วันที่ 11 กันยายน 2562 ที่โรงเรียนบ้านสวนมอนไคร่นุ่นวังหิน ต.ท่าพระ อ.เมือง จ.ขอนแก่น ผู้ปกครองนักเรียนและคณะครูกว่า 100 คนรวมตัวประท้วง ถือป้ายร้องตะโกนขับไล่นายคำพัน มีโพนทอง ผู้อำนวยการโรงเรียนฯพ้นจากตำแหน่งภายใน 24 ชั่วโมงและให้เร่งตรวจสอบการข้อเท็จจริงพฤติกรรมทุจริตเงินงบประมาณในโครงการต่างๆ ของโรงเรียนนับตั้งแต่ที่นายคำพัน มาดำรงตำแหน่งที่โรงเรียนแห่งนี้จนถึงปัจจุบันเป็นเวลานานกว่า 3 ปี
นายวิชาญ ลักษ์โต ครูชำนาญการพิเศษ โรงเรียนบ้านสวนมอนไคร่นุ่นวังหิน ในฐานะตัวแทนครูที่ทนกับพฤติกรรมการบริหารงานไม่โปร่งใสของผู้อำนวยการฯ เปิดเผยถึงปัญหาดังกล่าวว่า คณะครูบางส่วนและผู้ปกครองนักเรียนได้ทำหนังสือร้องเรียนไปยังผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) ขอนแก่น เขต1 แล้วตั้งแต่วันที่ 15 กรกฎาคม 2562 มีงบประมาณหลายโครงการที่ผู้อำนวยการนำงบไปใช้โดยมิชอบ
โดยเฉพาะ 2 โครงการหลักๆ คือ โครงการอาหารกลางวัน สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน งบ 173,500 บาทโอนเงินเข้าบัญชีเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2560 มีกิจกรรมเลี้ยงไก่ไข่จำนวน 100 ตัว ปลูกกล้วย 300 หน่อ จนถึงปัจจุบันยังไม่ปลูก โดยในราวเดือนธันวาคม 2560 นายคำพัน ได้ถอนเงินออกทั้งหมดและเปิดบัญชีใหม่ แต่นำเงินเข้าบัญชีเพียง 123,500 บาท เดือนกรกฏาคม 2560 เริ่มสร้างโรงเรือน ต่อมาวันที่ 9 พฤศจิกายน 2561 ได้นำไก่มาเลี้ยงแบบปล่อยกับพื้นคอก
จากการตรวจสอบพบเป็นไก่ที่มีอายุมากไม่สามารถให้ไข่ได้เป็นไก่ที่ฟาร์มขายเป็นไก่เนื้อแล้ว เนื่องจากให้ไข่ลดลง แต่โรงเรียนกลับซื้อมาเลี้ยงไก่ไม่ออกไข่ให้ใช้เป็นวัตถุดิบทำอาหารกลางวันเลี้ยงเด็กได้เลย ส่วนกล้วย 300 หน่อ ผู้อำนวยการโรงเรียนก็แอบอ้างเอาจำนวนต้นกล้วยเดิมที่มีอยู่ในโรงเรียนรายงานต้นสังกัด
"อยากให้ตรวจสอบการจัดซื้อจัดสร้างเป็นไปตามระเบียบการเงินและพัสดุหรือไม่ และการดำเนินงานตามโครงการถูกต้องหรือไม่ มีคณะกรรมการดำเนินงานตามโครงการหรือไม่ให้สอบถามข้อเท็จจริงจากครู นักเรียนและผู้ปกครองได้ทุกเมื่อ" นายวิชาญกล่าว
ส่วนอีกโครงการหนึ่งที่เชื่อว่ามีการทุจริต คือ เงินปัจจัยพื้นฐานที่นักเรียนอยู่ในเกณฑ์ได้รับหรือเงินทุนการศึกษานักเรียนยากจน ตั้งแต่ประจำปีการศึกษา 2560 จนถึงปีการศึกษาประจำปี 2561 รวมยอด ทั้งหมด 173,000 บาท ทางคณะครูไม่เห็นตัวเงินแม้แต่บาทเดียว ไม่มีเด็กนักเรียนคนใดได้รับเงินทุนตามโครงการนี้เลย ทั้งที่ทางโรงเรียนได้ส่งครูออกสำรวจครอบครัวนักเรียนว่าเด็กคนไหนที่ครอบครัวขัดสนเงินทองสมควรจะได้รับทุนสนับสนุนและมีบัญชีรายชื่อเด็กครบทั้ง 3 หมู่บ้านทั้งบ้านสวนมอน บ้านหนองใคร่นุ่นและบ้านวังหิน
ขณะที่ผู้ปกครองหลายคนให้ข้อมูลว่า โครงการให้ทุนเด็กยากจนมีจริง เพราะเมื่อปี 2560 มีคณะครูนำเอกสารไปให้เซ็นถึงบ้านบอกว่าลงลายมือชื่อเพื่อรับเงินทุน พวกตนก็เซ็นตามที่บอก แต่จนป่านนี้ยังไม่มีเด็กนักเรียนคนไหนได้รับเงินทุนเลย แม้แต่ปี 2561 ก็มีผู้ปกครองหลายคนได้เซ็นเอกสารตัวเดียวกันนี้ แต่ลูกหลานก็ยังไม่ได้รับเงินเช่นกัน
"พวกเราอยากให้ย้ายผู้อำนวยการคนนี้ไปไกลๆภายใน 24 ชั่วโมง เพราะถ้ายังให้นั่งบริหารโรงเรียนต่อไป พวกเราก็จะขอเป็นฝ่ายพาลูกหลานย้ายไปเรียนที่อื่นแทนจะดีกว่า"
ต่อมาเวลา 11.30 น. ดร.ภูมิภัทร เรืองแหล่ ผู้อำนวยการ สพป.ขอนแก่นเขต 1 พร้อมด้วยนายรังสฤษฎิ์ ธนะภูมิชัย รองผู้อำนวยการ สพป.ขอนแก่น เขต 1 นายบุญเรียน จันทรเสนา ผู้อำนวยการกลุ่มกฎหมายและคดี สพป.ขอนแก่น เขต 1 ได้ร่วมมาประชุมชี้แจงกับตัวแทนผู้ปกครองนักเรียน คณะกรรมการสถานศึกษา คณะครู ที่ห้องสมุดของโรงเรียนฯ
ดร.ภูมิภัทร เรืองแหล่ กล่าวชี้แจงว่า ข้อเรียกร้องที่ยื่นเสนอมาทั้งหมด 4 ข้อ คือ 1.ให้ย้ายนายคำพัน ให้พ้นโรงเรียนภายใน 24 ชั่วโมง 2.ให้คณะกรรมการที่ได้รับการ แต่งตั้ง จาก สพป.ขอนแก่นเขต 1 ตรวจสอบให้แล้วเสร็จภายใน 1 สัปดาห์ 3.เมื่อต่อสอบเสร็จแล้ว หากพบว่ามีการกระทำความผิดจริงให้คืนเงินทั้งหมดที่หายไป ให้กับทางโรงเรียนให้ครบ และ 4.แสดงบัญชีรายรับ-รายจ่าย ที่ผอ.ถือไว้ทั้งหมดนำมาแสดงในวันพรุ่งนี้
อย่างไรก็ตาม ข้อสรุปที่ได้จากการหารือร่วมกับทุกฝ่ายในวันนี้ ทางสำนักงานเขตฯจะดำเนินการให้ตัวผู้อำนวยการลากิจ ในระหว่างวันที่ 12-18 กันยายนนี้ เพื่อให้คณะกรรมการที่ได้รับการแต่งตั้งจาก สพป.ขอนแก่น เขต.1 เข้ามาสืบสวนสอบสวน ข้อเท็จจริงให้แล้วเสร็จ หากพบว่ามีความผิดจริง หลังจากนั้นจะดำเนินการตามข้อเสนอต่างๆต่อไป รวมถึงการแจ้งความเอาผิดทั้งทางวินัยและอาญาด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี