เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โลกโซเชียล เฟสบุ๊ก "Chutima W. Pettit" ได้โพสต์คลิปกล้องหน้ารถนาทีรถกระบะเลี้ยวซ้ายเข้าซอยอย่างกะทันหัน และเบียดชนรถจักรยานยนต์ของนักเรียนหญิง เสียหลักล้มร่างนักเรียนหญิงทั้ง 3 ราย กระเด็นตกจากรถจักรยานยนต์ได้รับบาดเจ็บ พร้อมระบุ "ดูความใจดำของคน ขับรถชนเด็ก แล้วไม่ลงมาขอโทษหรือลงมาดูเด็กเลย ชั่วมากกกกก"
ตรวจสอบคลิปมีความยาว 42 วินาที เผยนาทีรถกระบะ ยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นไทรทัน สีดำ ไม่ทราบป้ายทะเบียน ขับมาด้วยความเร็วบนถนน ก่อนจะเลี้ยวซ้ายเข้าซอยอย่างกะทันหัน โดยที่ไม่เปิดไฟเลี้ยว และเบียดชนรถจักรายนต์ของนักเรียนหญิงที่ขับชิดซ้ายริมถนน ทำให้รถจักรยานยนต์นักเรียนหญิงเสียหลักล้ม ร่างคนขับและคนซ้อนท้ายทั้ง 3 คน กระเด็นตกจากรถได้รับบาดเจ็บ ส่วนรถกระบะคันก่อเหตุไม่ได้จอดหรือลงมาสอบถามอาการบาดเจ็บของนักเรียน แต่ขับเข้าไปในซอยดังกล่าวเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
หลังคลิปดังกล่าวถูกเผยแพร่ ชาวเน็ตเข้าชมและแชร์ พร้อมแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก ส่วนใหญ่ตำหนิคนขับรถกระบะคันก่อเหตุที่ไม่มีน้ำใจที่จะหยุดรถลงไปสอบถามอาการบาดเจ็บของนักเรียนหญิงทั้ง 3 ราย นอกจากนี้ ยังมีความคิดเห็นชื่นชมเจ้าของคลิปที่ไม่นิ่งดูดาย ได้จอดรถลงไปให้ความช่วยเหลือนักเรียนหญิงทั้ง 3 ราย
ผู้สื่อข่าวสอบถามเจ้าของเฟสบุ๊ก "Chutima W. Pettit" ทราบชื่อคือ นางชุติมา วรรณวงศ์เพททิท เล่าว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 16.30 น.วันนี้ ตนขับรถยนต์ส่วนตัวออกจากบ้านพัก เพื่อทำธุระในตัวเมืองนครศรีธรรมราช โดยตนขับเลนซ้ายมาตลอด เมื่อถึงที่เกิดเหตุมีรถกระบะยี่ห้อมิตซูบิชิ สีดำ มองป้ายทะเบียนไม่ชัด เนื่องจากป้ายทะเบียนมีสภาพเก่า ประกอบกับมีควันดำโขมงออกจากท่อไอเสีย คนขับเปลี่ยนจากเลนขวาเข้าเลนซ้าย และเลี้ยวซ้ายเข้าซอยอย่างกะทันหัน ตัดหน้ารถจักรยานยนต์นักเรียนหญิงที่ขับชิดเลนซ้ายสุดของถนน จนตัวถังส่วนท้ายกระบะเบียดและชนรถจักรยานยนต์ของนักเรียนหญิงเสียหลักล้มหน้าคะมำ ร่างนักเรียนหญิงทั้ง 3 ราย กระเด็นตกจากรถจักรยานยนต์ได้รับบาดเจ็บ หลังเกิดเหตุตนจอดรถยนต์ ลงไปช่วยนักเรียนหญิงทั้ง 3 แต่รถกระบะคันก่อเหตุไม่ได้จอดรถ แต่กลับขับเข้าไปในซอยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ตนสอบถามนักเรียนหญิงทั้ง 3 ราย ว่าบาดเจ็บตรงไหนบ้าง บาดเจ็บมากไหม ไปโรงพยาบาลหรือเปล่า และให้แจ้งตำรวจหรือไม่ แต่นักเรียนหญิงทั้ง 3 ราย ยืนยันว่าไม่ได้บาดเจ็บอะไรมากนัก ส่วนรถจักรยานยนต์ไม่ได้รับความเสียหาย ตนจึงช่วยยกรถจักรยานยนต์ จากนั้นนักเรียนหญิงทั้ง 3 ราย ขี่รถจักรยายนต์มุ่งหน้ากลับบ้านพักย่านมหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ตรวจสอบทราบว่านักเรียนหญิงทั้ง 3 ราย ที่ได้รับบาดเจ็บ เป็นพี่น้องกัน และเรียนอยู่ที่โรงเรียนมุสลิมสัตติธรรมมูลนิธิ ต.นาเคียน อ.เมือง ซึ่งอยู่ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 50 เมตร ทราบชื่อ น.ส.ญาญัง อีแต อายุ 17 ปี กำลังเรียนอยู่ ม.4 เป็นคนขับ ส่วนนักเรียนหญิงอีก 2 คน เป็นน้องสาวเรียนอยู่ชั้น ป.1 และ ป.4 โรงเรียนเดียวกัน โดยแม่ชื่อ นางธิดาพร หวันเต๊ะ อายุ 37 ปี อาชีพแม่ค้าขายอาหารตามสั่ง ย่านหน้ามหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช
ทั้งนี้ นางธิดาพร ได้ให้ข้อมูลว่า น.ส.ญาญัง ทำหน้าที่ขับรถจักรยานยนต์พาน้องสาวทั้ง 2 คน ไปเรียนหนังสือที่โรงเรียนมุสลิมสันติธรรมมูลนิธิ เนื่องจากตนเพิ่งคลอดลูกคนที่ 4 จึงต้องดูแลลูก และขายอาหารตามสั่ง
ก่อนเกิดเหตุน้องญาญัง ลูกสาว เล่าว่า หลังเลิกเรียนตามปกติตนขับรถจักรยานยนต์ มีน้องสาวทั้ง 2 คน ซ้อนท้าย โดยตนขับรถออกจากโรงเรียนขึ้นบนถนนและชิดซ้ายสุดช่องทางรถจักรยานยนต์ มุ่งหน้าสี่แยกเบญจมฯ เพื่อเลี้ยวขวากลับบ้านพักไปทางมหาวิทยาลัยราชภัฎนครศรีธรรมราช เมื่อถึงที่เกิดเหตุ อยู่ห่างจากโรงเรียนประมาณ 50 เมตร มีรถกระบะคันดังกล่าว เลี้ยวซ้ายเข้าในซอยอย่างกะทันหัน ตัดหน้าเบียดรถจักรยานยนต์ตน เสียหลักล้มลงในพงหญ้าริมถนน ตนและน้องสาว ร่างกระเด็นตกจากรถได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ส่วนรถกระบะคันดังกล่าวไม่ได้จอดลงมาสอบถาม แต่กลับขับรถเข้าไปในซอยดังกล่าวเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น หลังเกิดเหตุตนไม่ได้พาลูกสาวไปแจ้งความ เพราะลูกสาวทั้ง 3 คน ไม่ได้บาดเจ็บมากนัก มีเพียงลูกสาวคนโตที่มีอาการปวดแขนเล็กน้อย ซึ่งตนได้ให้ลูกสาวทานยาแก้ปวดแล้ว
อย่างไรก็ตาม ตนเห็นคลิปแล้วรู้สึกตกใจ และเสียใจอย่างมากที่คนขับรถกระบะคันดังกล่าวไม่มีน้ำใจที่จะจอดรถลงมาดูหรือสอบถามลูกสาวทั้ง 3 คน ว่าบาดเจ็บมากไหม หรือแม้แต่คำขอโทษก็ไม่มีเช่นกัน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี