จากกรณีที่สุนัข "เจ้าบองบอง" ได้เจอกับป้าน้อย หรือนางน้อย สิทธิสาร อายุ 64 ปี อยู่บ้านเลขที่ 100 หมู่ 3 ต.เมืองบัว อ.เกษตรวิสัย จ.ร้อยเอ็ด เจ้าของเก่า "เจ้าบองบอง" สุนัขที่พลัดพรากจากกันมากว่า 4 ปีที่บริเวณข้างถนน พิกัด สะพานข้ามห้วยรากไถพระราม ต.ขอนแก่น อ.เมือง จ.ร้อยเอ็ด ถนนสายร้อยเอ็ด-วาปีปทุม เส้นทางระหว่างบ้านขอนแก่น ไปบ้านโนนสะอาด แต่เจ้าบอง บอง กลับทำแค่เพียงกระดิกหางทักทายตอบเท่านั้น และเมื่อป้าน้อย เจ้าของเก่าเจ้าบองบอง จะพากลับบ้านเจ้าบองบอง กลับวิ่งหนีไม่ยอมให้จับ 

"ทีมข่าวเฉพาะกิจแนวหน้าออนไลน์" ได้มีโอกาสสัมภาษณ์ นายสัตวแพทย์ (น.สพ.) นนทษิต ชุติญาณวัฒน์ ผู้ช่วยคณบดี ฝ่ายกิจการพิเศษ คณะสัตวแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ถึงกรณีดังกล่าวโดย น.สพ.นนทษิต เปิดเผยว่า จากข้อมูลข่าวที่ได้รับมาคาดว่าสุนัขน่าจะเป็น "สายพันธุ์เทอร์เรียผสม" แต่ไม่ทราบแน่ชัดว่าผสมกับพันธุ์อะไร 

สำหรับลักษณะนิสัยของสุนัขพันธุ์นี้จะขี้เล่น ซุกซนเป็นมิตร ฉลาด และด้วยวิสัยของสุนัขถึงจะไม่ได้เจอกับเจ้าของนานๆ แต่ก็ยังพอรู้และจำได้อยู่บ้าง แต่สัญชาตญาณของสุนัขทุกตัวจะมีความซื่อสัตย์ต่อเจ้าของ เรารู้ได้จากการที่เจอหน้ากันแล้วมีการทักทายไม่แสดงพฤติกรรมก้าวร้าว แต่ที่สุนัข เจ้าบองบอง ไม่กลับบ้านไปกับป้าน้อย หรือเจ้าของเก่านั้นเพราะเขาน่าจะคุ้นเคยกับสภาพที่อยู่ในปัจจุบันมานานตั้ง 4 ปี และไม่รู้ว่าถ้าตัวเองได้กลับไปอยู่ที่เดิมแล้วเขาจะถูกทอดทิ้งอีกหรือไม่ นี่คือสิ่งที่สุนัขคิด

"ดังนั้น ป้าน้อยที่เป็นเจ้าของเก่าเจ้าบองบอง จะต้องสร้างความคุ้นเคยใหม่อีกครั้ง เพื่อสร้างความเชื่อใจแก่สุนัข โดยเริ่มจากให้อาหาร พูดคุยกับเขา แต่แน่นอนว่าเขาจะถอยหนีเราเพราะเขายังระแวงเราไม่เชื่อใจเราอยู่ แต่ด้วยนิสัยสุนัขแล้วจะสร้างความเชื่อใจใหม่ไม่ยาก แต่ถ้าคุณคิดว่าจะไปจับอุ้มมันเลยก็จะทำให้สุนัขจำภาพคุณว่าจะทำร้ายเขา และจะเข้าหาเขายากกว่าเดิม ดังนั้น ป้าน้อย ควรให้เขาได้ตัดสินใจเองว่าเขาอยากจะอยู่ที่ตรงไหน เพราะสุนัขก็มีจิตใจที่จะรู้สึกกลัวได้เหมือนคน" น.สพ.นนทษิต กล่าว

พร้อมกล่าวต่อว่า แต่เหตุการณ์นี้จากที่ทราบจากข่าวนับว่าเป็นเรื่องดีที่เขาจำเจ้าของเก่าได้ เพราะพอป้าน้อยเรียกชื่อเขาก็กระดิกหางรับนั่นคือเขาจำได้ ทั้งที่ผ่านมากว่า 4 ปีก็อาจจะจำกันไม่ได้เท่าไร แต่ด้วยภาพจำของเขาที่คิดว่าถูกทิ้งจากตรงนี้ ถูกตัดขาดจากเจ้าของที่นี่ก็ทำให้สุนัขฝังใจคอยอยู่ที่เดิมเพื่อหวังว่าสักวันจะเจอเจ้าของอีกครั้ง เพียงแต่เขาไม่มั่นใจ ไม่เชื่อใจที่จะกลับไปอยู่กับเจ้าของเดิมอีก เพราะเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาโดดลงรถลงไปหรือเขาพลาดเกิดอุบัติเหตุทำให้ต้องตกลงไปเอง ซึ่งเขาไม่รู้ตัวเลย แต่เขาจะจำภาพสุดท้าย ซึ่งเป็นสถานที่ที่ไม่เจอกับเจ้าของมากกว่า

น.สพ.นนทษิต กล่าวต่อไปว่า การที่คุณเสาวลักษณ์ (นางเสาวลักษณ์ พิณนุเวช อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 36 หมู่ 8 ต.ขอนแก่น อ.เมือง จ.ร้อยเอ็ด) ที่ให้อาหารกับเจ้าบองบอง ทุกวัน ทั้งยังเคยไปรับมาดูแลที่บ้าน แต่สุนัขยังหนีกลับมาอยู่ที่เดิมนั่นเป็นเพราะภาพจำของเขาถูกตัดขาดกับเจ้าของเดิมที่นี่ ดังนั้น การที่เจ้าของใหม่จะรับเจ้าบองบอง กลับไปดูแลอีกครั้งต้องรับเขาไปอยู่ที่บ้านก่อนสักประมาณ 2-3 สัปดาห์เพื่อสร้างความคุ้นเคยกับสุนัขและทำให้เขารู้สึกว่าที่บ้านนี้ปลอดภัย อีกทั้งต้องกำชับคนในบ้านด้วยว่า ควรปฏิบัติตัวกับสุนัขเจ้าบองบองให้เหมือนคนในครอบครัวเพื่อสร้างความคุ้นเคยกับทุกคน 

"เริ่มแรกจากการทักทายพูดคุยกับเขาทุกวัน ผลัดเปลี่ยนกันดูแลให้อาหาร ช่วยกันอาบน้ำเล่นกับเขาก็จะเป็นการสร้างความคุ้นเคยได้เร็วขึ้น จากนั้นค่อยพาเจ้าบองบองไปหาหมอที่คลินิกใกล้บ้าน เพราะจะทำให้เขาไม่รู้สึกเครียดจนเกินไป หรือหวาดกลัวเรา แต่ถ้าเราไปจับเขาแล้วพาไปหาหมอเลยจะทำให้สุนัขมีอาการตื่นกลัวและหวาดระแวงเราได้" น.สพ.นนทษิต กล่าว

นอกจากนี้ น.สพ.นนทษิต ชุติญาณวัฒน์ ยังได้ฝากคำแนะนำมายังนางสาวเสาวลักษณ์ ที่จะรับเจ้าบองบอง มาอยู่ที่บ้านต่ออีกว่า ด้วยพื้นที่ที่เจ้าบองบองอยู่ในปัจจุบันเป็นพื้นที่เปิด อิสระรอบตัวเขาไม่ได้รับการดูแลอย่างถูกหลักลักษณะ ฉะนั้นเจ้าของใหม่" ของสุนัขเจ้าบองบอง ควรพาไปตรวจร่างกายอย่างละเอียดและฉีดวัคซีน โดยเฉพาะวัคซีนพิษสุนัขบ้า ที่ต้องได้รับการฉีดทุกปี แต่เราไม่แน่ใจว่าเจ้าบองบอง ได้รับการฉีดครบหรือไม่ ดังนั้น เราควรฉีดกันไว้ดีกว่า 

"การที่เจ้าบองบองอยู่ข้างนอกก็มีโอกาสติดโรคจากสุนัขตัวอื่นๆ ได้ หรือโรคจากสภาพแวดล้อมอย่าง เห็บ หมัด ฉะนั้นเมื่อพาไปอยู่ในบ้านควรรีบอาบน้ำตัดขน เพื่อเช็คสภาพร่างกายของเขาว่ามีอะไรผิดปกติหรือเปล่า และค่อยพาไปฉีดวัคซีนป้องกันโรค กำจัดขับถ่ายพยาธิต่อไป แต่ถ้าเจ้าของมีกำลังความสามารถก็อยากจะแนะนำให้ตรวจร่างกายและตรวจเลือดสุนัขด้วย เพื่อดูว่ามีความผิดปกติอื่นๆ ด้วยหรือเปล่า" น.สพ.นนทษิต กล่าว

ขณะที่ชาวโซเชียลที่สงสัยว่า "ป้าน้อย" ใช่เจ้าของเก่าตัวจริงหรือไม่นั้น น.สพ.นนทษิต บอกว่า เป็นเรื่องยากที่จะตรวจหาเจ้าของตัวจริง เพราะไม่มีข้อมูลหลักฐานทางเอกสารบ่งบอกว่าเป็นเจ้าของ แต่ปัจจุบันมีการ "ฝังไมโครชิพ" ยืนยันความเป็นเจ้าของสุนัขแล้วแต่ยังไม่แพร่หลายเท่าไร ดังนั้น เจ้าของสุนัขเวลาเดินทางหากเป็นสุนัขพันธุ์ใหญ่ควรใส่กรง เพื่อจำกัดพื้นที่และไม่ให้เกิดอันตรายขณะรถวิ่งกับสุนัข ส่วนสุนัขพันธุ์เล็กก็ควรอยู่ในกล่อง เพื่อป้องกันตัวเขาและตัวเราขณะขับขี่รถด้วย