"วัดนันตาราม" อำเภอเชียงคำ ที่มีวิหารทำจากไม้สักทั้งหลัง มีรูปแบบศิลปพม่าอลังการ หนึ่งเดียวของจังหวัดพะเยา ยังคงสวยสดงดงาม และมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวชมอย่างต่อเนื่อง
นักท่องเที่ยวจำนวนมากต่างเดินทางเข้าท่องเที่ยว บริเวณวัดนันตาราม ในพื้นที่อำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา อย่างต่อเนื่อง ซึ่งถือว่าเป็นวัดที่มีความสวยงามติดอันดับต้นๆ ของจังหวัดและกลุ่มภาคเหนือ ซึ่งมีวิหารไม้สักศิลปะผสมผสานพม่า-ไทยล้านนาที่ถือว่าใหญ่ที่สุดในจังหวัดพะเยา และยังคงหลงเหลือความสวยงามไว้อย่างสมบูรณ์แบบ และมีเอกลักษณ์ ที่สวยงาม นอกจากนั้นภายในวิหารไม้สักยังคงมีการรวบรวมวัตถุโบราณ ศิลปวัฒนธรรมของชุมชน พระพุทธรูปที่มีรูปแบบของศิลปะพม่า หรือไทยใหญ่ ไว้อย่างมากมาย จึงเป็นที่สนใจของนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าเที่ยวชม
สำหรับการสร้างวิหารไม้สัก ในวัดนันตาราม เดิมวัดนี้เรียกว่า วัดจองคา (จอง เป็นคำไทใหญ่หมายถึงวัด) และหลังคาของวิหารมุงด้วยหญ้าคา จึงมีชื่อเรียกวัดจองคาซึ่งเริ่มต้นจากการที่พุทธศาสนิกชนชาวไทใหญ่ที่เข้ามาค้าขายอยู่ในอำเภอเชียงคำเมื่อราว 100 กว่าปีที่ผ่านมา ซึ่งสร้างในปี พ.ศ.2467 โดยพ่อหม่องโพธิ์ชื่น เป็นผู้บริจาคที่ดิน พ่อเฒ่าอุบล เป็นประธานในการก่อสร้าง ชาวบ้านทั่วไปมักนิยมเรียกวัดนี้ว่า "วัดจองเหนือ" ซึ่งอยู่ทางด้านทิศเหนือของอำเภอเชียงคำ
สำหรับพื้นที่ของวัดจองคา มีเนื้อที่กว่า 8 ไร่ ต่อมาพ่อเฒ่านันตา (อู๋) วงศ์อนันต์ ได้บริจาคเงินเพื่อบูรณะปฏิสังขรณ์ "วัดจองคา" โดยพ่อเฒ่านันตา (อู๋) ได้เป็นเจ้าภาพสร้างวิหารขึ้น 1 หลังแทนวิหารที่มุงด้วยหญ้าคา แล้วจึงว่าจ้างนายช่างชาวพม่ามาออกแบบและทำการก่อสร้างวิหาร รูปแบบของพระวิหารเป็นวิหารไม้สักทั้งหลัง ศิลปกรรมแบบพม่า หลังคามุงจั่วยกเป็นช่อชั้นลดหลั่นกันลงมาอย่างสวยงาม มุงหลังคาด้วยแป้นเกร็ด (กระเบื้องไม้) เพดานภายในตกแต่งประดับประดาด้วยกระจกสีลวดลายวิจิตรพิศดาร มีเสาไม้ลงรักปิดทองทั้งสิ้น 68 ต้น ค่าก่อสร้างในสมัยนั้นประมาณ 45,000 บาทเศษ
พระอธิการสันติ ชยธมโม เจ้าอาวาสวัดนันตาราม อำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา กล่าวว่า ในการก่อสร้าง ตั้งแต่เดิมเป็นที่พักของพ่อค้าจากทางพม่าที่เดินทางมาค้าขายในพื้นที่อำเภอเชียงคำ ก็จะมีพระสงฆ์ติดตามมาด้วยจึงได้สร้างสำนักสงฆ์ ต่อมาได้มีการบริจาคที่ดินจากพ่อหม่องโพชิอาริยา มาบริจาคที่ดินเพิ่มจึงได้มีการจัดสร้างวัดม่านหรือจองเหนือขึ้น ต่อมาก็ถูกปล่อยทิ้งร้างไว้ชั่วระยะเวลาหนึ่ง
ในปี พ.ศ.2467 พ่อเฒ่าจองนันตา (อู๋) รับเป็นเจ้าภาพสร้างวิหารหลังปัจจุบัน โดยว่าจ้างชาวพม่าจากจังหวัดลำปางมาออกแบบและทำการก่อสร้างเป็นวิหารไม้หลังสูงรูปทรงสถาปัตยกรรมแบบพม่าตอนล่างหลังคาจั่วยกเป็นช่อชั้นลดหลั่นกันสวยงาม มุงด้วยไม้แป้นเกล็ด ฟ้าเพดานประดับประดาด้วยกระจกสีลวดลายวิจิตรพิสดารไม่ซ้ำกัน
นอกจากนั้น ทางวัดยังได้มีพระพุทธรูป ที่ถือเป็นพระพุทธรูปที่ทรงคุณค่า โดยมีพระพุทธรูปปฏิมาประธานไม้สักทอง หรือประพุทธเมตตา มีพระเจ้าแสนแซ่เนื้อทองสำริด ปรางปรมาพิชัย มีพระพุทธรูปเกสรดอกไม้ ซึ่งได้รวบรวมไม้หอมนานาชนิดในเมืองตองกี ประเทศพม่า นำมาปั้นเป็นพระพุทธรูป และยังมีพระพุทธรูปหินขาวหรือหยกขาว ซึ่งมีคุณค่าอยู่ภายในบริเวณวิหารของวัด
นอกจากนั้น ยังได้จัดให้มีพิพิธภัณฑ์ที่เป็นวิถีชีวิตของชาวบ้านในชุมชนที่ได้รวบรวมข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ตลอดจนวิถีชีวิตของชาวบ้านในอดีตรวบรวมไว้เพื่อเป็นแหล่งศึกษาให้กับนักท่องเที่ยวและบุคคลทั่วไปให้สามารถเข้าเรียนรู้
สำหรับวัดนันตาราม ดังกล่าวนั้นถือว่าเป็นวัดที่เก่าแก่มีอายุ อายุร่วม 100 กว่าปี และได้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญประจำจังหวัดพะเยา ซึ่งมีนักท่องเที่ยวทั้งไทย และชาว ต่างชาติ เข้ามาเที่ยวชมสักการระและถ่ายรูปวิหารไม้สักที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดพะเยา
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี