วันพุธ ที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ข่าว Like สาระ
พาชมแหล่งอาวุธโบราณ ‘ตูบเสียมตุ่น’ ยุคดึกดำบรรพ์อายุกว่าหมื่นปี จ.เลย

พาชมแหล่งอาวุธโบราณ ‘ตูบเสียมตุ่น’ ยุคดึกดำบรรพ์อายุกว่าหมื่นปี จ.เลย

วันอังคาร ที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2562, 11.01 น.
Tag : ตูบเสียมตุ่น ไม่ไปไม่รู้ เลย อาวุธโบราณ
  •  

ถือเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชอบศึกษาและชมวัตถุโบราณ คลายๆพิพิธภัณฑ์เก็บของโบราณ ซึ่งสถานที่แห่งนี้เป็นบ้านของ “นายปัญจพล จำปานิล” อดีตนิติกรชำนาญการพิเศษ หัวหน้ากลุ่มงานวินัยและนิติการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา เลยเขต 1 ปัจจุบัน เกษียณ มาแล้ว 4 ปี โดยจะเก็บสะสม “ตูบเสียมตุ่น” หรือ คลังอาวุธมนุษย์ดึกดำบรรพ์ มีการสะสมมากว่า 20 ปี จำนวนกว่า 2,500 ชิ้น จากท้องถิ่นมารวบรวมไว้ที่บ้าน เพื่อให้นักท่องเที่ยว นักเรียนนักศึกษา ผู้ที่สนใจได้ชมฟรี ที่ 71/2 หมู่ที่ 6 บ้านอาฮี ตำบลอาฮี อำเภอท่าลี่ จังหวัดเลย โทร.083-149-994-8

 


 

นายปัญจพล กล่าวว่า เสียมตุ่น คือเครื่องมือที่มีลักษณะคล้ายขวาน หรือเสียม ซึ่งเป็นของมนุษย์โบราณที่ใช้ในชีวิตประจำวันเพื่อการตำรงชีพในลักษณะต่างๆ เช่นเป็นอาวุธในการต่อสู้ป้องกันตัว การล่าสัตว์ และเป็นเครื่องมือที่ใช้ ขุดสับ ตัดหรือทำอื่นๆ ก่อนที่จะมีเครื่องมือเครื่องใช้ที่เป็นโลหะในยุคต่อมาทำไมจึงเรียกเสียมตุ่น เสียมตุ่น เป็นคำที่ใช้ในภาคเหนือและภาคอีสาน ซึ่งที่มาของชื่อเสียมตุ่นน่าจะมาจากการที่ชาวบ้านได้พบวัตถุประหลาดนี้เป็นครั้งแรกขณะที่กำลังขุดตัวตุ่น ปกติจะพบขุดดินเป็นกองใหญ่บ่งบอกตรงนี้ มีตุ่นขุดรูและอาศัยอยู่ จึงมีความเชื่อว่าตุ่น อยู่ในรูนี้ ส่วนชาวบ้านภาคกลางจะเรียกสิ่งนี้ว่า ขวานฟ้าผ่า เชื่อว่าเป็นขวานที่รามสูรย์ที่ขว้างใส่เมฆหลาแล้วหลุดจากด้ามตกลงมาในทางวิชาการจริงๆ แล้วเสียมตุ่นหรือ ขวานหิน หรือเครื่องมือหิน เป็นเครื่องมือที่ใช้ ในชีวิตประจำวันของมนุษย์ยุคหินหรือยุคก่อนประวัติศาสตร์

 

 

นายปัญจพล กล่าวอีกว่า ตนเริ่มต้นการค้นพบ ประมาณปี พ. ศ.2545 จากการที่นายไพ กาแก้ว ซึ่งเป็นครูผู้สอนวิชา สังคมศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนต้นของโรงเรียนชุมชนบ้านอาฮีมีเนื้อหาเกี่ยวกับวิวัฒนาการทางสังคมของมนุษย์ในยุคต่างๆ มาเล่าให้ฟังว่านักเรียนบางคนในชั้นบอกว่าพ่อแม่ของเขาให้เก็บหินที่มีลักษณะคล้ายๆรูปภาพที่ปรากฏในหนังสือเรียนได้ที่บ้านด้วยจึงมีความสนใจและชวนกันออกไปดูซึ่งก็เป็นได้อย่างที่บอกมาจากนั้นก็ได้ชวนนักเรียนออกไปสำรวจตามไร่ปลายนา ในพื้นที่ บ้านอาฮีบ้านหนองปกติ บ้านห้วยคัง ในตำบลอาฮีปัจจุบัน และหากว่าในวันหยุดเสาร์ อาทิตย์ จะไปค้นหา และได้พบกับสิ่งเหล่านี้ จากนั้นก็นำไปรวบรวมมาเก็บไว้ที่ห้องสมุดของโรงเรียนและร่วมกันจัดทำทะเบียนไว้เพื่อประโยชน์ทางการศึกษาแนวคิดในการก่อตั้งพิพิธภัณฑ์ เมื่อรวบรวมได้มากขึ้นก็เริ่มคิดที่จะเก็บไว้เป็นที่เป็นและจัดแสดงเพื่อให้นักเรียนนักศึกษาที่ใจผู้สนใจด้านโบราณคดีให้เป็นแหล่งศึกษาเรียนรู้แต่ก็ติดปัญหา ด้านผู้ดูแล และการจัดการจึงได้นำไปเก็บไว้ที่ศาลาการเปรียญของวัดศิริมงคล บ้านอาฮี อยู่ช่วงหนึ่ง จนไม่มีที่เก็บและมีการทำศาลาการเปรียญหลังใหม่ จนต้องย้ายมาเก็บและรักษาไว้เองที่บ้าน และสะสมเพิ่มมากขึ้น มีการไปหาเพิ่มเติม และตัดสินใจนำทั้งหมดมาแสดง ในรูปพิพิธภันฑ์โดยใช้ชื่อว่า “ตูบเสีมตุ่น”  ซึ่งตูบ หมายถึงเพิงพักเล็กๆ

 

 

ส่วนเสียมตุ่น ก็หมายถึง เครื่องมือหิน ดั่งที่กล่าวมา สำหรับอายุของเครื่องมือหินที่นี่ ปัจจุบันยังไม่มีการพิสูจน์ทางธรณีวิทยาเกี่ยวกับอายุของเครื่องมือหิน จึงมีเพียงชัยสันนิษฐานว่า อยู่ในยุคหินใหม่ต่อเนื่องยุคโลหะ ซึ่งยุคหินใหม่ในบางพื้นที่ หรือในต่างประเทศ จะอยู่ประมาณ 5,000 ปีถึง 10,000 ปี ส่วนในประเทศไทย จะอยู่ราว 2,000-6,000 ปี แต่อย่างไรก็ตามขวานหินบางส่วนจะถูกผลิตขึ้นในยุคโลหะ เนื่องจากเครื่องมือโลหะ ยังไม่พอใช้จึงต้องนำหิน มาใช้เป็นเครื่องมือเสริมและคาดว่าบริเวณนี้ อดีตจะเป็นเมืองเล็กๆ ที่เรียกว่าเมืองตูม เพราะมีชื่อวัดเมืองตูมธรรมาราม หลงเหลืออยู่ให้เห็นในปัจจุบัน

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • นทท.คึกคัก แห่ขึ้น \'ภูกระดึง\' สัมผัสอากาศหนาว 13 องศา กว่า 2,000 ราย นทท.คึกคัก แห่ขึ้น 'ภูกระดึง' สัมผัสอากาศหนาว 13 องศา กว่า 2,000 ราย
  •  

Breaking News

โปรดเกล้าฯ พระราชทานเครื่องราชฯ ข้าราชบริพารในพระองค์ 223 ราย

ฝนถล่มอุดรฯ น้ำท่วมถนนหลายสายหนัก ชาวบ้าน 2 คนถูกไฟดูดเสียชีวิต

'วุฒิสภากัมพูชา'อนุมัติ! เปิดทางเพิกถอนสัญชาติพลเมืองที่ทรยศต่อประเทศชาติ

ช็อก! คลินิกความงาม หลอกขายคอร์ส เปิดหรูในห้างดัง พบเงินบัญชีม้าเกือบ 50 ล้าน

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved