เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2562 ที่มหาวิทยาลัยรังสิต ได้จัดงานรำลึกถึงบิลลี่ เพื่อรำลึกเหตุการณ์ตั้งแต่นายละจีืหรือบิลลี่ ถูกจับกุม สูญหาย และกลายเป็นเรื่องที่หลายคนสนใจ เนื่องจากทางสำนักงาน DSI เปิดเผยว่า พบกระดูดที่ถูกฆ่าและอำพรางศพ ซึ่งตรวจสอบแล้ว DNA ตรงกับแม่ของนายบิลลี่ จึงมาจนการตั้งคำถามว่าใครเป็นคนลงมือ และใครต้องรับผิดชอบ
โดยมีการเสวนาวิชาการ เรื่อง "การฆาตกรรมอำพรางศพ นายพอละจี หรือบิลลี่ บุคคลใดต้องรับผิดชอบ" โดยมี พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI), นายชนม์สวัสดิ์ ประศาสน์ครุการ นักสืบสวนสอบสวนชำนาญการพิเศษ กองปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ 2 (ป.ป.ท.), นางพิณนภา พฤกษาพรรณและตัวแทนญาติของบิลลี่, นายแสงชัย รัตนเสรีวงษ์ สมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน และนางสาวสัณหวรรณ ศรีสด คณะกรรมการนักนิติศาสตร์สากล
นางพิณนภา (ภรรยาบิลลี่) กล่าวตอนหนึ่งว่า ตลอดเวลา 5 ปี ที่บิลบี่หายไปบำลากมาก เพราะหัวหน้าครอบครัวไม่อยู่ตนต้องดูแลลูก 5 คน และต้องออกมาขับเคลื่อนติดตามคดีของบิลลี่ ตนเพิ่งทราบว่าบิลลี่หายตัวไปเมื่อวันที่ื 18 เมษายน 2557 แต่บิลลี่หายไปตั้งแต่วันที่ 17 เมษายน 2557 และไม่มีใครติดต่อบิลลี่ได้เลย เมื่อรู้ว่าบิลลี่หายตัวไปก็ได้ยื่นขอความช่วยเหลือจากหลายหน่วยงาน แต่ไม่ได้รับการสนับสนุน จึงรู้สึกว่า ความยุติธรรมไม่มีอยู่จริง จึงตัดสินใจไปยื่นหนังสือที่สำนักนายกรัฐมนตรีก็ไม่มีความคืบหน้า จนรู้สึกว่าความยุติธรรมไม่มีจริง แต่วันนี้ได้รู้ว่าบิลลี่เสียชีวิตแล้ว จึงต้องขอบคุณ DSI ที่ช่วยติดตามอย่างเต็มที่
"ขอฝากความรู้สึกถึงคนที่กฎหมายอยู่ในมือ ให้ปฏิบัติตามหน้าที่ ไม่ควรรังแกคนที่ไม่มีกฎหมายในมือ คุณจับตัวบิลลี่ไปแล้วไม่ส่งดำเนินคดี ทำให้บิลลี่หายตัวไป ภาษาชาวบ้านคือใช้ "กฎหมา" อยากบอกว่าทุกคนมีชีวิตจิตใจ ไม่ว่าจะเป็นเผ่าไหนๆ ก็อยู่ในประเทศไทยเหมือนกัน เราควรอยู่ร่วมกันด้วยความรักและความเข้าใจ ไม่อยากให้คนที่มีกฎหมายในมือ มีอำนาจสูงส่ง คิดว่าตัวเองใหญ่ แต่อยากให้ทุกคนเสมอภาค เท่าเทียมกัน" น.ส.พิณนภา กล่า
ด้าน พ.ต.ท.กรวัชร์ กล่าวตอนหนึ่งว่า DSI พยายามทำเรื่องการสูญหายของนายบิลลี่มาตลอด ได้ไปคุยกับมึนอที่บ้าน ประมาณ 1-2 ปี ก็ยังติดใจว่าคนเป็นสามีจะไปไหนได้ที่ยังไม่กลับบ้าน และสุดท้ายไม่มีใครรู้เลยว่านายบิลลี่หายไปไหน เมื่อไปคุยกับมึนอและแม่ของนายบิลลี่ เห็นแววตาแล้วเกิดความสงสาร และไม่เชื่อว่าบิลลี่จะไม่กลับบ้านเอง ในขณะที่มีลูกเล็กๆ 5 คน เมื่อเวลาผ่านไปเกือบ 4 ปี ตนเข้ามารับตำแหน่งรองอธิบดี จึงเสนอคดีต่อคณะกรรมการคดีพิเศษ เพื่อให้เป็นคดีพิเศษ โดยคณะกรรมการคดีพิเศษทุกคนเห็นชอบ จากนั้นจึงเร่งกระบวนการสืบสวนค้นหานายบิลลี่จนเราพบชิ้นส่วนกระดูกที่พิสูจน์แล้วตรงกับแม่ของนายบิลลี่ และสรุปว่านายบิลลี่เสียชีวิตแล้ว ส่วนการสืบสวนต่อจากนี้ไป ต้องขอเวลาในการดำเนินสักหน่อย เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานให้ชัดเจนที่สุด และต้องทำอย่างรอบคอบ
"ในช่วงนี้ขอเวลารวบรวมหลักฐานให้ดีที่สุด ทำงานให้ละเอียดรอบคอบ ก่อนออกหมายเรียกหรือหมายจับ ยืนยันว่าไม่มีมวยล้มต้มคนดูแน่นอน ส่วนผลคดีจะออกมาอย่างไรขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน" พ.ต.ท.กรวัชร์ กล่าว
ขณะที่ นายชนม์สวัสดิ์ กล่าวว่า กล่าวว่า สำนวนของ ป.ป.ท.มีอำนาจหน้าที่ตรวจสอบเจ้าหน้าที่ ตามมตรา 157 และมาตรา 200 ซึ่งเป็นส่วนที่สืบสวนประเด็นการทุจริตต่อหน้าที่ เจ้าหน้าที่ โดยทางป.ป.ท.ได้รับเรื่องมาจากสภ.แกงกระจาน เนื่องจากเจ้าหน้าที่อุทยานควบคุมตัวนายบิลลี่ แต่ไม่ส่งตัวให้ตำรวจ และไม่พบการดำเนินคดีกับนายบิลลี่ ซึ่งไม่เกี่ยวกับการหายตัวไปของนายบิลลี่ ทั้งนี้ ได้ไต่สวนพยานไปกว่า 30 ปาก และพบว่ามีความผิดที่เกี่ยวข้องกับเรื่องของการสูญหายของนายบิลลี่ จึงส่งต่อไปให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ซึ่งจะถูกใช้ประกอบสำนวนของ DSI ต่อไป ส่วนคดีทุจริตโครงการปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติของอุทยานฯแก่งกระจาน ป.ป.ท.เตรียมเสนอให้บอร์ดลงมติตั้งอนุกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริง ส่วนคดีเผาทำลายบ้านของชุมชนกะเหรี่ยง ผู้บริหารป.ป.ท.ยืนยันว่าจะเร่งรัดดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 3 เดือน
ส่วน นายแสงชัย กล่าวว่า การหายตัวไปของนายบิลลี่ เป็นช่วงระหว่างรัฐบาลขับไล่ที่ดินของชาวบ้าน และจะส่งเสริมให้มีที่ดินทำกินทดแทนครอบครัวละ 7 ไร่ แต่เมื่อลงมาจากป่ากลับถูกจำกัดพื้นที่ทำกินน้อยลง และบางรายถูกจัดสรรที่อย่างลำบาก บางคนต้องกลับไปพื้นที่บางกรอยบนเหมือนเดิม ทางสภาทนายความจึงเข้ามาช่วยเหลือเมื่อมีการเผาที่ดินทำกินกว่า 100 ครัวเรือน ซึ่งขณยะนั้นทำได้เพียงเรียกร้องค่าเสียหาย ขณนั้นนายบิลลี่ได้เป็นคนประสานงานและรวบรวมเอกสาร
แต่กลับถูกควบคุมตัวด้วยข้อหามีน้ำผึ้งป่า และจากนั้นก็ไม่มีใครเจอนายบิลลี่อีกเลย ซึ่งคนที่พบนายบิลลี่เป็นครั้งสุดท้าย คือ เจ้าหน้าที่อุทยานแก่งกระจาน สิ่งที่ญาติทำได้ คือการทำหนังสือขอให้หัวหน้าอุทยานฯปล่อยตัวบิลลี่ ซึ่งต่อสู้คดีกัน 3 ศาล แม้ศาลจะตัดสินยกคำร้อง แต่อย่าไปรับฟังข้อกล่าวอ้างผิดๆ ว่ามีการปล่อยตัวบิลลี่ไปแล้ว เพราะศาลฎีกาพิพากษาว่าพยานของฝ่ายญาติไม่เพียงพอให้ศาลตัดสินใจว่ามีการควบคุมตัวบิลลี่ แต่ขณะนี้พยานหลักฐานที่ดีเอสไอพบไม่ใช่พยานแวดล้อมที่ไม่มีน้ำหนักเช่นในอดีตอีกแล้ว อาจเชื่อมโยงกับการปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบ การทำให้สูญหาย และการฆาตกรรม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายในงานพิธีรำลึกบิลลี่ตามวัฒนธรรมชาวกะเหรี่ยงนั้น ก่อนจีะมีการเสวนา ได้มีกิจกรรม "กอดกะเหรี่ยง" คือ กิจกรรมให้กำลังใจครอบครัวของนายบิลลี่ นางพิณนภา พฤกษาพรรณ ภรรยาพร้อมลูกๆทั้ง 5 คน โดยพี่น้องชาวกะเหรี่ยงจะเข้ามาโอบกอดมึนอ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี