เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย อภิปรายประเด็นที่กล่าวหา ว่า โกงเลือกตั้งมาเป็นรัฐบาล จนต้องถึงคิว พล.ต.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ลุกขึ้นมาอภิปรายด้วยท่าทีที่ดุดัน พร้อมประกาศ “ตัดพี่ตัดน้อง” กับ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ จนกลายกระแสแค่เพียงข้ามคืน...

โดยทั้งคู่ถือเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องกันสมัยที่เป็นนักเรียนเตรียมทหาร พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เป็นนักเรียนเตรียมทหารรุ่นที่ 8 เมื่อ พ.ศ.2508 ก่อนศึกษาต่อที่ โรงเรียนนายร้อยตำรวจ รุ่นที่ 24 พ.ศ. 2510 ส่วน พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนักเรียนเตรียมทหารรุ่นที่ 12 และศึกษาต่อนักเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้ารุ่นที่  23

เมื่อคำว่า “ตัดพี่ตัดน้อง” ดังกระหึ่มขึ้นมาเฟซบุ๊ก “หมอเวร” ได้อธิบายความหมายของคำว่า “ตัดพี่ตัดน้อง” ทางวิทยาศาสตร์ ว่ามีความเป็นมาอย่างไรบ้าง โดยข้อความระบุว่า “อันดับแรก การที่คนเราจะตัดพี่ตัดน้องได้ ทั้งคู่ต้องมีตัวติดกันเท่านั้นนะ ถึงจะสามารถทำได้ ถ้าตัวไม่ติดกันอันนี้ทางวิทยาศาสตร์ไม่สามารถตัดพี่ตัดน้องได้เลย

ในอดีตเคยมีแฝดสยามคู่หนึ่งที่ดังไกลไปทั่วโลกและทุกคนรู้จักกันดี นั่นคือฝาแฝดรี-จันทั้งคู่มีการใช้อวัยวะบางอย่างในร่างกายร่วมกัน เช่น หัวใจ ตับ หรือทางเดินอาหาร ซึ่งเหตุการณ์นี้สามารถพบเจอได้ทั้งคนและสัตว์นะ แต่ว่าโอกาสที่ตัวติดกันนั้นเกิดขึ้นได้น้อยมากๆ

ส่วนใหญ่ส่วนที่ติดกันมักจะเป็นช่วงอกถึงท้อง แต่ก็มีบางคู่พี่น้องที่หลังติดกัน หรือเคสหายากหน่อยก็จะมีส่วนหัวหรือใบหน้าติดกันด้วย

ตามประวัติแล้ว รี-จันทั้งคู่เป็นรุ่นพี่รุ่นน้องกัน รีเป็นพี่รุ่นที่ 8 ส่วนจันเป็นน้องรุ่นที่ 12 ทั้งคู่มีชื่อเล่นที่ชื่อตู่เหมือนกัน แต่งงานวันเดียวกัน แต่กลับมีนิสัยต่างกัน รีเอาดีทางตำรวจ ส่วนจันไปเป็นทหาร ซึ่งทั้งสองก็ไปได้สวยในเส้นทางอาชีพของตนเอง เพียงแต่ว่าจันจะมีเซ๊นต์การแต่งเพลงโดดเด่นมากเป็นพิเศษ

แม้ทั้งคู่อาจมีการกระทบกระทั้งกันบ้าง แต่ในประวัติไม่เคยมีการบ่งชี้ว่าทั้งสองคนจะเอาปืนยิงกัน ผลงานร่วมกันล่าสุดของรี-จัน คือ จันคนน้องขอเชิญรีคนพี่ออกจากห้องประชุม เป็นศึกภายในจนถึงขั้นทั้งคู่ประกาศว่าขอตัดพี่ตัดน้องกัน

ส่วนการจะตัดพี่ตัดน้องนั้น ในอดีตมีมานานกว่าพันปีแล้ว และการผ่าตัดในสมัยก่อนมักจะจบด้วยการเสียชีวิตทั้งคู่ เพราะส่วนใหญ่ถ้าตัวติดกัน คนนึงตาย อีกคนเลือดเชื่อมกันก็จะตายตามไปในไม่กี่ชั่วโมงอยู่ดี น้อยครั้งก็จะเหลือรอดได้แค่คนเดียว

สุดท้ายนี้ แม้ว่าการตัดพี่ตัดน้องในสายวิทยาศาสตร์จะสามารถทำได้ แต่ในสายสัมพันธุ์ทางความรักของทั้งสองที่มีให้กัน หมอว่ายังไงก็ตัดกันไม่ขาดแน่นอน ไม่เชื่อรอดูอภิปรายวันนี้ได้เลย”

ทั้งนี้ ในปัจจุบันมักจะใช้คำนี้สำหรับคนที่มีปัญหากับพี่น้อง ถึงขั้นไม่พูดกันหรือมองหน้ากันไม่ติด เรื่องของพี่น้องนั้นซับซ้อนมากกว่าเรื่องของคนรักมากนัก หากเป็นคนรัก ก็เป็นคนนอก เวลารักกันก็ถือว่าเป็นคนใน เวลาเลิกกันก็กลับไปเป็นคนนอกเหมือนเดิม แต่พี่น้อง ไม่ว่าจะรักกันหรือตีกัน อย่างไรก็เป็นคนในของเราเสมอเพราะมีสายเลือดเดียวกัน การตัดพี่ตัดน้องจึงกลายเป็นเรื่องใหญ่

สาเหตุที่พี่น้องส่วนใหญ่ผิดใจกัน มักเป็นเรื่องของความไม่เข้าใจกัน บางทีสาเหตุที่ทะเลาะกัน เมื่อมองย้อนหลังอาจจะรู้สึกว่าเป็นเรื่องไม่ใหญ่โตอะไร แต่ทำไมตอนที่เกิดเรื่องมักจะรู้สึกใหญ่มากจนต้องตัดขาดกัน เพราะความเข้าใจผิดกันไม่ได้เกิดครั้งเดียว แต่มักจะเกิดแบบสะสมและมักไม่มีใครรู้ตัวเพราะส่วนใหญ่จะไม่ใส่ใจ ให้อภัยได้เพราะเป็นพี่น้องกัน แต่พอเจอเข้าหลายๆ ครั้ง ความไม่พอใจที่ถูกมองข้ามจึงสะสมเก็บไว้ในใจรอวันระเบิดออกมา...