18 กันยายน 2562 จากกรณีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่า และพันธุ์พืช ยึดเสือโคร่งของกลาง จำนวน 147 ตัว จากวัดป่าหลวงตาบัว ญาณสัมปันโน หรือ(วัดเสือ)ที่เคยเป็นแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังระดับโลกในอดีต ตั้งอยู่ริมถนนสาย 323 กาญจนบุรี-ไทรโยค หมู่ 5 ต.สิงห์ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี และนำไปดูแลที่สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าเขาประทับช้าง และสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าเขาสน ต.รางบัว อ.จอมบึง จ.ราชบุรี เมื่อปี พ.ศ.2559 หรือประมาณ 3 ปีที่ผ่านมา หลังจากที่กรมอุทยานฯได้เคลื่อนย้ายเสือจำนวนดังกล่าวไป ทำให้วัดเสือ แหล่งท่องเที่ยวซบเซาลงอย่างเห็นได้ชัด โดยล่าสุด เสือของกลางได้ทยอยเสียชีวิตลงด้วยโรคอัมพาตลิ้นกล่องเสียง 86 ตัว จากของกลางทั้งหมด 147 ตัว
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นล่าสุดเมื่อเวลา 16.30 น.วันนี้ 15 ก.ย.62 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่วัดป่าหลวงตาบัว ญาณสัมปัญโน เพื่อกราบนมัสการพระวิสุทธิสารเถร (ภูสิต ขันติธโร) หรือหลวงตาจันทร์ เจ้าอาวาสฯ เมื่อไปถึงพบนายอธิธัช ศรีมณี อายุ 50 ปี ผู้จัดการมูลนิธิวัดป่าหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน พร้อมลูกศิษย์อีก 1 คน อยู่ที่หน้ากุฏิ ผู้สื่อข่าวจึงได้เข้าไปพบและแจ้งจุดประสงค์ให้ทราบ ซึ่งก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี และถือว่าโชคดีที่ พระวิสุทธิสารเถร (ภูสิต ขันติธโร) หรือหลวงตาจันทร์ อนุญาตให้เข้าไปพบบนกุฏิ จากการสังเกตพบว่าหน้าตาและสุขภาพของหลวงตาจันทร์ ยังแข็งแรง และพูดจาฉะฉานเหมือนเช่นเคย
ทั้งนี้หลวงตาจันทร์ กล่าวว่า เสือมันอยู่ที่วัดแห่งนี้ก็ดีอยู่แล้ว แต่เมื่อกรมอุทยานฯมาเอาไปก็ไม่รู้จะทำอย่างไร อาตมาก็ได้แต่สมเพศ ถือว่ามันเป็นกรรมของสัตว์ เมื่อเขาเอามันไปเราก็ได้แต่ถามข่าวคราว การที่เสือตายไปคนเลี้ยงคงจะขี้เกียจ ขี้เกียจเพราะมันมีโรคภัยไข้เจ็บ มันแดดมันร้อนก็ตายยกฝูง สื่อมวลชนลองไปสืบดูซิว่ามีใครเอาซากมันไปขายหรือไม่ ไปถามดูซิว่าเขี้ยวเสือยังอยู่ไหม 86 ตัวเขี้ยวมีเท่าไหร่ ซึ่งเสือแต่ละตัวมีอยู่ 4 เขี้ยว รวม 344 เขี้ยว หนังเสือและกระดูเสือยังอยู่ไหม ดีแล้วที่สื่อมวลชนมาสอบถาม ซึ่งเราก็ออกความเห็นไปอย่างนี้
