ถือเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชอบศึกษาและชมวัตถุโบราณ คลายๆพิพิธภัณฑ์เก็บของโบราณ ซึ่งสถานที่แห่งนี้เป็นบ้านของ “นายปัญจพล จำปานิล” อดีตนิติกรชำนาญการพิเศษ หัวหน้ากลุ่มงานวินัยและนิติการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา เลยเขต 1 ปัจจุบัน เกษียณ มาแล้ว 4 ปี โดยจะเก็บสะสม “ตูบเสียมตุ่น” หรือ คลังอาวุธมนุษย์ดึกดำบรรพ์ มีการสะสมมากว่า 20 ปี จำนวนกว่า 2,500 ชิ้น จากท้องถิ่นมารวบรวมไว้ที่บ้าน เพื่อให้นักท่องเที่ยว นักเรียนนักศึกษา ผู้ที่สนใจได้ชมฟรี ที่ 71/2 หมู่ที่ 6 บ้านอาฮี ตำบลอาฮี อำเภอท่าลี่ จังหวัดเลย โทร.083-149-994-8
นายปัญจพล กล่าวว่า เสียมตุ่น คือเครื่องมือที่มีลักษณะคล้ายขวาน หรือเสียม ซึ่งเป็นของมนุษย์โบราณที่ใช้ในชีวิตประจำวันเพื่อการตำรงชีพในลักษณะต่างๆ เช่นเป็นอาวุธในการต่อสู้ป้องกันตัว การล่าสัตว์ และเป็นเครื่องมือที่ใช้ ขุดสับ ตัดหรือทำอื่นๆ ก่อนที่จะมีเครื่องมือเครื่องใช้ที่เป็นโลหะในยุคต่อมาทำไมจึงเรียกเสียมตุ่น เสียมตุ่น เป็นคำที่ใช้ในภาคเหนือและภาคอีสาน ซึ่งที่มาของชื่อเสียมตุ่นน่าจะมาจากการที่ชาวบ้านได้พบวัตถุประหลาดนี้เป็นครั้งแรกขณะที่กำลังขุดตัวตุ่น ปกติจะพบขุดดินเป็นกองใหญ่บ่งบอกตรงนี้ มีตุ่นขุดรูและอาศัยอยู่ จึงมีความเชื่อว่าตุ่น อยู่ในรูนี้ ส่วนชาวบ้านภาคกลางจะเรียกสิ่งนี้ว่า ขวานฟ้าผ่า เชื่อว่าเป็นขวานที่รามสูรย์ที่ขว้างใส่เมฆหลาแล้วหลุดจากด้ามตกลงมาในทางวิชาการจริงๆ แล้วเสียมตุ่นหรือ ขวานหิน หรือเครื่องมือหิน เป็นเครื่องมือที่ใช้ ในชีวิตประจำวันของมนุษย์ยุคหินหรือยุคก่อนประวัติศาสตร์
นายปัญจพล กล่าวอีกว่า ตนเริ่มต้นการค้นพบ ประมาณปี พ. ศ.2545 จากการที่นายไพ กาแก้ว ซึ่งเป็นครูผู้สอนวิชา สังคมศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนต้นของโรงเรียนชุมชนบ้านอาฮีมีเนื้อหาเกี่ยวกับวิวัฒนาการทางสังคมของมนุษย์ในยุคต่างๆ มาเล่าให้ฟังว่านักเรียนบางคนในชั้นบอกว่าพ่อแม่ของเขาให้เก็บหินที่มีลักษณะคล้ายๆรูปภาพที่ปรากฏในหนังสือเรียนได้ที่บ้านด้วยจึงมีความสนใจและชวนกันออกไปดูซึ่งก็เป็นได้อย่างที่บอกมาจากนั้นก็ได้ชวนนักเรียนออกไปสำรวจตามไร่ปลายนา ในพื้นที่ บ้านอาฮีบ้านหนองปกติ บ้านห้วยคัง ในตำบลอาฮีปัจจุบัน และหากว่าในวันหยุดเสาร์ อาทิตย์ จะไปค้นหา และได้พบกับสิ่งเหล่านี้ จากนั้นก็นำไปรวบรวมมาเก็บไว้ที่ห้องสมุดของโรงเรียนและร่วมกันจัดทำทะเบียนไว้เพื่อประโยชน์ทางการศึกษาแนวคิดในการก่อตั้งพิพิธภัณฑ์ เมื่อรวบรวมได้มากขึ้นก็เริ่มคิดที่จะเก็บไว้เป็นที่เป็นและจัดแสดงเพื่อให้นักเรียนนักศึกษาที่ใจผู้สนใจด้านโบราณคดีให้เป็นแหล่งศึกษาเรียนรู้แต่ก็ติดปัญหา ด้านผู้ดูแล และการจัดการจึงได้นำไปเก็บไว้ที่ศาลาการเปรียญของวัดศิริมงคล บ้านอาฮี อยู่ช่วงหนึ่ง จนไม่มีที่เก็บและมีการทำศาลาการเปรียญหลังใหม่ จนต้องย้ายมาเก็บและรักษาไว้เองที่บ้าน และสะสมเพิ่มมากขึ้น มีการไปหาเพิ่มเติม และตัดสินใจนำทั้งหมดมาแสดง ในรูปพิพิธภันฑ์โดยใช้ชื่อว่า “ตูบเสีมตุ่น” ซึ่งตูบ หมายถึงเพิงพักเล็กๆ
ส่วนเสียมตุ่น ก็หมายถึง เครื่องมือหิน ดั่งที่กล่าวมา สำหรับอายุของเครื่องมือหินที่นี่ ปัจจุบันยังไม่มีการพิสูจน์ทางธรณีวิทยาเกี่ยวกับอายุของเครื่องมือหิน จึงมีเพียงชัยสันนิษฐานว่า อยู่ในยุคหินใหม่ต่อเนื่องยุคโลหะ ซึ่งยุคหินใหม่ในบางพื้นที่ หรือในต่างประเทศ จะอยู่ประมาณ 5,000 ปีถึง 10,000 ปี ส่วนในประเทศไทย จะอยู่ราว 2,000-6,000 ปี แต่อย่างไรก็ตามขวานหินบางส่วนจะถูกผลิตขึ้นในยุคโลหะ เนื่องจากเครื่องมือโลหะ ยังไม่พอใช้จึงต้องนำหิน มาใช้เป็นเครื่องมือเสริมและคาดว่าบริเวณนี้ อดีตจะเป็นเมืองเล็กๆ ที่เรียกว่าเมืองตูม เพราะมีชื่อวัดเมืองตูมธรรมาราม หลงเหลืออยู่ให้เห็นในปัจจุบัน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี