“น้ำคือชีวิต” มนุษย์นั้นในประโยชน์จากทรัพยากรน้ำทั้ง ทางตรง การอุปโภค - บริโภค รวมถึงกิจการต่างๆ ไม่ว่าเกษตรกรรมหรืออุตสาหกรรม และทางอ้อม เมื่อมีน้ำก็มีพืชและสัตว์น้ำให้สามารถนำมาทำเป็นอาหารได้ การตั้งถิ่นฐานของมนุษย์ตั้งแต่โบราณจึงมักอยู่ใกล้แหล่งน้ำโดยเฉพาะน้ำจืด และการบริหารจัดการให้มีน้ำใช้อย่างเพียงพอแม้ในหน้าแล้ง-ลดผลกระทบจากน้ำท่วมและเก็บน้ำสำรองไว้ในฤดูน้ำหลากก็เป็นเรื่องสำคัญ
เมื่อเร็วๆ นี้ ทีมงาน “สกู๊ปแนวหน้า” มีโอกาสติดตามคณะของ มูลนิธิปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราชดำริ เดินทางไปยัง จ.อุดรธานี เพื่อเยี่ยมชมโครงการอันเนื่องใน
พระราชดำริ อาทิ “บ้านห้วยหมากหล่ำ” หมู่ที่ 6 ต.ทมนางาม อ.โนนสะอาด พื้นที่เป็นภูเขาสูงชัน มีที่ราบแคบๆ บริเวณเชิงเขาและที่ราบสลับลูกเนิน พื้นที่หมู่บ้านบางส่วนอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าทม - ป่าข่า โดยมีร่องน้ำไหลมาจากเขาสวนกวาง คือร่องน้ำ “ซำตมขาว” ที่ไหลผ่านบริเวณหมู่บ้าน แต่ปริมาณน้ำในลำห้วยก็ไม่เพียงพอสำหรับอุปโภค บริโภค และการเกษตร
นายอภิชาต ชุมนุมมณี ผู้อำนวยการโครงการชลประทานอุดรธานี เล่าว่า ปัญหาขาดแคลนน้ำสำหรับอุปโภคและบริโภคเริ่มทวีความรุนแรงมากขึ้น เนื่องจากสภาพป่าเสื่อมโทรม ฝนตกไม่ตรงฤดูกาล ประกอบกับพื้นที่บริเวณนี้อยู่ในจุดที่มีฝนตกน้อย ปริมาณฝนเฉลี่ยของพื้นที่น้อยกว่าค่าเฉลี่ยของจังหวัด อีกทั้งยังขาดพื้นที่รองรับน้ำ ชาวบ้านจึงต้องเผชิญกับสภาวะแห้งแล้ง อาศัยเพียงบ่อน้ำเล็กๆ จากท้ายหมู่บ้าน ทำให้จำเป็นต้องซื้อน้ำใช้ ถังละ 140 บาทต่อถัง 1,000 ลิตร ซึ่งไม่เพียงพอต่อการใช้
กระทั่งต่อมา นายชาย ช่วยนา ชาวบ้านในพื้นที่ ได้ทำหนังสือถึงสำนักราชเลขาธิการให้นำความกราบบังคมทูลพระกรุณาขอพระราชทานโครงการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำซำตมขาวพร้อมระบบส่งนำ บริเวณบ้านห้วยหมากหล่ำ เพื่อช่วยเหลือชาวบ้านให้มีแหล่งน้ำสำหรับอุปโภค บริโภค และทำการเกษตร กระทั่งในวันที่ 27 มี.ค. 2560 สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร “ในหลวงรัชกาลที่ 10” ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ รับ “โครงการอ่างเก็บน้ำซำตมขาวพร้อมระบบส่งน้ำบ้านห้วยหมากหล่ำ” ไว้เป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ
“โครงการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำซำตมขาว พร้อมระบบส่งน้ำ มีพื้นที่รับน้ำฝน 2.12 ตร.กม. ความจุอ่างที่ระดับกักเก็บ 205,100 ลบ.ม. ความสูงทำนบดิน 15 เมตร ความยาวทำนบดิน 187 เมตร หลังทำนบดินกว้าง 6 เมตร ระบบส่งน้ำความยาว 2,250 เมตร จุดจ่ายน้ำ 9 จุด สามารถกักเก็บน้ำ และส่งน้ำเพื่อการอุปโภค บริโภค ทำการเกษตร และเลี้ยงสัตว์ ให้กับชาวบ้าน 50 ครัวเรือน โดยมีพื้นที่ได้รับประโยชน์ 200 ไร่ ก่อสร้างแล้วเสร็จเมื่อวันที่ 30 ก.ย. 2561” ผอ.โครงการชลประทานอุดรธานี กล่าว
ขณะที่ นายเภา ยาท้าว ผู้ใหญ่บ้านห้วยหมากหล่ำ หมู่ที่ 6 กล่าวว่า พอชาวบ้านทราบว่าในหลวงรัชกาลที่ 10 ทรงมีพระราชดำริให้สร้างอ่างเก็บน้ำซำตมขาวขึ้นที่หมู่บ้าน ทุกคนซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณเพราะจะได้มีน้ำไว้ใช้ทำการเกษตรและเลี้ยงสัตว์ ซึ่งตอนนี้สภาพความเป็นอยู่ของชาวบ้านเริ่มดีขึ้น มีความช่วยเหลือจากหลายหน่วยงานเข้ามาในหมู่บ้าน มีถนนสัญจรที่สะดวก มีการจัดตั้งโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) ให้การศึกษาเด็กๆ ในหมู่บ้าน และได้รับการจัดสรรพื้นที่แปลงสาธารณะเพื่อทำเกษตรแปลงรวม
“ปัจจุบันชาวบ้านรวมตัวกันจัดตั้งกลุ่มผู้ใช้น้ำเพื่อวางแผนบริหารจัดการน้ำ เบื้องต้นตกลงกันว่าในปีแรกจะยังไม่มีการใช้น้ำในหมู่บ้าน แต่จะเก็บไว้เลี้ยงปลาซึ่งกรมประมงนำมาปล่อยเพื่อขยายพันธุ์เป็นอาหารโปรตีนแก่ชุมชน นอกจากนี้ยังได้รับความร่วมมือจากมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี เข้ามาให้ความรู้แก่ชาวบ้านในเรื่องการจัดตั้งกลุ่มอาชีพ เลี้ยงไก่พื้นบ้าน พืชสวนครัว วัวพื้นบ้าน และปลาดุกกับกบในบ่อซีเมนต์” นายเภา ระบุ
จากบ้านห้วยหมากหล่ำ คณะได้เดินทางต่อไปยัง “บ้านโคกล่าม – บ้านแสงอร่าม” ต.กุดหมากไฟ อ.หนองวัวซอ ที่นี่มีความสำคัญในฐานะโครงการต้นแบบที่สถาบันส่งเสริมและพัฒนากิจกรรมปิดทองหลังพระสืบสานแนวพระราชดำริ จัดทำแผนพัฒนาชนบทเชิงพื้นที่ประยุกต์ตามพระราชดำริ เพื่อแก้ปัญหาความยากจนของชาวบ้าน เป็นแห่งแรกในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
นายเสวต จันทร์หอม ผู้ใหญ่บ้านแสงอร่าม เล่าว่า เมื่อก่อนชาวบ้าน หมู่ 3 บ้านโคกล่าม และหมู่ 11 บ้านแสงอร่าม กว่า 1,400 คน ขาดแคลนน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคและการทำเกษตร แม้จะมีอ่างเก็บน้ำห้วยคล้ายอันเนื่องมาจากพระราชดำริ แต่ไม่สามารถใช้ประโยชน์ได้เต็มที่เนื่องจากไม่มีระบบส่งน้ำ ทำให้ผลผลิตทางการเกษตรไม่ได้ผลดี รายได้เฉลี่ยของครัวเรือนไม่ถึงปีละ 1 แสนบาท มีหนี้สินรวมแล้วมากกว่า 17 ล้านบาท
กระทั่งเมื่อสถาบันส่งเสริมและพัฒนากิจกรรมปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราชดำริ เข้ามาดำเนินการในพื้นที่สองหมู่บ้านนี้ ในปี 2555 บูรณาการองค์ความรู้ด้านการบริหารจัดการน้ำของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อสร้างรูปแบบการพัฒนาแหล่งน้ำให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ทำให้มีปริมาณน้ำเก็บกักรวม 838,000 ลบ.ม. และมีระบบส่งน้ำเข้าสู่แปลงเกษตรระยะทางรวม 6,290 เมตร เพิ่มพื้นที่รับน้ำได้ 1,850 ไร่ ให้สามารถทำการเกษตรได้ตลอดปี
“คนที่เคยทิ้งถิ่นฐานไปทำงานที่อื่นๆ ก็ทยอยพากันกลับมาบ้านเกิด เพราะเห็นช่องทางสร้างรายได้จากผลผลิตที่เพิ่มขึ้น” ทั้งนาข้าวตลอดจนพืชหลังนาและพืชทางเลือกในฤดูแล้งที่มีมาตรฐานรับรองเกษตรปลอดภัย (GAP) และมีตลาดรองรับแน่นอน เช่น ตลาดร่มเขียว โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี โรงพยาบาลหนองวัวซอ โรงเรียนหนองวัวซอพิทยาคม
นายวรากร วงศ์สิทธิ์ หัวหน้างานพื้นที่ โครงการพื้นที่ต้นแบบปิดทองหลังพระ บ้านโคกล่าม - แสงอร่าม จ.อุดรธานี เผยว่า 7 ปี ในการทำงานในพื้นที่ ทำให้ประชาชนในพื้นที่มีรายได้จากการทำเกษตรเพิ่มขึ้นรวม 442.6 ล้านบาท สำหรับในปี 2561 รายได้ภาคการเกษตรอยู่ที่ 9.3 ล้านบาท จากผลผลิตที่สำคัญ เช่น อ้อย ข้าว ข้าวโพดหวาน ไก่ไข่ มันสำปะหลัง การเลี้ยงสุกร และการแปรรูปผลผลิตการเกษตร
“ปัจจุบันในพื้นที่ต้นแบบบ้านโคกล่าม - แสงอร่าม มีการรวมกลุ่มเป็นวิสาหกิจชุมชน 3 กลุ่ม คือ วิสาหกิจชุมชนผลิตภัณฑ์ภูธารา วิสาหกิจการตลาด และวิสาหกิจชุมชนโรงสีข้าว และอีก 5 กลุ่ม/กองทุน คือ กลุ่มปศุสัตว์ กลุ่มปุ๋ย กลุ่มเมล็ดพันธุ์ข้าว กลุ่มศึกษาดูงาน และกลุ่มผู้ใช้น้ำ ที่มีกรรมการและกฎระเบียบที่แน่นอน มีเงินทุนหมุนเวียนในกลุ่ม รวม 1,303,594 บาท” นายวรากร กล่าวในท้ายที่สุด
SCOOP@NAEWNA.COM
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี