12 มิ.ย.62) เมื่อเวลา 13.00 น.ที่ริเวอร์ พาร์ค ไอคอนสยาม ผู้นำศูนย์กลางการผลิตสินค้าแฟชั่นและไลฟสไตล์ในภูมิภาคอาเซียน กลุ่มคลัสเตอร์แฟชั่นและไลฟ์สไตล์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และภาคเอกชน จัดงานสร้างปรากฏการณ์สุดยิ่งใหญ่แห่งปี "Longest Runway" (ลองเกสต์ รันเวย์) แฟชั่นรันเวย์ 8.9 กิโลเมตร ยาวที่สุดในประเทศไทย ภายใต้ธีม "คันทรี อิมเมจ" เรื่องราวความสำเร็จ ความภาคภูมิใจของคนไทยในรูปแบบไทยสู่สากล พร้อมส่งเสริมและพัฒนาอุตสาหกรรมด้านแฟชั่นและไลฟ์สไตล์ให้กับผู้ประกอบการไทยใน 9 กลุ่มอุตสาหกรรม ภายใต้คลัสเตอร์แฟชั่นและไลฟ์สไตล์
โดยมีการระดมทัพและนายแบบ นางแบบกว่า 200 ชีวิต ร่วมแฟชั่นรันเวย์ พร้อมเหล่าคนดังมาร่วมงานคับคั่ง อาทิ เกรียงไกร เธียรนุกุล, พิมพ์ใจ ลี้อิสสระนุกุล, อิศเรศ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต, อภิชิต ประสพรัตน์, ณรงค์ฤทธิ์ พานิชชีวะ, ดร.ปิยะนุช มาลากุล ณ อยุธยา, เพชรรัตน์ เอกแสงกุล, บัญชุสา พุทธพรมงคล และ ปรานี คุรุเวฬุกรณ์ ณ ริเวอร์ พาร์ค ไอคอนสยาม
นายสุริยน ศรีอรทัยกุล ประธานคลัสเตอร์แฟชั่น และไลฟ์สไตล์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยและประธานการจัดงานฯ เผยถึงที่มาของแนวคิดการจัดงานครั้งนี้ว่า เราได้ระดมทัพนางแบบและนายแบบกว่า 200 ชีวิตมาร่วมกันสร้างปรากฎการณ์ครั้งสำคัญ โดยแฟชั่นรันเวย์วันนี้เริ่มต้นที่ริเวอร์ พาร์ค ไอคอนสยาม จากนั้นนางแบบ นายแบบเดินทางไปสยามพารากอน ด้วยวิธีโดยสารเรือสำราญเจ้าพระยาครุยส์ กับเรือท่องเที่ยว Hop on Hop off Boat 4U บริษัท เจ้าพระยา ริเวอร์ ไลน์ จำกัด จากท่าเรือไอคอนสยาม เพื่อขึ้นรถไฟฟ้า BTS ไปสยามพารากอน และส่วนหนึ่งโดยสารรถบัสซิตี้ทัวร์ “Hop-On Hop-Off” ของ "สยามฮอป" จาก ICONSIAM ไปสยามพารากอน ซึ่งงานนี้ตั้งใจจะพรีเซนต์แบรนด์ไทย ร่วมสนับสนุนสินค้าไทยให้โกอินเตอร์
นายสุริยน กล่าวต่อว่า ส่วนที่ไปที่มาของงานนี้เป็นนโยบายของทางสภาอุตสาหกรรมและตนได้รับการไว้วางใจจากทั้ง 9 กลุ่มให้เป็นประธานกลุ่มครัสเตอร์ ได้แก่ อุตสาหกรรมรองเท้า เครื่องหนัง สิ่งทอ เครื่องนุ่งห่ม หัตถอุตสาหกรรม เครื่องสำอาง อัญมณี เครื่องมือแพทย์ หัตถกรรมและเครื่องนุ่งห่ม ซึ่งเราต้องการแสดงศักยภาพของคนไทยให้ทั่วโลกได้รู้จัก จึงได้ปรึกษาผู้ใหญ่และท่านก็ให้โอกาสในการจัดงานครั้งนี้ เพราะท่านก็มีนโยบาย Made in Thailand ด้วย จึงประกอบมาเป็นชื่องานในครั้งนี้ด้วย เพื่อเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่และให้คนรุ่นเดิมได้เข้าใจกระเป๋าเงินของประเทศ
"โดยวงการทั้ง 9 อุตสาหกรรมนี้รวมๆ แล้วกว่า 20 เปอร์เซ็นต์ของ GDP ชาติ มีคนงานมากกว่า 4 ล้านคน และการจะสร้าง Target ใหม่นั้นทุกภาคส่วนต้องช่วยกันซัพพอร์ท เพื่อให้ภาคการผลิตนี้อยู่กับประเทศไทยอย่างมั่นคงถาวร และนี่คือสิ่งที่ห้างสรรพสินค้าไทยทำได้ดีเยี่ยม" นายสุริยน กล่าว
นายสุริยน กล่าวต่ออีกว่า จากแผนที่รันเวย์ จะเป็นรูปถุงเงินนั่นหมายถึงรายได้สู่ประเทศ และรูปธนูคือยิงอุตสาหกรรมให้ก้าวไกลไปทั่วโลกให้รู้จักวงการแฟชั่นไทย โดยเราใช้ทุกพื้นที่ทุกการขนส่งเป็นรันเวย์ ไม่ว่าจะเป็นเรือ บีทีเอส และรถ ไปต่อห้างสรรพสินค้าพารากอน ซึ่งธุรกิจบันเทิงบ้านเราก็ไม่แพ้ใครในอาเซียน นี่เป็นการประกาศว่าเราจะผลักดันแฟชั่นไทยไปสู่ระดับสากลต่อไป
ขณะที่ในเรื่องของการท่องเที่ยวนั้น นายสุริยน เผยกับทีมข่าวเฉพาะกิจแนวหน้าออนไลน์ว่า การท่องเที่ยวของไทยเรามีความแข็งแรงอยู่แล้วแต่เราแค่เสริมองค์ประกอบอื่นเข้าไปเพื่อเป็นทางเลือกในการให้นักท่องเที่ยวเลือกซื้อกลับไป ส่วนใหญ่จะซื้อเครื่องนุ่งห่ม รองเท้าหนัง อัญมณี รวมไปถึงเครื่องสำอางของไทย ซึ่งเราชูสินค้าจำพวกนี้เป็นจุดขาย และที่เชิญศิลปินเกาหลีมานั้น เพราะเราต้องการแสดงให้เห็นถึงความเป็นอินเตอร์เนชั่นแนล คือการมีแบรนด์นอก แต่เราต้องไม่ลืมแบรนด์ไทยและห้างสรรพสินค้าต่างๆ ก็ต้องช่วยกันสนับสนุนสินค้าไทยให้อยู่ในห้างไทยด้วย ไม่ใช่จะมีแต่แบรนด์นอกอย่างเดียว ซึ่งอยากจะขอบคุณห้างสรรพสินค้าต่างๆ ที่เล็งเห็นเรื่องดังกล่าว
ด้านนายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวถึงความร่วมมือในการผนึกกำลังของภาครัฐและเอกชนว่า "นับเป็นความร่วมมืออันดีระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน เพราะการจัดงานนเดอะ ลองเกสต์ รันเวย์ เป็นสิ่งสำคัญในการส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นที่ยอมรับในสินค้าแฟชั่นและไลฟสไตล์ และส่งเสริมให้ผู้ประกอบการไทย มีขีดความสามารถ ในการแข่งขัน เพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมและเศรษฐกิจของประเทศ และสร้างกิจกรรมเพื่อจูงใจ ให้เกิดการท่องเที่ยวและช็อปปิ้งสินค้าแบรนด์ไทยอีกด้วย
นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า คลัสเตอร์แฟชั่นและไลฟ์สไตล์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เป็นคลัสเตอร์ที่เน้นการผลิตสินค้าภายใต้แนวคิด Creative Economy เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มของสินค้า รวมถึงการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ สะท้อนให้เห็นถึงวัฒนธรรมไทยและสร้างการรับรู้สินค้าไทยให้เป็นที่รู้จักในระดับสากล โดยในรอบ 2-3 ปีที่ผ่านมา สภาอุตสาหกรรมฯ ได้ขับเคลื่อนนโยบาย Made in Thailand เพื่อส่งเสริมให้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ผลิตภายในประเทศ ซึ่งก็ประสบความสำเร็จสามารถสร้างการรับรู้ทั้งในและต่างประเทศเป็นอย่างมาก
“เรามีนโยบายที่จะผลักดันธุรกิจอุตสาหกรรมโดยเฉพาะ SME ภายใต้ Made in Thailand ออกไป ซึ่งงานนี้ก็เป็นอีกงานหนึ่งที่อยากจัดเพื่อส่งเสริมสินค้าไทยทั้ง อัญมณีและแฟชั่นไลฟ์สไตล์ขึ้นโดยมีครัสเตอร์ฯเป็นผู้จัดงานเพื่อตอบสนองให้คนไทยรู้ว่า สินค้าไทยเป็นสินค้าที่น่าสนใจและเราสามารถแข่งขันกับต่างประเทศได้ไม่ยาก และการที่เราจัดที่ ICONSIAM นั้นเพราะเป็นแหล่งดึงดูดนักท่องเที่ยวสร้างภาพลักษณ์ที่ดีต่อสินค้า เราเล็งเห็นถึงความสำคัญในเรื่องของแฟชั่นและไลฟ์สไตล์เพราะกลุ่ม SME ด้านนี้เติบโตรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของแฟชั่น สิ่งทอ จิลเวอรี่รวมไปถึงหัตถอุตสาหกรรม ซึ่งตรงกับสิ่งที่เราผลักดัน”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี