วันเสาร์ ที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ข่าว Like สาระ
หมอเตือน'กินยา'ต้องระวัง!! ยก6ยากินประจำทำความจำหาย จนอาจกลายเป็นโรคสมองเสื่อม

หมอเตือน'กินยา'ต้องระวัง!! ยก6ยากินประจำทำความจำหาย จนอาจกลายเป็นโรคสมองเสื่อม

วันพุธ ที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2562, 19.25 น.
Tag : กินยาต้องระวัง ความจำเสื่อม ยารักษาโรค โรคสมองเสื่อม หมอ
  •  

นพ.กฤษดา ศิรามพุช ผู้อำนวยการศูนย์เวชศาสตร์ชะลอวัย กล่าวว่า หลายท่านตกใจเวลาลืม เพราะห่วงว่าจะเป็นโรคสมองเสื่อมหรือโรคทางระบบประสาทอื่นๆ ซึ่งที่จริงแล้วแม้จะมีส่วนจริงแต่อย่าเพิ่งตระหนก เพราะการลืมเป็นเรื่องธรรมดาของมนุษย์ ไม่ว่าจะลืมที่จอดรถชั่วคราว ใจลอย หรือลืมกลางอากาศประเภทนิ่งงันไปไม่รู้จะพูดอะไรต่อ เหล่านี้ถือว่าเป็นการลืมที่อาจเกิดขึ้นได้ในคนทั่วๆ ไป

"แต่การลืมประเภทที่ค่อนไปทาง ผิดปกติที่อาจเข้าข่ายสมองเสื่อมนั้นมีสัญญาณสำคัญอยู่ คือ ถามคำถามเดิมซ้ำๆ,ลืมคำพูดสามัญที่แสนธรรมดาเวลาจะพูด , พูดสับกันเช่นพูดว่าเตียง แทนที่จะเป็นโต๊ะ , ใช้เวลานานกว่าจะทำภารกิจเดิมๆ เสร็จ , วางของไว้ผิดที่ในที่ไม่ควรวางเช่นวางกระเป๋าสตางค์ไว้ในฝาชีครอบกับข้าว , เดินแล้วหลงง่ายหรือขับรถหลงทางเดิมๆ , อารมณ์หรือพฤติกรรมเปลี่ยนอย่างไม่มีเหตุผล" นพ.กฤษดา กล่าว


ผอ.ศูนย์เวชศาสตร์ชะลอวัย กล่าวด้วยว่า เรื่องสมองเสื่อมฟังดูอาจเหมือนไร้ทางแก้แต่จริงๆมีสาเหตุของความจำที่หายไปซึ่งแก้ได้ อยู่ อาทิภาวะซึมเศร้า , เครียด , ติดเหล้าแอลกอฮอลิซึ่ม , ขาดวิตามินบี 12 , โรคไทรอยด์ต่ำ หรือมีเนื้องอกสมองก็ยังจัดการได้ นอกจากนั้น ยังมีอีกเหตุหนึ่งที่ผู้สูงวัยยุคใหม่ต้องจับตาให้ดีคือเรื่องของการรับประทานยาเพราะว่ามียาที่ทำให้เกิดอาการหลงลืมได้ดังจะขอเรียกง่ายๆ ว่า โอสถลดความจำที่อาจทำให้ความจำร่วงหล่นหายไปบ้างจนเผลอคิดไปว่าเข้าข่ายอัลไซเมอร์ ดังนั้น การกินยาต้องรู้ว่ามีผลต่อสมองหรือไม่

ยาทั่วไปที่ทำให้สมองลืมได้ ยาทำความจำหายก็ได้ ดังต่อไปนี้ คือ

1) ยานอนหลับ ยานี้เป็นสิ่งที่หลายคนกลัวฤทธิ์ของมันแต่ก็ยังคงใช้กันอยู่เกลื่อน ยานอนหลับสามารถไปกดสมองส่วนที่ช่วยจำกับเรียนรู้ ซึ่งยานอนหลับหลายขนานมีผลข้างเคียงคืออาการความจำหาย ยกตัวอย่างยานอนหลับกลุ่มเบนโซไดอะเซพีนส์

2) ยารักษาอาการจิตเวช เป็นยาชนิดที่มีผลต่อสมอง บางชนิดมีผลกดอาการหวาดระแวง,หลอนหรืออารมณ์ไบโพลาร์ อาจนำไปสู่ความผิดปกติในเรื่องความจำได้

3) ยาฆ่าเชื้อ แม้ไม่เกี่ยวกับความจำโดยตรงแต่อาจมีผลกับระบบสำคัญของร่างกายที่สร้างสารสื่อประสาทได้ไม่แพ้สมอง คือ "ทางเดินอาหาร" จึงมีคำว่าลำไส้นี้คือสมองที่ 2 ของร่างกาย ซึ่งสารเคมีที่มีผลกระทบต่อสมองของเราหลายตัวผลิตจากทางเดินอาหารนี้  ดังนั้นยาฆ่าเชื้อที่เข้าไปสังหารจุลินทรีย์ดีๆในลำไส้ของเราจึงอาจมีผลต่อการทำงานสมองได้ โดยเฉพาะยาปฏิชีวนะกลุ่มควิโนโลนอย่างเลโวฟล็อกซาซิน หรือยารักษาเจ็บคออย่างอะม็อกซิซิลลินและเซฟาเล็กซิน

4) ยาแก้แพ้ ที่เรียกว่าแอนตี้ฮิสตามีนมีหลายชนิดใช้เวลาเป็นภูมิแพ้ , จาม , คัน , คัดจมูก , เป็นผื่นลมพิษต่างๆ มีผลกวนสมองตรงที่มันไปยับยั้งสารสื่อประสาทอะเซติลโคลีนซึ่งมีหน้าที่เกี่ยวกับความจำและการเรียนรู้  ถ้าสารอะเซติลโคลีนนี้ต่ำไปจะทำให้เกิดสมองเสื่อม,ความจำหายหรือมีอาการวุ่นวายสับสนได้

5) ยาลดความดันโลหิต เรื่องนี้มีการถกเถียงกันโดย โดยเฉพาะยาลดความดันกลุ่มที่ทำให้หัวใจเต้นช้า คือ เบต้า - บล็อกเกอร์ นั้นมีเคสรีพอร์ทว่าคนไข้สูงวัยมีอาการความจำเสื่อมร่วมด้วย อีกรายหนึ่งมีเห็นภาพหลอน ส่วนอีกเคสนั้นมีอาการสับสนวุ่นวาย (delirium) หลังได้รับยาลดความดันกลุ่มนี้ทั้งที่ไม่เคยมีประวัติจิตเวชมาก่อนและเมื่อหยุดยาไปก็อาการหายภายใน 20 ชั่วโมง

6) ยากันชัก ยากลุ่มนี้มีรายงานว่าทำให้สมองนั้น "ช้าลง" เพราะต้องการให้การส่งสัญญาณปลุกชักลดลง ดังนั้น ผลข้างเคียงของยาต้านชักบางตัวจึงเป็นที่รู้กันว่ามีผลต่อการรู้คิด(cognitive function) จึงอาจมีผลต่อความจำและการเรียนรู้ได้  ดังในการศึกษาของ University of Eastern Finland เผยว่าการใช้ยากันชักติดต่อกันนาน 1 ปี มีความสัมพันธ์กับความเสี่ยงอัลไซเมอร์ถึง 15% ส่วนข้อมูลของทางเยอรมนีบอกไว้ที่ 30%

อย่างไรก็ตาม นพ.กฤษดา กล่าวย้ำว่า อยากให้ทราบไว้ว่าไม่ควรตระหนกเรื่องยาประจำที่กินอยู่จนหยุดรับประทานเพราะการที่บอกว่ามีความเสี่ยงนั้นถ้าเราได้หมั่นสังเกตและอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้จ่ายยาก็จะช่วยให้ความเสี่ยงที่ว่าลดลง จึงอยากให้ระวังในกลุ่มคนไข้ที่รักษาไปนานๆ แล้วซื้อยารับประทานเองหรือไม่มีเวลาไปตรวจติดตามมากกว่า

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  

Breaking News

‘สม รังสี’อดีตผู้นำฝ่ายค้านเขมร ลากไส้‘ฮุน เซน’ไม่ได้รักชาติ แต่กลัวรายได้หาย-ระบอบล่ม

ไม่กลัวกฎหมาย! แก๊งวัยรุ่น 'สาดกระสุนใส่รถ' ก่อนอุ้มซ้อมกลางตลาด

พลังรักชาติ! หนุ่มตัดผมภาพ 'แม่ทัพภาค2' พ่นสีธงชาติไทย

‘อ.ต่อตระกูล’โพสต์คำถามคาใจเด็กไทย ทำไมต้องการบ้าน รถ ชื่อเสียง ต้องฟังพระที่ไม่มีอะไรเลย

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved