โปรดใช้วิจารณญาณ! ชาวบ้านสุรินทร์ผวาหนัก เชื่อ‘กระสือ’อาละวาดสิงร่างคน

ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สุรินทร์ รายงานว่า เมื่อกลางดึกคืนวันที่ 6 เม.ย.62 ที่ผ่านมา หน่วยกู้ชีพ ต.ท่าสว่าง อ.เมือง จ.สุรินทร์ รับแจ้งจากชาวบ้าน ว่ามีผู้ป่วยฉุกเฉิน อาการขั้นโคม่า ทราบชื่อต่อมาภายหลัง คือ นางทม (นามสมมุติ) อายุ 63 ปี ชาวบ้านกาเกาะ หมู่ 8 ต.ท่าสว่าง อ.เมือง มีอาการร่างกายซีดผอมเหลือง พูดจาตลอดเวลาว่าอยากกิน “ก้อยดิบ “ มานานกว่า 3 วัน ชาวบ้านต่างพากันเชื่อว่าถูกกระสือ หรือปอบ เข้าสิงร่าง โดยเคยเชิญหมอผี และพระสงฆ์ มาช่วยทำพิธีไล่ แต่อาการไม่ดีขึ้น ซึ่งก่อนหน้านี้ นางสุเมศธ์ (นามสมมุติ) ชาวบ้านกาเกาะ ซึ่งชาวบ้านเชื่อว่าถูกกระสือเข้าสิง ก็เพิ่งเสียชีวิตได้ยังไม่ถึงเดือน สร้างความหวาดผวาให้กับคนในหมู่บ้านไปทั่ว

เมื่อเดินทางไปถึงบ้านของนางทม เจ้าหน้าที่พบว่ามีอาการป่วยหนัก ชีพจรเต้นเบา หอบ และเหนื่อยมาก หน่วยกู้ชีพ ต.ท่าสว่าง จึงรีบปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนรีบนำส่งโรงพยาบาลศูนย์สุรินทร์

จากการสอบถามชาวบ้าน บอกว่า หมู่บ้านถึงคราวเคราะห์ต้องแก้ไข ต้องให้อาจารย์มาจับ หรือมาสะเดาะเคราะห์ และมาจับกระสือในหมู่บ้าน และต้องมาทำพิธีให้หมู่บ้าน จะได้อยู่เย็นเป็นสุขอีกครั้ง โดยชาวบ้านต่างพากันนำหนามเขี้ยวเล็บเสือ และแหหาปลาขนาดใหญ่มากางปิดประตูหน้าบ้าน และกางนอนแทนมุ้ง ตามความเชื่อโบราณว่าสามารถป้องกันกระสือได้

ด้านนางเขียน (นามสมมุติ) อายุ 89 ปี มารดาของนางทม กล่าวว่า ตนอาศัยอยู่ที่บ้าน ซึ่งอยู่ติดเขตลำน้ำชี เป็นพื้นที่ป่าที่มีขนาดขนาดใหญ่ ลูกสาวเข้าไปในป่าโบราณ พบเห็นศาลเจ้าที่ถูกต้นไม้ใหญ่ล้มทับจนพัง จึงเข้าไปปัดกวาดทำความสะอาดให้ ก่อนที่ลูกสาวจะเก็บผลไม้ รากไม้ภายในป่า พอกลับมาบ้านก็เริ่มป่วยตั้งแต่นั้นมา ไปหาหมอที่โรงพยาบาลบอกว่าไม่มีอะไร ตรวจปัสสาวะ ตรวจเลือด ก็ไม่เห็นมีอะไร บอกว่าสุขภาพดีแล้ว แต่ทำไมป่วยไม่หายสักที ตนเอาหมอชาวบ้าน เป่าและรดน้ำมนต์ให้เป็นเวลา 2 วัน พอเข้าวันที่ 3 ก็พาไปโรงพยาบาลอีกปรากฏว่าป่วยอาการโคม่า โดยไม่ทราบสาเหตุ ตับไตไส้พุงไม่รู้ว่า หายไปไหนหมด