พระนักพัฒนา อำเภอศีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์ สร้างอนุสาวรีย์ควายเผือก ใหญ่ที่สุดในโลก สะท้อนวิถีชีวิตความผูกพันระหว่างคนกับควาย
22 ก.พ.62 ที่หน้าทางเข้าริมธารธรรมสถาน บ้านสมบูรณ์ ตำบลกุดหวาย อำเภอศีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์ ได้มีผู้สร้างอนุสาวรีย์ควายเผือก ใหญ่ที่สุดในโลก อยู่อย่างโดดเด่นเป็นสง่า ใครมีโอกาสได้ผ่านไปเห็นก็ต้องสะดุดตาและแวะเข้าไปดูและมีความอยากรู้ถึงที่มาที่ไปของการปั้นรูปปั้นควายเผือกที่มีขนาดใหญ่มากๆ ซึ่งตอนนี้กำลังได้รับความสนใจจากคนที่ได้พบเห็น
พระอาจารย์คำรณ ฐิตเมธี พระนักพัฒนาแห่งริมธารธรรมสถาน สถานปฏิบัติธรรมสากล ตำบลกุดหวาย อำเภอศีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่า ตนเป็นคนริมน้ำอ่างลำพอกตั้งแต่กำเนิด อยู่ในพื้นที่แห่งนี้มาห้าสิบกว่าปีได้สัมผัสกับวิถีชีวิตของคนกับควายมาตั้งแต่เด็กๆ จึงมีแนวคิดในการทำรูปปั้นควายเผือกที่ใหญ่ที่สุดในโลกอยู่หน้าทางเข้าริมธารธรรมสถาน ซึ่งเป็นทางที่ไล่ควายลงน้ำ และรอรับควายกลับบ้าน ซึ่งเป็นรูปปั้นที่มีความโดดเด่นเป็นสง่า ใครผ่านไปผ่านมาก็ต้องสะดุดตาและแวะไปดูไปถ่ายรูป
นอกจากเป็นรูปปั้นควายเผือกที่สวยงามแล้วส่วนใต้ท้องควายก็ถูกออกแบบให้เป็นที่นั่งพัก หลบแดดหลบฝน มีเก้าอี้ให้นั่งและมีมุมหนังสือที่เป็นข้อมูลของควายน้ำ และหนังสืออื่นๆ ให้ผู้ที่สนใจได้เข้ามาศึกษา เพราะอยากจะแสดงสัญลักษณ์ของวิถีชุมชนคนกับควายที่มีมาช้านาน และต้องการกระตุ้นเตือนให้คนในชุมชนได้เห็นถึงความสำคัญและเห็นคุณค่าของควาย
"ที่สำคัญสัญลักษณ์ควายเผือกก็จะช่วยกระตุ้นความทรงจำและย้ำเตือนว่า ในวัยเด็กคุณพ่อได้มอบหมายให้ ตนเองเลี้ยงควายเผือก 1 ตัว ลักษณะเหมือนรูปปั้นที่ได้ออกแบบมา ตนเองมีความผูกพันกับควายเผือกตัวนี้มาก จึงได้ออกแบบรูปปั้นควายเผือกนี้ขึ้นมาให้ เป็นสัญลักษณ์ของชุมชนด้วย" พระอาจารย์คำรณ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับวิถีชีวิตของคนกับควายในชุมชนริมอ่างลำพอก มีความผูกพันกันมาช้านาน ความผูกพันตั้งแต่อดีตจนกระทั่งปัจจุบันก็ยังมีอยู่ ถึงแม้ว่าวิถีชีวิตของคนกับควายจะเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ที่เคยใช้ควายไถนา ใช้ควายเทียมเกวียนเพื่อเป็นพาหนะในการเดินทางไปยังที่ต่างๆ หรือขนผลิตผลทางการเกษตร แต่ปัจจุบันวิถีนี้ได้หายไปจากชุมชน เนื่องจากปัจจัยหลายๆอย่าง เปลี่ยนจากเลี้ยงเพื่อใช้แรงงานมาเป็นการเลี้ยงควายเพื่อขยายพันธุ์และเพื่อการค้า ทำให้แทบทุกหลังคาเรือนก็ยังคงเลี้ยงควายอยู่แทบจะทุกหลังคาเรือน มีตั้งแต่หลังคาเรือนละ 5 ตัว - 20 ตัว รวม 3 หมู่บ้าน คือบ้านสมบูรณ์ บ้านตึลและบ้านสะดีย์ มีควายที่เลี้ยงในอ่างลำพอกเป็นพันตัว ถนนทุกเส้นที่ควายผ่าน ก็จะมีขี้ควายตลอดทั้งเส้น
ในทุกเช้าเจ้าของควายจะปล่อยควายออกจากคอก และไล่ไปลงอ่างลำพอก เพื่อให้ควายไปกินอาหาร ซึ่งในอ่างลำพอกมีหญ้าหลายชนิดที่อุดมสมบูรณ์มาก และตรงกลางอ่างลำพอกจะมีเกาะกลางน้ำขนาดใหญ่มีพื้นที่เกือบร้อยไร่ เป็นที่อยู่อาศัยและพักพิงของสัตว์นานาชนิดทั้งควาย นกเป็ดน้ำ นกปากห่าง ปู กบ เขียดและสัตว์อื่นๆ ที่ไปอาศัยอยู่ด้วยกันที่เกาะกลางน้ำด้วยความเกื้อกูลกัน เมื่อกินหญ้าอิ่มได้เวลากลับบ้าน ฝูงควายก็พากันกลับบ้าน ตรงตามเวลาที่เคยกลับทุกวัน เจ้าของก็มารอรับที่ทางลงอ่างลำพอก เป็นประจำทุกวัน เพื่อไล่ควายกลับไปเข้าคอกที่บ้าน
ส่วนในช่วงกลางวันหลังจากนำควายไปปล่อยลงน้ำแล้วเจ้าของควายก็สามารถทำงานอื่นๆ ได้ เพื่อนอเวลาควายกลับบ้านในช่วงเย็น บางคนก็ไปรับจ้างทำงานอื่นนอกหมู่บ้าน บางคนก็ทำอาชีพประมงหาปลา หากุ้งฝอยในอ่างลำพอก เพื่อสร้างรายได้ให้กับครอบครัวได้ทุกวัน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี