ท่านอาจารย์มั่น โอ๊ย! พิสดารมากนะ เรื่องอย่างนี้พิสดารมากทีเดียว แต่ท่านทำเหมือนไม่รู้นะ เวลาพูดไปสัมผัสอะไรอย่างนี้ล่ะ พอไปสัมผัสเรื่องราว ท่านจึงแยกออกมาพูดแล้วผ่านไปเลย ถ้าไม่สัมผัส ท่านก็ไม่พูด อันนี้ก็มีเรื่องสัมผัส ท่านก็พูดให้ฟัง เรื่องหูทิพย์ตาทิพย์อย่างที่ว่าพวกเทพทั้งหลายเขามาฟ้องร้องท่าน ตอนเขามาฟังเทศน์ท่าน เขามากราบเรียนท่าน ภาษาเราว่ากราบเรียนท่าน ธรรมดาก็เรียกว่ามาฟ้องท่าน ว่ามานี้เห็นแต่พระท่านนอนหลับครอกๆ แครกๆ ท่านนอนไม่มีมารยาท นั่นเห็นไหม ไปกราบเรียนท่าน คือ พวกเทพไปกราบเรียนท่านพระท่านนอนไม่มีมารยาท นอนหลับครอกๆ แครกๆ ทิ้งเนื้อทิ้งตัวบ้างอะไรบ้าง เวลาเขาไปฟ้องท่าน
ทีนี้เวลาท่านแก้เทวดา ท่านไม่ได้ยกโทษพระนะ “อ๋อ! ก็คนหลับ ใครหลับก็ครอกๆ แครกๆ จะว่าไง ถ้าไม่หลับจะไปครอกๆ แครกๆทิ้งเนื้อทิ้งตัวยังไง คนมีสติสตัง จะว่าอะไรถึงพวกเทพก็เอาเถอะ เหมือนกันนั่นแหละ จะไปตำหนิอะไรแต่กับพระ ดูเราที่มันครอกๆ แครกๆแบบไหน แบบเทพนั่นน่ะ มันสมเกียรติของเทพไหม” ท่านซัดเอาตรงนั้นนะ เขาก็หมอบเลย
พอเขาไปแล้ว ท่านก็เตือนพระ แน่ะอย่างนั้นนะ คือ เวลาเขาตำหนิพระ ท่านจะไปช่วยเป็นกำลังเขาตีพระ ท่านไม่ตี ท่านยกพระไว้ตีพวกเทวดา พอเทวดาไปแล้วกลับมาตีพระ นั่นเห็นไหมปราชญ์ท่านพูดให้กระทบกระเทือนที่ไหน เสียหายที่ไหน ทีนี้เวลาท่านออกมาท่านก็เตือนพระ “เวลาหลับนอนก็ให้รักษามารยาท เมื่อคืนนี้พวกเทวดาทั้งหลายเขามาฟ้องว่า พระนอนหลับครอกๆ แครกๆ ทิ้งเนื้อทิ้งตัวแล้วเป็นยังไงพระเรา นอนหลับตั้งแต่ตะวันยังไม่ตกนั่นเหรอ ไม่ได้ตั้งหน้าทำความพากความเพียรเหรอ จึงให้เทวดาเขามาดูความไม่ดีของเรา ถ้าหากว่าจะนอนก็ให้ระมัดระวัง”
จากนั้นมาท่านเตือนนะว่า “วันนี้เทวดาจะมา” บอกเตือนพระเพราะพระอยู่กับท่านไม่หลายองค์นี่นะ ไม่ได้เหมือนอย่างที่ว่าจุ้นจ้านๆ มีแต่พระหูหนวกตาบอดอย่างนี้นะ ท่านเตือน “วันนี้พวกเทพจะมานะเวลาเท่านั้น ถ้าจะหลับนอนก่อนนั้น ก็ให้หลับนอนเสีย ถ้ายังไม่หลับนอนก็ให้รอไป จนกระทั่งเทวดาทั้งหลายมาเยี่ยมเราผ่านไปเรียบร้อยแล้วค่อยนอน” นั่น ท่านเตือนพระเห็นไหมล่ะ นี่ล่ะจอมปราชญ์เตือนกันในวงภายใน พระก็ต้องได้ระมัดระวัง
แล้วที่นี่ก็ทำส้วมทำถานแต่ก่อนกับทุกวันนี้ต่างกัน คือ ขุดหลุมทำส้วมทำถานใช่ไหมล่ะ แต่ก่อนไม่มีส้วมซึมอย่างนี้ ท่านบอก “ทางนี้อย่าไปทำส้วม พวกเทพมาทางนี้ ให้แยกไปทำทางนั้นๆ ทางนี้เป็นทางเทพเข้าออกเสมอ” คือ พวกเทวดาเขาจะเข้าในช่องทางที่พระว่าง เขาเคารพพระนะ พวกเทพ ถ้าพระชุมนุมที่ไหน เขาไม่อยากเข้า เขาเคารพพระ
เพราะฉะนั้น เขามาเห็นพระหลับครอกๆ แครกๆ เขาจึงไปฟ้องท่านอาจารย์มั่นล่ะซี ท่านอาจารย์มั่นก็ตีเทวดาอีก พอกลับมาแล้วก็มาตีพระ เวลาทำส้วมทำถาน ท่านห้ามไม่ให้ทำทางนั้นๆ ให้แยกไปทำทางนั้น ทางนี้เป็นทางเทวดาเขามาเสมอ แล้วเทวดาเขามา เขาไม่ได้มาลงนี้เขาเหาะเหินมา โน่น เขาจะลงที่โน่นแล้ว เดินเข้ามาอย่างเป็นระเบียบ มีความสวยงาม เคารพนับถือ เป็นที่น่าเลื่อมใสมาก ท่านว่าอย่างนั้น
ทีนี้เวลามาเห็นกิริยาของพระเป็นอย่างนั้นๆ เขาฟ้องนั้นถูกต้องแล้ว ท่านก็สอนพระไม่ให้ทำส้วมทำถานทางที่เขาเข้าออก พวกเทพทั้งหลายจะเหมือนกันหมด ว่างั้นนะ จะไม่ไปมาจุ้นจ้านนะ จะมาเป็นทางๆ ที่ไหนมีพระมาก พวกเทพจะไม่มา
พูดถึงเรื่องภายใน ถ้าต่างคนต่างรู้ ก็ไม่มีปัญหาอะไรกันเลย ถ้าคนหนึ่งไม่รู้ คนหนึ่งรู้ คนหนึ่งไม่เห็น คนหนึ่งเห็น ก็มีการขัดการแย้ง ความรู้ความเห็นไม่ลงรอยกันเป็นธรรมดา ทางภายในก็เหมือนกัน ภายนอกคนหนึ่งเห็น คนหนึ่งไม่เห็น คนหนึ่งได้ยิน คนหนึ่งไม่ได้ยิน มันก็สงสัย ผู้ที่ไม่ได้ยิน ผู้ที่ไม่เห็น ถ้ารู้เห็นด้วยกันแล้วไม่มีปัญหาอะไร
..............
คัดลอกจากหนังสือ "เทวดา" หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี