"ปั่นไปไม่ทิ้งกัน No One Left Behind ปี 2" วันที่ 4 เริ่มปล่อยตัวจากสวนศรีเมือง จังหวัดระยอง เวลา 08.30 น. โดยมีนายสุรศักดิ์ เจริญศิริโชติ ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง นางดารารัตน์ แก้วสลับสี พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดระยอง นายมานะ ภูนิธิ ผู้อำนวยการศูนย์การศึกษาพิเศษประจำจังหวัดระยอง พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการต่างๆ ตัวแทนภาคเอกชน และประชาชน เข้าร่วมพิธีปล่อยขบวนนักปั่นผู้พิการทางสายตาและนักปั่นจิตอาสากว่า 70 ชีวิต เดินทางต่อไปยังจังหวัดจันทบุรี ภายใต้ภารกิจระดมทุนสานฝัน "ศูนย์ฝึกอาชีพคนพิการอาเซียน" อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่
พิธีปล่อยตัวในช่วงเช้าเป็นไปอย่างคึกคัก มีผู้เข้าร่วมงานอย่างเนืองแน่นเป็นพิเศษกว่า 300 คนทั้งประชาชนที่มาออกกำลังกายที่สวนศรีเมือง กลุ่มผู้สูงอายุ กลุ่มผู้พิการในพื้นที่ ตลอดจนเหล่าบรรดาชมรมนักปั่นจักรยานในจังหวัดระยอง ต่างให้ความสนใจซื้อเสื้อยืดที่ระลึกโครงการปั่นไปไม่ทิ้งกัน ปี 2 จนบรรยากาศเต็มไปด้วยกองทัพนักปั่นในชุดเสื้อสีส้มสดใส ด้านคณะนักปั่นตาบอดและนักปั่นจิตอาสายังใจสู้ บางคนยืดเส้นยืดสายบริหารร่างกาย บางคนเติมพลังด้วยอาหารว่าง เช่น ขนมปัง กล้วยน้ำว้า แตงโม มะม่วง กาแฟ เตรียมพร้อมเดินทางต่อไปยังจุดหมายที่จังหวัดจันทบุรี
ขณะเดียวกันได้รับมอบเงินบริจาคจากน้ำใจชาวเมืองระยองเป็นเงินกว่า 206,000 บาท (สองแสนหกพันบาท) โดยมีนายสุรศักดิ์ เจริญศิริโชติ ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง เป็นตัวแทนส่งมอบเงินจำนวนดังกล่าว เพื่อสนับสนุนการก่อสร้างศูนย์ฝึกอาชีพคนพิการอาเซียน อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ให้แล้วเสร็จ ซึ่งจะเป็นต้นแบบศูนย์ฝึกอาชีพคนพิการอย่างครบวงจรในภูมิภาคอาเซียน เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต สร้างอาชีพที่ยั่งยืนให้กับผู้พิการ
นายวารินทร์ ดุษฎีวงษ์กำจร รองนายกเทศมนตรีเมืองระยอง กล่าวว่า โครงการปั่นไปไม่ทิ้งกัน No One Left Behind ปี 2 จะสร้างแรงบันดาลใจในการต่อสู้ชีวิตให้แก่ผู้คนในสังคม
"แนวคิดการปั่นจักรยานเป็นระยะทาง 1,500 กิโลเมตร เพื่อรณรงค์โครงการปั่นไปไม่ทิ้งกัน ระดมทุนสร้างศูนย์ฝึกอาชีพคนพิการอาเซียน นอกจากจะทำให้ประชาชนหันมาสนใจออกกำลังกายและเล่นกีฬาแล้ว ยังแสดงให้เห็นความเป็นนักสู้ของเหล่าคณะนักปั่นจักรยานตาบอด แม้พวกเขาจะมีร่างกายไม่สมบูรณ์ แต่พวกเขามีหัวใจที่แข็งแกร่ง มีความสามารถเป็นเลิศในด้านอื่นๆ ไม่แพ้คนปกติ" นายวารินทร์กล่าว
สำหรับเส้นทางการปั่นจักรยานของวันที่สี่ เริ่มเคลื่อนขบวนจากสวนศรีเมือง จังหวัดระยอง โดยใช้ถนนสุขุมวิท แวะพักจุดแรกที่หน่วยบริการประชาชนทางหลวงสวนสน ก่อนจอดพักรับประทานอาหารกลางวันที่เทศบาลตำบลทุ่งควายกิน อำเภอแกลง จังหวัดระยอง ซึ่งได้มีการจัดพิธีส่งมอบการดูแลคณะนักปั่นโครงการปั่นไปไม่ทิ้งกัน โดยได้ว่าที่ร้อยตรีพิรุณ เหมะรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง และนายบุญช่วย น้อยสันเทียะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี เป็นประธานร่วมกัน เพื่อคอยอำนวยความสะดวกแก่คณะนักปั่นจนถึงจุดหมาย
จากนั้นปั่นต่อไปยังจุดที่สาม ปั๊มน้ำมันเชลล์นายายอาม และจุดที่สี่ ปั๊มน้ำมัน ปตท.สงวนสินเอ็นเนอร์ยี่ อำเภอท่าใหม่ จังหวัดระยอง ก่อนมุ่งหน้าสู่ศูนย์การศึกษาพิเศษจันทบุรี จังหวัดจันทบุรี รวมระยะทางทั้งสิ้น 118 กิโลเมตร โดยคาดว่าจะถึงจุดหมายในเวลา 17.30 น.
บรรยากาศการปั่นในวันนี้เต็มไปด้วยอุปสรรค เนื่องจากเป็นเนินยาวหลายช่วง บวกกระแสลมแรง และอากาศร้อนจัด ส่งผลให้นักปั่นหลายคนมีสีหน้าเหน็ดเหนื่อย ท่าทางอ่อนล้า แต่ก็ยังกัดฟันสู้มุ่งหน้าไปยังจุดหมายได้อย่างน่าชื่นชม
ขณะเดียวกัน ทีมนักปั่นพุ่มจำนวน 30 คัน ยังคงแยกไประดมเงินบริจาคตามจุดต่างๆในจังหวัดระยอง เช่น ตลาดวัดลุ่ม ตลาดแม่แดง ตลาดตะพง ตลาดบ้านเพ เป็นต้น โดยมีพี่น้องประชาชนเข้ามาให้กำลังใจกันอย่างอบอุ่น โดยยอดเงินบริจาคจากช่องทางต่างๆที่ได้รับทั้งสิ้นในขณะนี้ อยู่ที่ประมาณ 3.5 ล้านบาท (สามล้านห้าแสนบาท)
สำหรับเส้นทางปั่นจักรยานในวันพรุ่งนี้ซึ่งเป็นวันที่ 5 (13 ก.พ.62) จะเริ่มต้นที่ศาลากลางจังหวัดจันทบุรี โดยมีจุดหมายที่จังหวัดตราด ซึ่งเป็นเส้นทางที่มีทัศนียภาพสวยงาม ฟ้าใส ทะเลสวย แต่มีอุปสรรคคือเนินเขาสูงชันท้าทายตลอดเส้นทาง ระยะทางทั้งสิ้น 105 กิโลเมตร
โครงการปั่นไปไม่ทิ้งกัน No One Left Behind ปี 2 ถือเป็นครั้งที่สองของประเทศไทย ที่ผู้พิการตาบอดจำนวน 20 ชีวิต ร่วมกับนักปั่นจิตอาสาปั่นนำอีก 20 ชีวิต จะรวมพลังสามัคคีปั่นจักรยานเป็นระยะทางรวมกว่า 1,500 กิโลเมตร 14 วัน 15 จังหวัด ระหว่างวันเสาร์ที่ 9 กุมภาพันธ์ถึงวันศุกร์ที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562 โดยเริ่มต้นจากกรุงเทพมหานคร ผ่านจังหวัดสมุทรปราการ จังหวัดชลบุรี จังหวัดระยอง จังหวัดจันทบุรี จังหวัดตราด จังหวัดสระแก้ว จังหวัดปราจีนบุรี จังหวัดนครราชสีมา จังหวัดลพบุรี จังหวัดสระบุรี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จังหวัดปทุมธานี จังหวัดสุพรรณบุรี และจังหวัดนครปฐม เพื่อหาทุนสนับสนุนการก่อสร้าง ศูนย์ฝึกอาชีพคนพิการอาเซียน ที่อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ และศูนย์ฝึกอาชีพคนพิการอาเซียน ที่อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม ภายใต้ความมุ่งหวังที่จะสร้างงานสร้างอาชีพให้ผู้พิการอย่างยั่งยืน และยังเป็นการสานต่องานที่ “พ่อ” ทำ ด้วยการเปลี่ยน “ภาระ” ให้กลายเป็นอีกหนึ่ง “พลัง” ในการพัฒนาและสร้างสรรค์สังคม
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี