วันที่ 30 ธันวาคม 2563 นายปิยะ ปะตังทา ประธานศาลปกครองสูงสุด เปิดเผยว่า ในปี 2564 ได้กำหนดนโยบายการดำเนินงานของศาลปกครอง โดยให้เป็น “ปีแห่งการพัฒนาการอำนวยความยุติธรรมทางปกครอง ให้เป็นไปตามมาตรฐานอันเป็นที่ยอมรับของทุกภาคส่วนและในระดับสากล และสอดคล้องกับชีวิตวิถีใหม่ (New Normal)” โดยมุ่งเน้นการพัฒนามาตรฐานในการอำนวยความยุติธรรมทางปกครองอย่างต่อเนื่องให้เป็นไปตามมาตรฐานอันเป็นที่ยอมรับในระดับสากล ทั้งในด้านระบบการทำงาน โครงสร้างพื้นฐาน และบุคลากร
โดยในการพัฒนาการอำนวยความยุติธรรมทางปกครองที่เป็นมาตรฐานนั้น ได้กำหนดให้มี กรอบระยะเวลาที่ชัดเจน มีความรวดเร็ว รวมทั้งนำกระบวนการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทในคดีปกครองซึ่งเป็นวิธีการที่สามารถทำให้ข้อพิพาทยุติลงด้วยดีภายในระยะเวลาที่รวดเร็วมาใช้ให้มากยิ่งขึ้น เพื่อให้คู่กรณีได้รับความยุติธรรมโดยไม่ล่าช้า และสามารถแก้ไขเยียวยาความเดือดร้อนเสียหายของประชาชนและคู่กรณีได้ทันการณ์
ตลอดจนมุ่งส่งเสริมให้ประชาชนและทุกภาคส่วนในสังคมสามารถเข้าถึงการอำนวยความยุติธรรมทางปกครองได้โดยเรียบง่าย มีความสะดวก และไม่สิ้นเปลืองค่าใช้จ่าย ด้วยช่องทางสมัยใหม่ที่สอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลงของสังคม และชีวิตวิถีใหม่ (New Normal) ของประชาชนผ่านระบบงานคดีปกครองอิเล็กทรอนิกส์ และการพิจารณาคดีโดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์
ขณะเดียวกันได้กำหนดให้มีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นต่อการปฏิบัติงานและกระบวนการทำงานของศาลปกครอง ควบคู่กับการพัฒนาบุคลากรเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและผลสัมฤทธิ์ในการอำนวยความยุติธรรมทางปกครอง โดยปรับปรุงกระบวนการทำงานหรือกระบวนวิธีพิจารณาคดีให้มีความกระชับ สะดวก รวดเร็ว พร้อมทั้งจัดให้มีโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นต่อการปฏิบัติงาน เช่น การพัฒนาระบบฐานข้อมูลขนาดใหญ่เพื่อการพิจารณาพิพากษาคดีและการบริการประชาชน
ตลอดจนพัฒนาเครื่องมือ ทางเทคโนโลยีสารสนเทศ และนวัตกรรมที่มีประสิทธิภาพสูงและสอดคล้องกับแนวคิดการทำงานสมัยใหม่ เช่น การพัฒนาระบบปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence: AI) เพื่อสนับสนุนการยกระดับการปฏิบัติงาน สู่การเป็นศาลปกครองอัจฉริยะ (Smart Admincourt) การพัฒนา Mobile Application ระบบงานคดีปกครองอิเล็กทรอนิกส์เพื่อประชาชน การพัฒนาระบบข้อมูลองค์ความรู้ที่สามารถเข้าถึงได้ง่ายและมีคุณภาพ ฯลฯ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน หน่วยงานทางปกครองและเจ้าหน้าที่ของรัฐ ซึ่งเป็นผู้รับบริการ และการคุ้มครองประโยชน์สาธารณะ
ประธานศาลปกครองสูงสุด กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปี ๒๕๖๔ นี้ ได้มีแนวคิดที่มุ่งเน้นให้กระบวนการยุติธรรมทางปกครองเป็นกลไกในการจัดการข้อพิพาทที่เป็นปัญหาสำคัญ โดยยกระดับการพิจารณาพิพากษาคดีปกครองที่เกี่ยวข้องกับความเป็นอยู่ หรือสิทธิเสรีภาพของประชาชน เช่น การประกอบอาชีพ การทำกินในที่ดิน การดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการพิจารณาของรัฐ ฯลฯ และข้อพิพาทที่เกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้มีประสิทธิภาพและก่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์ที่ชัดเจนเป็นรูปธรรม อย่างแท้จริงอีกด้วย
รวมไปถึงจะสานต่อและขยายความร่วมมือกับองค์กรภายนอก ทั้งที่เป็นองค์กรภาครัฐ และภาคประชาชน รวมทั้งองค์กรต่างประเทศ เพื่อให้เกิดแนวทางการปฏิบัติราชการที่ถูกต้องและ เป็นประโยชน์ต่อการขับเคลื่อนการบริหารราชการแผ่นดินและการจัดทำบริการสาธารณะ รวมทั้งพัฒนา การให้บริการของศาลปกครองในมิติที่หลากหลาย เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนการพัฒนานวัตกรรมในระบบบริหารงานศาลและกระบวนการยุติธรรมทางปกครอง ให้เป็นมาตรฐานอันเป็นที่ยอมรับในระดับสากลต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี