ประเพณีลอยกระทง เป็นประเพณีโบราณที่สืบสานกันมาตั้งแต่รุ่นต่อรุ่น เพื่อเป็นการขอขมาพระแม่คงคา ในคืนวันเพ็ญเดือน 12 โดยในปีนี้ตรงกับวันที่ 22 พ.ย.61  หน่วยงานต่างๆ จัดงานวันลอยกระทงอย่างยิ่งใหญ่ประจำทุกปี ซึ่งในปีนี้ก็เช่นกันไม่ว่าภาคกลาง เหนือ อีสาน และใต้ ต่างนำเอกลักษณ์ท้องถิ่นของแต่ละภาคมาดึงดูดนักท่องเที่ยวและเชิญชวนให้มาเที่ยวงานที่จัดแสดงพร้อมแสง สี เสียง สุดอลังการ...

เริ่มจาก กรุงเทพฯ ร่วมกับ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กรมเจ้าท่า กองบัญชาการตำรวจนครบาล กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว สถานีตำรวจนครบาลบางยี่ขัน สถานีตำรวจนครบาลบวรมงคล กองร้อยรักษาความสงบเรียบร้อย กรมทหารปืนใหญ่ที่ 9  จัดงานลอยกระทง ประจำปี 2561 สืบสานวัฒนธรรมประเพณีไทยโบราณ ขอขมาพระแม่คงคา ชวนคนกรุง สัมผัสบรรยากาศใต้แสงจันทร์ในคืนวันเพ็ญ ริมสายน้ำเจ้าพระยา ณ สะพานพระราม 8 และคลองโอ่งอ่าง รวมถึงพื้นที่ต่างๆ 50 เขต และสวนสาธารณะ จำนวน 30 แห่ง

โดย นายทวีศักดิ์  เลิศประพันธ์  รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า การกำหนดจัดงานเทศกาลลอยกระทง ประจำปี 2561 ขึ้น เพื่ออนุรักษ์และสืบสานประเพณีไทย สืบทอดวิถีชีวิตของชุมชนที่มีต่อสายน้ำ และตระหนักถึงคุณค่ามรดกทางวัฒนธรรมอันดีงามที่ได้สืบทอดจากอดีตถึงปัจจุบัน และรณรงค์ให้ประชาชนใช้วัสดุธรรมชาติในการจัดทำกระทง เพื่อลดปริมาณขยะ และช่วยกันอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม

ขณะเดียวกัน จ.นครปฐม ได้จัดงานลอยกระทง แสง สี เสียง อย่างสวยงาม และได้พบกับกระทงที่ทำจากล็อตเตอรี่มูลค่าหลายล้านบาท โดยญาติโยมนำกระทงทำจากล็อตเตอรีเก่ามามอบให้ “พระครูยติธรรมานุต” เจ้าอาวาสวัดสว่างอารมณ์ ต.ขุนแก้ว อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม เพื่อความเป็นสิริมงคลให้กับครอบครัวให้อยู่เย็นเป็นสุขเจริญในหน้าที่การงานการเงินและยังเป็นการลอยทุกข์ลอยโศกให้หมดไปและเป็นการขอขมาแม่คงคา

ทั้งนี้ ที่สนามบินเชียงใหม่ มีนักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ที่เดินทางมาเที่ยวงานประเพณียี่เป็งของ จ.เชียงใหม่ โดยท่าอากาศยานเชียงใหม่ ได้เสริมกำลังเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวก โดยเฉพาะด้านการจราจร รวมทั้งตกแต่งภายในอาคารผู้โดยสารด้วยโคมแขวนประดับไฟอย่างสวยงาม ต้อนรับผู้มาเยือน อย่างไรก็ตาม ขอความร่วมมือผู้โดยสารที่จะเข้าไปในอาคาร และผู้โดยสารขาออก เตรียมตัวให้พร้อมก่อนผ่านจุดตรวจค้นเพื่อความรวดเร็วและลดปริมาณแถวคอย

วันเดียวกัน ที่ จ.อุทัยธานี บรรยากาศช่วงเทศกาลลอยกระทง ตามสถานที่ต่างๆ มีการจัดงาน ทั้งวัด โรงเรียน และสถานที่ราชการ ได้เตรียมสถานที่กันอย่างคึกคัก โดยกิจกรรมเรียกน้ำย่อยมีมาตั้งแต่ช่วงเช้าของวันนี้ (22 พ.ย.61) มีการแข่งขันเรือแจวชาวบ้าน หรือเรือยาว 5 ฝีพาย สร้างสีสันความสนุกสนานเรียกรอยยิ้มและเสียงเชียร์ให้กับผู้ที่เข้าร่วมงาน แต่ลีลาการพากษ์ไม่ธรรมดาเลยทีเดียว และช่วงค่ำจะมีการประกวดนางนพมาศให้ผู้ที่มาร่วมลอยกระทงได้ชมและเชียร์กันด้วย

ส่วน จ.กาฬสินธุ์ มีการจัดงานลอยกระทงส่งเสริมอัตลักษณ์ไทยก้าวไกลสู่สากล ตามฮีต 12 คอง 14  โดยใช้สนามโรงเรียนเป็นสระน้ำจำลองสำหรับลอยกระทง สร้างสีสันและความสนุกสนานให้กับผู้ร่วมงานเป็นอย่างมาก โดยนางกรรณิกา กองฉลาด นายกเหล่ากาชาด จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ประเพณีลอยกระทง เป็นหนึ่งในฮีต 12 คอง 14 ของชาวไทย ซึ่งเป็นถือเป็นประเพณีอันดีงามและมีการสืบสานมายาวนาน เพื่อเป็นการขอขมาพระแม่คงคาหรือแหล่งน้ำ ที่มีความสำคัญต่อการดำเนินชีวิตและการประกอบอาชีพ โดยการนำวัสดุจากธรรมชาติ มาประดิษฐ์เป็นกระทง ประดับด้วยดอกไม้ ธูป เทียน และตั้งจิตอธิษฐาน ก่อนทำการปล่อยในแหล่งน้ำหรือตามสายน้ำตามประเพณี ทั้งนี้มีความเชื่อว่าเป็นการขอขมา และปลดปล่อยความทุกข์ความโศกไปกับสายน้ำ เพื่อให้เกิดความเป็นสิริมงคลสืบไป

ลงใต้ไปที่ จ.ยะลา ที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านวังใหม่ สอนการประดิษฐ์กระทงจากวัสดุธรรมชาติ ให้นักเรียน และผู้ปกครองทำกิจกรรมร่วมกัน เพื่อเป็นการสร้างความสัมพันธ์ และเป็นการปลูกฝังให้เด็กนักเรียนได้เห็นถึงประเพณีอันดีงามของไทย โดนทำกระทงจากวัสดุธรรมชาติ ที่สืบสานกันมาตั้งแต่โบราณ อาทิ ต้นกล้วย ใบตอง ใบเตย ดอกไม้สดที่หาได้ตามบ้าน

และที่ขาดไม่ได้ คือ จ.สุโขทัย เพราะทุกปีสุโขทัยจะจัดงานลอยกระทงแบบยิ่งใหญ่ โดยนายไมตรี  ไตรติลานันท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ พ่อค้า ประชาชน และนักท่องเที่ยว ได้ร่วมกันทำบุญตักบาตรรับในช่วงเช้าเพื่อรับความสิริมงคล ด้วยการถวายข้าวสารอาหารแห้ง แด่พระภิกษุสงฆ์ จำนวน 199 รูป ซึ่งเป็นหนึ่งในกิจกรรมหลักของงานประเพณีลอยกระทง “เผาเทียน เล่นไฟ” จ.สุโขทัย ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 41 กำหนดจัดงานระหว่าง วันที่ 16-25 พ.ย.61 รวม 10 วัน 10 คืน ณ บริเวณอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย เป็นการสืบสานวัฒนธรรมประเพณีไทย รวมทั้งยังสื่อถึงความสุขของชาวสุโขทัยอย่างแท้จริงอีกด้วย

สำหรับ ที่เทศบาลเมืองบุรีรัมย์ เริ่มด้วยการจัดงานลอยกระทงอย่างยิ่งใหญ่ เพื่ออนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีไทย เน้นนำวัสดุจากธรรมชาติประดิษฐ์กระทงที่ย่อยสลายง่าย ซึ่งในงานมีการประกวดกระทงใหญ่ ขบวนแห่นางนพมาศ อีกทั้ง ยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดให้เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ โดยให้ชุมชนมีส่วนร่วมเพื่อเป็นการปลูกจิตสำนึกในการอนุรักษ์ประเพณีวัฒนธรรมไทยโบราณได้สืบทอดไปสู่ลูกหลาน

 ในส่วนของมาตรการความปลอดภัยหน่วยงานในจังหวัดต่างๆ ได้วางมาตรการไว้อย่างเข้มงวด เช่น ที่สถานีขนส่งผู้โดยสาร จ.อุตรดิตถ์ นายภูสิทธิ์ อนันทวัฒน์  ขนส่งจังหวัดอุตรดิตถ์ พร้อมด้วยคณะ ตรวจความพร้อมด้านตัวรถ ผู้ขับรถ ตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ ตรวจสอบการลงเวลาในสมุดผู้ประจำรถ และ ติดตั้งอุปกรณ์ส่วนควบ เพื่อความปลอดภัยและต้องอยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน เพื่ออำนวยความสะดวก และ ปลอดภัยรองรับการเดินทางของประชาชนช่วงเทศกาลลอยกระทง ระหว่าง วันที่ 21 - 23 พ.ย.นี้