ถ้าปล่อยให้เสืออยู่กับเราป่านนี้โครงการ AEC ก็คงจะสำเร็จไปแล้ว ถ้าขยายพื้นที่ของวัดออกไปเป็น 8,400 ไร่ ซึ่งถ้าหากสิ่งที่เราเคยเขียนโครงการเอาไว้เกิดขึ้นมา ทุกอย่างมันก็จะเรียบร้อย แต่เมื่อมาเอาเสือไปแล้วออกข่าวย่ำยีกันอย่างนี้ โครงการมันจึงไม่สำเร็จ และถ้าปล่อยให้เราทำตามโครงการ เม็ดเงินก็จะเข้าสู่ประเทศและหมู่บ้านทั้งนั้น ส่วนที่มีข่าวว่า การที่เสือตายเป็นเพราะเสือติดเชื้อเลือดชิดมาตั้งแต่อยู่กับวัดนั้น จะเป็นไปได้อย่างไร เพราะตอนที่กรมอุทยานฯมาเอาเสือไป ก็มีทีมสัตวแพทย์ มาตรวจสุขภาพเป็นจำนวนมาก
ผู้สื่อข่าวถามว่า จากกรณีที่เสือของกลางเสียชีวิตไปแล้ว 86 ตัว จาก 147 ตัว ส่วนเสือที่เหลือหากมีการนำกลับมาให้กับหลวงตาเลี้ยงที่วัดเช่นเดิม หลวงตาจะว่าอย่างไร หลวงตาจันทร์ตอบอย่างตื่นเต้นและไม่ลังเล ว่าเอากลับมาทำอย่างไรก็ขอให้เอากลับมาให้ได้ ทีแรกก็ว่าจะไม่เอากลับมาแล้ว แต่ถ้าหากจะเอากลับมาก็ขอให้เป็นลูกเสียตัวยังเล็ก ซึ่งถ้าเจ้าหน้าที่เลี้ยงคงไปไม่ไหวแล้วเพราะเสือตายไปมากกว่า 80 ตัว อย่าเอาผลประโยชน์เป็นที่ตั้งมาล้อเล่น เขี้ยวเสือราคาเท่าไหร่ หนังสือราคาเท่าไหร่ เพราะเมื่อถ้าเสือตายไปจะต้องจดทำบันทึก
แต่อย่างไรก็ตามช่วยไปบอกให้เขาเอาเสือกลับมาไว้ที่วัด แต่หากเขาไม่ให้เสือตัวใหญ่มาเพราะการขนย้ายมันลำบาก ก็ขอให้เอาลูกเสือมาแทน เสือเกิดเมื่อไหร่ก็ให้เอามาเมื่อนั้นได้เลย เอามาให้เราเลี้ยงเอง เราจะเลี้ยงให้ดู สำหรับเสือตัวใหญ่มันเป็นของกลางไปแล้ว จึงเอากลับมาไม่ได้แต่ลูกของมันที่ออกมา ขอให้เอามาให้เรา
'ที่ผ่านมาคุณกาญจนา ศิลปะอาชา เคยนำอาหารมาเลี้ยงสัตว์ป่า รวมทั้งวัว และควายที่มีอยู่อยู่บ่อยครั้ง นอกจากนี้ยังนำสัตวแพทย์มาดูแลสุขภาพสัตว์ให้เราด้วย ดังนั้นก็อยากจะฝากไปถึงนายวราวุธ ศิลปะอาชา รัฐมตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม คนใหม่ ขอให้เอาลูกเสือที่เกิดใหม่มาให้กับทางวัด เราจะเลี้ยงให้ดู และเราจะทำเป็นแหล่งท่องเที่ยวเช่นบึงฉะวากที่ท่านกำลังทำอยู่ที่จังหวัดสุพรรณบุรีนั่นแหละ หรือรัฐมนตรีจะนิมนต์อาตมา ไปคุยด้วยที่ไหน อาตมาก็จะไป'
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับบรรยากาศภายในบริเวณวัด เป็นไปอย่างเงียบเหงา แต่ก็มีนักท่องเที่ยวนำอาหารมาเลี้ยงสัตว์อยู่บ้าง แต่ไม่มากนัก ขณะเดียวกันภายในวัดยังมีสัตว์ป่าที่ได้รับอนุญาตให้นำมาเลี้ยงอย่างถูกกฎหมายอยู่อีก 1 ชนิด ก็คือสิงโต เพศผู้ อายุ 13 ปี ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปดูได้โดยไม่ต้องเสียเงิน ซึ่งสิงห์โตตัวดังกล่าวอยู่ในกรงที่แข็งแรง อีกทั้งมีเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกให้ จึงไม่ต้องห่วงเรื่องความปลอดภัย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี