วันอาทิตย์ ที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ข่าว Like สาระ
หลงเสน่ห์เมืองเหนือ ท่องเที่ยวพื้นบ้าน แอ่ว'น่าน'ม่วนใจ๋

หลงเสน่ห์เมืองเหนือ ท่องเที่ยวพื้นบ้าน แอ่ว'น่าน'ม่วนใจ๋

วันศุกร์ ที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2562, 08.00 น.
Tag : น่าน Amazingไทยเท่ IAMLOCAL
  •  

ในช่วงฤดูที่อากาศกำลังสดชื่นชุ่มช่ำไปด้วยสายฝนแบบนี้ ไม่มีสถานที่ใดจะเหมาะกับการท่องเที่ยวมากไปกว่าการไปตะลุยชมของดี กินของอร่อย ลองใช้ชีวิตกลมกลืนไปกับวิถีชาวบ้านทางภาคเหนือ โดยหมุดหมายในการเดินทางของแนวหน้าพาเที่ยวครั้งนี้ เราไปกันที่จังหวัดน่าน เมืองที่เรียบง่ายแต่แสนมีเสน่ห์ซ่อนมุมสวยงามไว้มากมายยิ่งเที่ยวยิ่งตกหลุมรัก

สถานที่แรกที่เราขอพาทุกคนย้อนเวลาเกือบศตวรรษไปศึกษาเส้นแหล่งอารยะธรรมเครื่องปั้นดินเผากันที่ บ้านจ่ามนัส สถานที่ที่ขุดพบเตาเผาโบราณเมืองน่าน บ้านบ่อสวกพร้อมถ้วยชามรามไหที่มีลวดลายเฉพาะตัวอย่างลายปั้นแปะ โดยที่นี่ดูแลโดย จ่าสิบตรีมนัส ติคำ ซึ่งเปิดให้เป็นแหล่งเรียนรู้ศึกษาทางประวัติศาสตร์เปิดให้ชมฟรีโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย


สำหรับแหล่งเตาบ้านบ่อสวกนี้ ศาสตราจารย์สายันต์ ไพรชาญจิตร์ จากคณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้เข้ามาทำการสำรวจเมื่อปี พ.ศ.2527 และ พ.ศ.2542 พบว่าชุมชนบ้านบ่อสวกพัฒนาและชุมชนใกล้เคียงที่กระจายตัวประมาณ 2,000 ไร่ เป็นแหล่งผลิตเครื่องถ้วยชามขนาดใหญ่อีกแห่งหนึ่งในสมัยโบราณ เตาเผาภาชนะร่วมสมัยกับแหล่งเตาสังคโลกในเขตอำเภอศรีสัชนาลัย ทำส่งขายเชียงแสน โดยเตาที่พบที่บ้านจ่ามนัสนั้นมีทั้งหมด 7 เตา บนพื้นที่ 5 ไร่ ได้ทำการขุดค้นขึ้นมาเพื่อศึกษาเพียง 4 เตา จากการทดสอบอายุด้วยค่าคาร์บอน พบว่าเตาถูกใช้ในช่วง พ.ศ.1823-1858 หรือมีอายุราว 750 ปี ลักษณะเตามีความลาดเอียงและมีปล่องระบายอากาศอยู่ด้านบน ภายในเป็นโพรงใหญ่เพื่อให้คนเข้าไปข้างในได้ เตาหันหน้าเข้าหาแม่น้ำเพื่อสะดวกในการขนส่ง

เมื่อเดินมาอีกด้านเราจะพบกับบ้านไม้ทรงไทยหลังโต ซึ่งเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์เฮือนบ้านสวกแสนชื่น เรือนไม้พื้นถิ่นใต้ถุนสูงเรือนเปิดโล่ง ซึ่งจ่ามนัสได้สร้างขึ้นมาเพื่อไว้จัดแสดงเครื่องภาชนะที่ได้จากการขุดค้นที่แหล่งเตา รวมถึงเครื่องใช้โบราณ เครื่องมือการเกษตรหาชมยากต่างๆ ด้วย

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้สิ่งเตาโบราณและเครื่องชามเหล่านี้จะเคยรุ่งเรืองในอดีต แต่ด้วยกาลเวลาได้ทำให้สิ่งของทรงคุณค่าเหล่านี้เลือนหายไป เหลือเพียงเศษชิ้นความทรงจำในอดีตเพียงไม่กี่ชิ้น และคงเป็นที่น่าเสียดายหากปล่อยให้ศิลปะภูมิปัญญาเหล่ากลายเป็นเพียงถ้อยคำที่บันทึกในตำรา ชาวบ้านบ่อสวกจึงได้จัดตั้งกลุ่มขึ้นมาร่วมกันศึกษาเรียนรู้ต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ พร้อมถ่ายทอดให้กับคนรุ่นใหม่ในชุมชนและนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบศิลปะการปั้นนี้ด้วย

ขยับจากเครื่องปั้นดินเผาไปชมภูมิปัญญาไทยที่น่าทึ่งอีกหนึ่งแขนงนั่นก็คือ ผ้าทอ เรื่องราวความงดงามที่ถ่ายทอดออกมาผ่านผืนผ้าด้วยความปราณีต โดยเราไปกันที่ศูนย์เรียนรู้ภูมิปัญญาหม่อนไหม ผ้าทอโบราณเมืองน่าน ที่นี่เป็นทั้งแหล่งเรียนรู้ แหล่งผลิต คัดสรรกันตั้งแต่ชนิดไหม สีย้อม ไปจนถึงลวดลายแต่ละผืน ซึ่งหลังจากกระบวนการผลิตเสร็จสิ้นแล้ว ผ้าผืนที่พร้อมจำหน่ายจะมีการขึ้นทะเบียนแปะคิวอาร์โค้ดของกรมหม่นไหมไว้ เพื่อให้ผู้ซื้อแสกนดูข้อมูลของผ้า อาทิ ชนิดผ้า ชนิดไหม สีย้อม ลวดลาย ไปจนถึงคนทอผืนนั้นๆ ด้วย ซึ่งแต่ละผืนล้วนแต่แสดงถึงเอกลักษณ์วิถีความเป็นเมืองน่านอย่างมากที่สุด

เรื่องราวของผ้าไทยที่จังหวัดน่านยังไม่หมดเพียงเท่านี้ เราเดินทางไปกันต่อที่ บ้านเก็ต อำเภอปัว ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งของ กลุ่มผ้าทอไทลื้อ นำโดย ป้าหลอม ศดานันท์ เนตรทิพย์ ซึ่งเกิดในครอบครัวไทลื้อผู้มีความสนเรื่องการทอผ้าตั้งแต่ยังเด็ก เมื่อไปถึงเราพบกับแม่ๆ กำลังนั่งอีดฝ้าย ก่งฝ้าย ปั่นฝ้าย กันอย่างขมักเขม่น ทำให้ได้เห็นกระบวนการอย่างละเอียดกว่าจะมาเป็นเป็นผ้าฝ้ายแต่ละผืน โดยป้าหลอมได้หยิบผ้าผืนสำเร็จที่มีลวดลายอันเป็นเอกลักษณ์ของที่นี่มาให้เราได้ชมพร้อมเล่าว่า ซิ่นของชาวไทลื้อมีลักษณะคล้ายกับซิ่นกลุ่มชาติพันธุ์อื่นๆ ทำจากผ้าฝ้าย มีริ้วลายขวางลำตัว 2 ตะเข็บ มีลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์ คือ ผ้าทอลายสิบสองปันนา เป็นผ้าทอเทคนิคยกดอก เล่าเรื่องการอพยพที่อยู่อาศัยของชาวไทลื้อสิบสองปันนาที่ลงมาอาศัยอยู่บริเวณจังหวัดน่าน ระหว่างเดินทางเกิดเป็นจินตนาการบนผืนผ้า เช่น ลายเถาวัลย์ที่พบเจอระหว่างทาง ลายผักกูดบ่งบอกการหากิน ลายเขี้ยวหมา สัตว์ที่พบเจอระหว่างทาง ลายดวงจันทร์ ที่คอยให้แสงสว่างตอนกลางคืน ลายตะแหลว เครื่องรางที่คอยคุ้มภัยจากสิ่งที่มองไม่เห็น เมื่อได้ฟังเรื่องราวความเป็นมาของลวดลายแต่ละผืนแล้วทำให้ความสวยงามของผ้าเพิ่มมากขึ้น อีกทั้งยังต้องขอชื่นชมในฝีมือการทอของแม่ๆ ที่บรรจงทอแต่ละผืนออกมาได้อย่างละเอียดสวยมีคุณค่าน่าจับจองสุดๆ

ดูไปดูมาผู้เขียนเกิดคันมืออยากลองลงมือทำกับเขาบ้าง แม่ๆ ก็ใจดีอนุญาตให้เราได้ลองละเลงกันอย่างเต็มที่ แต่เดี๋ยวก่อนสิ่งที่กำลังไปละเลงกันนั้น ไม่ใช่การทอผ้าแต่อย่างใด แต่เป็นการละเลงผ้าขาวให้การเป็นมัดย้อมผืนเดียวในโลก ด้วยสีครามจากธรรมชาติและสีส้มอิฐจากเมล็ดโกโก้ งานนี้ได้ละเลงกันอย่างหนำใจ ได้ของฝากกลับไปกันถ้วนหน้า

กิจกรรมในชุมชนของเรายังไม่หมดเพียงเท่านี้ เราไปสนุกกับกิจกรรม DIYเครื่องรางกันต่อที่ กลุ่มจักสานบ้านต้าม แหล่งรวมเครื่องจักรสานต่างๆ ที่คนในชุมชนช่วยกันสานขึ้นมาเป็นผลิตภัณฑ์จำหน่าย ความน่าสนใจอยู่ที่มีการสอนนักท่องเที่ยวให้ลองสัมผัสกับภูมิปัญญาชาวบ้าน ได้จับตอก ได้ลองสานงานชิ้นเล็กๆ ด้วยตนเอง ซึ่งทำให้เราได้เห็นวิธีการกว่าจะมาเป็นงานชิ้นหนึ่งได้เป็นอย่างดี โดยผู้เขียนได้ลองสาน ม้าของเล่นกับเครื่องรางประจำภูมิภาคอย่าง ตะแหลว ซึ่งมีความเชื่อว่าสามารถป้องกันสิ่งไม่ดีที่มองไม่เห็นได้ ถึงแม้ฝีมือจะไม่เนี้ยบเท่ากับแม่ๆ แต่ความสนุกและภูมิใจขอบอกว่าทะลุเกินร้อย

ใช้พลังงานหมดไปกับสารพัดกิจกรรมทั้งวันถึงเวลาพักผ่อน มาเที่ยวสัมผัสวิถีชาวบ้านแบบนี้สถานที่นอนเราก็ขอเลือกให้ได้ใกล้ชิดชุมชนมากที่โดยคืนนี้เราเข้าพักกันที่ โฮมสเตย์บ้านบ่อสวก ที่พักที่แสนใกล้ชิดธรรมชาติ บริเวณบ้านโอบล้อมไปด้วยทุ่งนา มองไกลออกไปก็เห็นทิวเขาทอดตัวยาวและผืนฟ้ากว้างสุดตา ยิ่งถ้าใครมาช่วงที่นากำลังงามใกล้เก็บเกี่ยวถือคุ้มสุดๆ เพราะนอกจากจะได้พักผ่อนแล้วยังได้โลเคชั่นถ่ายภาพแสนสวยไปในตัวแบบที่เมืองกรุงให้ไม่ได้

หลังจากนอนเติมพลังกันเต็มอิ่มแล้ว เช้านี้ขอเอาฤกษ์เอาชัยด้วยการทำบุญกันก่อน เหล่าคณะต่างหิ้วตะกร้าข้าวสารอาหารแห้งไปถวายพระกันที่ วัดบ่อสวก รับพรเป็นบทสวดแบบทางเหนือ อิ่มบุญกันถ้วนหน้า พร้อมตะลุยชมของดีแต่ละชุมชนกันต่อแล้ว สถานที่แรกของวันนี้อยู่ไม่ไกลจากโฮมสเตย์ โดยเราไปกันที่สวนเกษตรอุ้มบุญ ชุมชนบ่อสวก มาทำลูกประคบสมุนไพรเอาใจสายสุขภาพ ใครที่กำลังมองหาตัวช่วยคลายปวดเมื่อย ลูกประคบสวนสมุนไพรนี้ตอบโจทย์สุดๆ เพราะในลูกประคบอุดมไปด้วยสมุนไพรกินได้ 6 อย่าง ได้แก่ ใบเตย ผิวมะกรูด ใบเป้า ใบมะขาม ตะไคร้ และไพร ซึ่งมีสรรพคุณช่วยหลายด้านเมื่อมาอยู่รวมกันในลูกประคบจะช่วยเรื่องการปวดเมื่อย การไหลเวียนโลหิต ช่วย

ขับสารพิษร่างกาย แถมยังช่วยบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่ง (และหากใครที่กลัวว่าจะมีสารเคมีติดมากับสมุนไพรเหล่านี้ ขอบอกเลยว่าปลอดภัยหายห่วง เพราะที่สวนสมุนไพรนี้ปลูกกันแบบอินทรีย์ดูแลกันอย่างธรรมชาติทุกกรรมวิธี)

โดยลูกประคบ 1 ลูก สามารถนำไปอบแล้วนำมาประคบส่วนที่ปวดเมื่อยได้ 30 ครั้ง วิธีการประคบให้ให้ประคบส่วนที่ผิวหนาก่อนแล้วค่อยไล่ขึ้นไปยังส่วนที่ปวด ตัวอย่างเช่น ปวดไหล่ให้ประคบไล่ตั้งแต่ฝ่ามือขึ้นไปเรื่อยๆจนถึงแขนและหัวไหล่ หากปวดหัวให้ประคบตั้งแต่ไหล่ไล่ไปตามเส้นเลือด หลังจากใช้ประคบจนครบจำนวนครั้งแล้วอย่าเพิ่งทิ้ง เพราะสมุนไพรในลูกประคบยังมีประโยชน์อยู่สามารถนำมาอบตัวได้อีก 1 ครั้ง ไม่เพียงเท่านี้หลังใช้อบตัวเสร็จให้เอาสมุนไพรไปผสมกับน้ำอุ่นใช้แช่เท้าเพื่อฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้อีก 15 นาที เรียกได้ว่า 1 ลูก สามารถใช้ได้คุ้มเกินคุ้ม!!

อีกหนึ่งที่สร้างความประทับในการเยือนน่านครั้งนี้ คืออาหารรสเลิศที่ผ่านการปรุงรสสุดฝีมือโดยเหล่าแม่ๆ และ Local chef มีให้เลือกทานตั้งแต่อาหารพื้นบ้านเมืองเหนือ ไปจนถึงอาหารภาคกลางที่คุ้นลิ้น ซึ่งทุกเมนูผ่านการคัดเลือกวัตถุดิบสดใหม่มีประโยชน์มาทำเป็นจานอร่อยในแต่ละมื้อ ขณะที่การตกแต่งขันโตก ตกแต่งจาน แก้ว ช้อน แรกเห็นผู้เขียนถึงกับร้องว้าว เพราะเชฟได้นำเอาวัสดุธรรมชาติมาประดิษฐ์ประดอยจนสวยสะดุดตา ช่วยเสริมความน่าทานของอาหารมากขึ้นไปอีก

กินคาวไม่กินหวาน...พาลจะอารมณ์เสีย เราเลยจะพาทุกคนไปละเมียดละไมไปกับโกโก้รสละมุนที่ cocoa valley resort อ.ปัว ที่พักและคาเฟ่ของเหล่าช็อกโกแลตเลิฟเวอร์ แต่ก่อนที่เราจะได้ชิมของดี ผู้เขียนขอพาทุกคนไปตะลุยแหล่งปลูกโกโก้ของ cocoa valley กันก่อน โดยแรกเริ่มเจ้าของอยากย้ายกลับมาทำธุรกิจที่บ้านเกิด จึงคิดว่าจะทำสิ่งใดดีและสิ่งนั้นต้องตนต้องชอบ สามารถอยู่กับมันได้อย่างไม่เบื่อ จึงได้คำตอบเป็นโกโก้จากนั้นก็เริ่มศึกษาลงมือทำใช้เวลาอยู่หลายปีก่อนจะเปิดตัว เริ่มแรกปลูกบนพื้นที่ของรีสอร์ท 10 กว่าไร่ก่อน ต่อมาชาวบ้านเริ่มสนใจทางโกโก้วัลเล่ก็จะให้พันธุ์และบอกวิธีการปลูก แต่ทั้งหมดนี้อยู่ภายใต้ข้อตกลงเดียวกันคือ ต้องดูแลด้วยวิธีอินทรีย์ ปราศจากสารเคมี

สำหรับผลผลิตที่ได้นั้นทางรีสอร์ทจะรับซื้อจากชาวบ้านในราคาที่สูงกว่าท้องตลาด จากนั้นก็นำมาเข้าสู่กระบวนการแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ ตั้งแต่ นำเมล็ดมาทำขนมช็อกโกแลตซึ่งมีให้เลือกหลายระดับความเข้มเพื่อให้ถูกปากลูกค้า เครื่องดื่มจำหน่ายในคาเฟ่ นำไขมาทำสบู่ แฮนครีม นอกจากนี้ที่นี่ยังสามารถนำเนื้อของโกโก้ที่ปกติจะมีกลิ่นแรงไม่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ใดได้ มาแปรรูปให้เป็นเบเกอร์รี่รสดีกลิ่นหอมได้เป็นเจ้าแรกในโลกด้วย พูดมาถึงขนาดนี้แล้วก็ได้เวลาแห่งลิ้มรสของอร่อยกัน ซึ่งผู้เขียนจัดหนักทั้งขนมและน้ำ เมนูไหนว่าเด็ดว่าดีไม่มีพลาด งานนี้ทั้งฟินอิ่มส่งท้ายทริปแสนชิลนี้ได้อย่างน่าประทับใจ

การท่องเที่ยวจังหวัดน่านในคราวนี้เรียกได้ว่าเที่ยวคุ้มสะใจในราคาสบายกระเป๋า หากใครที่กำลังมองหาสถานที่ที่เที่ยวและยังไม่ช้ำ น่านเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่เราอยากให้คุณมาสัมผัส เชื่อว่าผู้อ่านจะต้องติดใจจนอยากกลับมาเที่ยวซ้ำอีก

 

ลายปั้นแปะ เอกลักษณ์ของเครื่องปั้นดินเผาเมืองน่าน
ลายปั้นแปะ เอกลักษณ์ของเครื่องปั้นดินเผาเมืองน่าน
เตาเผาโบราณบ้านจ่ามนัส ชุมชนบ่อสวก
เตาเผาโบราณบ้านจ่ามนัส ชุมชนบ่อสวก
จ่าสิบตรีมนัส  ติคำ กำลังอธิบายเล่าเรื่องราวของเตาโบราณ
จ่าสิบตรีมนัส ติคำ กำลังอธิบายเล่าเรื่องราวของเตาโบราณ
พิพิธภัณฑ์เฮือนบ้านสวกแสนชื่น
พิพิธภัณฑ์เฮือนบ้านสวกแสนชื่น
ศูนย์การเรียนรู้ภูมิปัญญาหม่อนไหมผ้าทอโบราณ ชุมชนบ่อสวก
ศูนย์การเรียนรู้ภูมิปัญญาหม่อนไหมผ้าทอโบราณ ชุมชนบ่อสวก
เส้นไหมที่ผ่านกรรมวิธีย้อมสีธรรมชาติ
เส้นไหมที่ผ่านกรรมวิธีย้อมสีธรรมชาติ
คิวอาร์โค้ดของกรมหม่นไหม บอกรายละเอียดของผ้าแต่ละผืน
คิวอาร์โค้ดของกรมหม่นไหม บอกรายละเอียดของผ้าแต่ละผืน
ผ้าทอพื้นเมือง บ้านซาวหลวง อีกหนึ่งแหล่งทอผ้าของชุมชน
ผ้าทอพื้นเมือง บ้านซาวหลวง อีกหนึ่งแหล่งทอผ้าของชุมชน
การอีดฝ้าย คือเมล็ดออกจากเนื้อฝ้าย
การอีดฝ้าย คือเมล็ดออกจากเนื้อฝ้าย
ผ้าฝ้ายพื้นเมือง กลุ่มผ้าทอไทลื้อ บ้านเก็ต อำเภอปัว
ผ้าฝ้ายพื้นเมือง กลุ่มผ้าทอไทลื้อ บ้านเก็ต อำเภอปัว
ผ้ามัดย้อมครามแท้
ผ้ามัดย้อมครามแท้
ผ้ามัดย้อมจากโกโก้
ผ้ามัดย้อมจากโกโก้
กลุ่มจักสานบ้านต้าม ชุมชนบ่อสวก
กลุ่มจักสานบ้านต้าม ชุมชนบ่อสวก
แม่ๆกำลังสาธิตวิธีการสานตะแหลว
แม่ๆกำลังสาธิตวิธีการสานตะแหลว
แม่ๆกำลังสาธิตวิธีการสานม้าของเล่น
แม่ๆกำลังสาธิตวิธีการสานม้าของเล่น
แวะเสริมบุญกันที่วัดพระธาตุเขาน้อย
แวะเสริมบุญกันที่วัดพระธาตุเขาน้อย
บรรยากาศบริเวณ โฮมสเตย์บ้านบ่อสวก
บรรยากาศบริเวณ โฮมสเตย์บ้านบ่อสวก
สวนเกษตรอุ้มบุญ ชุมชนบ่อสวก
สวนเกษตรอุ้มบุญ ชุมชนบ่อสวก
ลูกประคบสมุนไพร
ลูกประคบสมุนไพร
วัดบ่อสวก
วัดบ่อสวก
โชว์ฝีมือทำไส้อั่วสมุนไพร สุตรของเชฟชุมชนบ้านบ่อสวก
โชว์ฝีมือทำไส้อั่วสมุนไพร สุตรของเชฟชุมชนบ้านบ่อสวก
ต้นโกโก้
ต้นโกโก้
วิธีคัดโกโก้หลังจากที่นำไปคั่วแล้ว
วิธีคัดโกโก้หลังจากที่นำไปคั่วแล้ว
โกโก้แท้และไขโกโก้
โกโก้แท้และไขโกโก้
สนุกสนานกับการทำช็อกโกแลตบาร์
สนุกสนานกับการทำช็อกโกแลตบาร์
ขนมแสนอร่อย โกโก้ละมุนลิ้นทุกคำ
ขนมแสนอร่อย โกโก้ละมุนลิ้นทุกคำ
ผลิตภัณฑ์จากไขโกโก้
ผลิตภัณฑ์จากไขโกโก้
ที่พักสุดชิล น่านนิรันดร์ รีสอร์ท
ที่พักสุดชิล น่านนิรันดร์ รีสอร์ท

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  

Breaking News

(คลิป) 'ฮุนทองธาร'เสียงอ่อนเสียงหวานกับ'ฮุนเซน'

'อินเดีย'สลดซ้ำ! เฮลิคอปเตอร์ตกในเทือกเขาหิมาลัย ดับ 7 ราย

เปิดภาพ'ทหารเขมร'! แต่งเครื่องแบบเต็มยศ ลั่นพร้อมรับคำสั่ง'ฮุน มาเนต'

'ฉลามจัส-น้องหญิง'พร้อมแชมป์กีฬามหาลัย 6 สมัย ร่วมปฐมนิเทศน์ ต้อนรับนักศึกษาใหม่ มกธ.

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved