวได้ ตอนนี้สตูลมีหลายสนามในต่างอำเภอก็มี ผู้เล่นชอบ อีกทั้งยังกระตุ้นเศรษฐกิจไปด้วย บ้านไหนมีไก่เยอะๆจะได้ขาย ในส่วนอุปกรณ์เช่น ซุ่มไก่ก็สามารถทำขายได้ ตลาดเพิ่มขึ้น เพราะมีผู้เลี้ยงมากขึ้น
สำหรับ กติกาแต่ละสนามไม่เหมือนกัน หากค่าสมัครแพงก็จะมีเงินรางวัลเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ซึ่งเป็นค่าเลี้ยงดูไก่ บางสนาม (รับ ไก่ 60 ตัว ค่าสมัครตัวละ 100 บาท) ค่าเลี้ยงดูไก่ 700 บาท ที่ 2 ค่าเลี้ยงดูไก่ 600 บาท ที่ 3 ค่าเลี้ยงดูไก่ 500 บาท ที่ 4 ถึง10 ได้ค่าเลี้ยงดูไก่ 400 บาท
กติกาการแข่งขันไก่แจ้ 4 ยกรวมดอกจับขัน 1 นาทีต่อไก่ 1 ตัว เมื่อไก่ตกลงจากราวกรรมการเท่านั้น จะเป็นคนยกไก่ขึ้นราวไก่ต้องอยู่บนราวถึงจะนับดอก ลงมาขันบนพื้นไม่นับ เจ้าของไก่คนใดฝ่าฝืนไม่เคารพกติกาจะถูกตัดสิทธิ์ห้ามใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เปิดเสียงไก่ตัวเมีย
ทั้งนี้ คำตัดสินของกรรมการถือเป็นที่สิ้นสุด บางสนามยังกำหนดค่าสมัครสูงถึงตัวละ 500 บาท ชิงเงินรางวัลที่ 1,000-4,000 บาท รางวัลที่ 2-12 รางวัลละ 2,000 บาทรวม 12 รางวัล ทำให้นาทีนี้ไก่แจ้ในพื้นที่ จ.สตูล และหลายจังหวัดข้างเคียง มีราคาสูงเริ่มต้นตั้งแต่ตัวละ 2,000 บาท ไปแตะที่ 10,000 บาทก็มีหลายพื้นที่หันมาเพาะเลี้ยงพันธุ์ไก่แจ้มากยิ่งขึ้น
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี