23 มิ.ย. 2561..วันนี้ควรจะเป็นวันธรรมดาๆ อีกวันหนึ่ง เป็นวันเสาร์ที่ผู้ใหญ่หลายคนได้หยุดงานเช่นเดียวกับเด็กและเยาวชนที่ได้หยุดเรียน กระทั่งในช่วงเย็นของวันดังกล่าว เมื่อเด็กผู้ชาย 12 คนพร้อมกับโค้ชของพวกเขาในนาม “ทีมฟุตบอลหมูป่าอะคาเดมี” เข้าไปพักผ่อนหลังเสร็จสิ้นการฝึกซ้อมฟุตบอล ณ“อุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน” อ.แม่สาย จ.เชียงราย แล้วมีรายงานต่อมาว่าทั้ง 13 ชีวิต “หายสาบสูญ” เข้าไปในถ้ำอย่างเป็นปริศนา
24 มิ.ย. 2561..ทีมสำรวจชุดแรกอันประกอบด้วยหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารม้าที่ 3 (ฉก.ม.3) กองกำลังผาเมือง ตำรวจ สภ.แม่สาย เจ้าหน้าที่อุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน เจ้าหน้าที่สำนักงานพัฒนาพื้นที่อนุรักษ์ที่ 15 และอาสากู้ภัยมูลนิธิสยามรวมใจ (ปู่อินทร์) อ.แม่สาย สมาคมศิริกรณ์เชียงรายบรรเทาสาธารณภัย ที่เข้าไปค้นหายังไม่พบผู้สูญหาย พบเพียงรองเท้าแตะและกระเป๋าเป้วางอยู่เท่านั้น
25 มิ.ย. 2561..หลังคาดการณ์ว่าปฏิบัติการค้นหาครั้งนี้คงไม่ใช่เรื่องง่าย “ผู้เชี่ยวชาญจากทุกสารทิศ” จึงถูกระดมมาเพื่อภารกิจครั้งนี้ ไล่ตั้งแต่ช่วงเช้าตรู่ “หน่วยซีล” หน่วยสงครามพิเศษทางเรือ กองทัพเรือ เดินทางมาถึงพร้อมอุปกรณ์ดำน้ำ แบ่งกำลังเป็น 4 ชุดสลับกันเข้าสำรวจถ้ำ ร่วมกับ เวิร์น อันสเวิร์ธ ชาวอังกฤษผู้เคยมีประสบการณ์เข้าไปสำรวจถ้ำแห่งนี้
“ตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.)” นำเฮลิคอปเตอร์บินสำรวจบริเวณที่เรียกว่า “ผาหมี” เบื้องต้นพบปล่องที่คาดว่าจะลงไปได้จำนวน 2 ปล่อง แต่ยังไม่สามารถส่ง
เจ้าหน้าที่โรยตัวลงไปเพราะมีฝนตก รวมถึง “ทีมนักดำน้ำจากสวีเดน” ที่มาสมทบในคืนวันเดียวกัน “ในวันนี้ปฏิบัติการค้นหา 13 ชีวิตทีมหมูป่าอะคาเดมีเริ่มได้รับความสนใจไปทั่วโลก” สื่อต่างชาติเริ่มนำเสนอข่าว และบางสำนักส่งผู้สื่อข่าวมาเกาะติดสถานการณ์ถึงหน้าถ้ำ
26 มิ.ย. 2561..เพื่อให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานโดยสะดวก ณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย (ในขณะนั้น) ออกคำสั่งกำหนดพื้นที่ควบคุม ห้ามผู้ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปยังบริเวณถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอนโดยเด็ดขาด มีการตั้งจุดคัดกรองสื่อมวลชนและบุคคลใดๆ ที่จะผ่านเข้า - ออก หลังพบมีผู้เข้าไปมุงดูบริเวณหน้าถ้ำเป็นจำนวนมาก ขณะที่ทีมสำรวจโดยเจ้าหน้าที่ป่าไม้ เจ้าหน้าที่อุทยานและตำรวจท่องเที่ยว พบปล่องกว้างประมาณ 80 ซม. 2 ปล่อง ลึกประมาณ 100 เมตร ใกล้บริเวณถ้ำ จึงหย่อนเสบียงอาหารลงไป หวังว่าจะถึงมือทั้ง 13 ชีวิตในถ้ำ
27 มิ.ย. 2561..มีรายงานว่า “ทีมกู้ภัยที่ 1623 มูลนิธิกรมการกู้ภัยแห่งชาติ สปป.ลาว” พร้อมอุปกรณ์ดำน้ำ เข้าร่วมปฏิบัติการช่วยชีวิตทีมหมูป่าอะคาเดมี ขณะที่
“หน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 35 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา” นำรถตักดินเข้าขุดลอกร่องน้ำเพื่อให้น้ำไหลออกจากถ้ำได้เร็วขึ้น 28 มิ.ย. 2561 ในวันนี้“กองกำลังสหรัฐอเมริกาประจำภาคพื้นแปซิฟิก (US PACOM)” ส่งทหารพร้อมผู้เชี่ยวชาญด้านสำรวจถ้ำและดำน้ำมาช่วยเหลืออีกแรง
ขณะที่ในช่วงดึก สุรทิน ชัยชมภู นายกสมาคมน้ำบาดาลไทย กล่าวอย่างดุเดือดว่า “ถ้ำมันมีชีวิตมากกว่าคนหรือ มันถล่มก็ให้มันถล่มมาเลย เด็กจะได้ไม่ต้องเข้าไป ผมพูดถูกไหม ผมก็ไม่รู้จะพูดยังไงแล้ว เครียด เมียผมก็ร้องไห้ บอกว่าถ้าไม่ได้ตัวเด็กอย่ากลับบ้าน” ด้วยความมั่นใจในทีมช่างผู้มีประสบการณ์มานาน เชื่อว่าสามารถเจาะเปิดถ้ำแล้วช่วยทั้ง 13 คนออกมาได้แน่นอน มุมหนึ่งมีผู้ให้กำลังใจในความมุ่งมั่น แต่อีกมุมก็เป็นห่วงว่าถ้ารีบเจาะแล้วเกิดความผิดพลาดอาจเป็นอันตรายต่อทั้ง 13 ชีวิตในถ้ำได้เช่นกัน
29 มิ.ย. 2561..กลายเป็น “ปฏิบัติการระดับโลก” ไปเป็นที่เรียบร้อย เมื่อ “ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการกู้ภัยจากสาธารณรัฐประชาชนจีน” เดินทางถึงประเทศไทยเพื่อ
มุ่งหน้าไปสมทบที่ถ้ำหลวง เท่ากับว่า 2 ชาติมหาอำนาจล้วนให้ความสำคัญกับภารกิจครั้งนี้ 30 มิ.ย. 2561..ช่วงเวลาสามทุ่มเศษ มีรายงานว่า หน่วยซีลสามารถดำน้ำเข้าไปจนถึงบริเวณโถงสามแยกภายในถ้ำหลวง ห่างจากจุดที่ทีมหมูป่าเรียกว่า “พัทยาบีช” เพียง 500 เมตร
1 ก.ค. 2561..ภายนอกถ้ำมีการเร่งขุดเจาะเพื่อเปิดทางระบายน้ำออกให้ได้มากที่สุด ในวันนี้นอกจากสมาคมน้ำบาดาลไทยแล้วยังมี “ทีมท่อซิ่งนครปฐม” มาช่วยขุดเจาะอีกแรง 2 ก.ค. 2561..ในที่สุด “ข่าวดีแรก” ก็มาถึง เมื่อ จอห์น โวลันเธน - ริชาร์ด สแตนตัน 2 นักดำน้ำชาวอังกฤษ พบเด็กๆ และโค้ชทีมหมูป่าอะคาเดมี ห่างจากจุดพัทยาบีชไป 400 เมตร ทำให้พ่อแม่ผู้ปกครองของเด็กๆ ตลอดจนชาวไทยและชาวโลกโล่งอกไปเปลาะหนึ่ง
3 ก.ค. 2561..แม้จะพบทั้ง 13 ชีวิต แต่ “ปัญหาใหญ่คือจะช่วยออกมาได้อย่างไร” จากปัจจัยเสี่ยงทั้งความเป็นเด็กที่อาจตื่นกลัวเพราะไม่เคยดำน้ำมาก่อนอีกทั้งสภาพถ้ำที่แคบ ผู้เชี่ยวชาญบางรายแนะนำให้รอจนน้ำลดหรือหาทางอื่นที่ไม่ใช่การพาดำน้ำออกมา แต่บางรายก็แย้งว่าไม่สามารถทำแบบนั้นได้เพราะเข้าสู่ฤดูฝนเต็มตัวแล้ว น้ำพร้อมจะไหลเข้าท่วมถ้ำได้ทุกขณะ และหากต้องรอจนสิ้นฤดูฝนก็ไม่รู้ว่าสุขภาพของผู้ประสบภัยจะเป็นอย่างไร
4 ก.ค. 2561..นักฟุตบอลและโค้ชทีมหมูป่าอะคาเดมี ได้รับการตรวจสุขภาพเบื้องต้นพบว่ายังแข็งแรงดี โดยมี “หมอภาคย์” พ.ท.นพ.ภาคย์ โลหารชุน และหน่วยซีลกลุ่มหนึ่งอาสาอยู่เป็นเพื่อนภายในถ้ำจนกว่าการกู้ภัยจะเริ่มขึ้น 5 ก.ค. 2561.. เหตุการณ์ที่ไม่มีใครอยากให้เกิดก็เกิดขึ้น เมื่อ “จ่าแซม” จ.อ.สมาน กุนัน อดีตหน่วยซีลที่ลาออกไปเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัยท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ หมดสติและเสียชีวิตขณะลำเลียงถังออกซิเจนภายในถ้ำ
6 ก.ค. 2561..ดูเหมือนความหวังที่จะใช้วิธีโรยตัวผ่านปล่องโพรงลงไปช่วยทั้ง 13 ชีวิตจะเลือนราง เมื่อ “ทีมเก็บรังนกจาก จ.ตรัง” ระบุว่าปล่องต่างๆ ที่ค้นพบเมื่อโรยตัวลงไปล้วนแต่เป็นทางตัน 7 ก.ค. 2561..เกิดเหตุไม่คาดคิดอีกครั้งเมื่อรถรับ - ส่งทีมกู้ภัยตกเหวที่บริเวณผาหมี มีผู้บาดเจ็บ 4 ราย ในวันเดียวกันมีข่าวว่า อีลอน มัสก์ มหาเศรษฐีเจ้าพ่อเทคโนโลยีชาวอเมริกัน จะเดินทางมาไทยเพื่อนำอุปกรณ์ที่ทีมงานของตนคิดค้นขึ้นเข้าร่วมปฏิบัติการช่วยเหลือทีมหมูป่าอะคาเดมี 8 ก.ค. 2561..มีสัญญาณบอกเหตุว่าอาจมีการลำเลียงทั้ง 13 ชีวิตออกมาจากถ้ำหลวง
โดยตั้งแต่ช่วงเช้าของวันนี้ ที่ทำการสื่อมวลชนถูกย้ายไปยัง องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) โป่งผา ห่างจากถ้ำหลวง 5 กม. และมีการปิดถนนรอบรพ.เชียงรายประชานุเคราะห์ ต่อมาในช่วงค่ำ สมาชิก 4 คนแรกของทีมหมูป่าอะคาเดมี ถูกนำตัวออกมาได้อย่างปลอดภัย 9 ก.ค. 2561..การช่วยเหลือยังคงดำเนินต่อไปโดยลำเลียงออกมาได้อีก 4 คน และ 10 ก.ค. 2561..ในที่สุดทุกอย่างก็เดินทางมาถึงบทสรุป เมื่อสมาชิก 5 คนสุดท้ายของทีมหมูป่าอะคาเดมี ถูกลำเลียงออกจากถ้ำในเวลาประมาณหกโมงเย็นเศษๆ ก่อนส่งต่อไปยัง รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์
ปิดฉาก “18 วันปฏิบัติการกู้ภัยระทึกโลก” ที่จะถูกบอกเล่าเป็นประวัติศาสตร์ไปอีกนานแสนนาน!!!
SCOOP@NAEWNA.COM
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี