‘แท็กซี่จิตอาสา’ร้องปอท.เอาผิดอดีตเพื่อนโพสต์ใส่ร้ายรีดเงิน

ความคืบหน้ากรณีมีผู้ใช้เฟซบุ๊ก ออกมาโพสต์ภาพและข้อความอ้างว่านายสุวรรณฉัตร พรหมชาติ แท็กซี่จิตอาสา รับเงินจากผู้ป่วยอ้างว่าเป็นการสมทบทุนในการทำบุญ ต่อมานายสุวรรณฉัตร พรหมชาติ ได้ไลฟ์สดชี้แจงผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวอธิบายเรื่องราวที่เกิดขึ้น (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ‘แท็กซี่จิตอาสา’ บุกกองปราบฯ แจ้งดำเนินคดีคนกล่าวหา ‘รีดเงิน’ ผู้ป่วย-คนพิการ)

ล่าสุดวันนี้(26 ธันวาคม 2562) นายสุวรรณฉัตร พรหมชาติ แท็กซี่จิตอาสา พร้อมด้วย พญ.จำเนียร พรหมชาติ ภรรยา เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.สุโกศล ทองแกมแก้ว รอง สว.(สอบสวน) กก.3 บก.ปอท. เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับผู้โพสต์ภาพและข้อความบิดเบือนกล่าวหาอย่างต่อเนื่องทำให้ได้รับความเสียหาย

นายสุวรรณฉัตร กล่าวว่า วันนี้มาแจ้งความเอาผิดคนให้ร้ายในทางที่เสื่อมเสีย โดยมีการโพสต์ข้อความกล่าวหาท้าทายตนอย่างต่อเนื่อง และนำภาพที่มีตนและรถแท็กซี่ไปโพสต์พร้อมข้อความ ทำให้คนที่ไม่ได้ติดตามอาจเข้าใจผิดคิดว่าตนเป็นคนไม่ดี ตนเป็นบุคคลสาธารณะ ทำความดีช่วยเหลือผู้ป่วยมา 24 ปี โดยไม่ทราบว่าเขามาให้ร้ายเพื่ออะไร ทำแล้วได้อะไร วันนี้ได้รวบรวมเอกสารการโพสต์ภาพและข้อความจำนวนหลายโพสต์มาเป็นพยานหลักฐานในการแจ้งความกับผู้โพสต์ข้อความบิดเบือนจากข้อเท็จจริง

“ผมยังช่วยเหลือคนป่วยอยู่ตลอด คนที่ไม่เกี่ยวข้องกับคนป่วยก็ยังโอนเงินมาช่วยเหลือผมให้ได้ทำความดีต่อ โดยที่ผมไม่เคยโพสต์ร้องขอ หรือโพสต์เปิดรับบริจาค มีแต่ผู้ใจดีติดต่อมาทางข้อความส่วนตัวเพื่อขอร่วมทำบุญด้วย ยืนยันว่าพร้อมให้ตรวจสอบเรื่องเงินที่ได้รับมา โดยสามารถเข้าไปดูได้ที่เฟซบุ๊กส่วนตัว ชื่อ สุวรรณฉัตร พรหมชาติ” นายสุวรรณฉัตร กล่าว

นายสุวรรณฉัตร ยังชี้แจงเรื่องราวต่างๆที่ถูกโพสต์กล่าวหา พร้อมทั้งชี้แจงในรายละเอียด เช่น เรื่องที่กล่าวหาว่าไปส่งผู้ป่วยที่ จ.อุบลราชธานี ไม่ใช่เรื่องจริง โดยตนได้ไปส่งผู้ป่วยที่ จ.อุดรธานี และกล่าวหาว่าเลือกรับเฉพาะเคสผู้ป่วยที่ได้เงิน นอกจากนี้ยังได้ชี้แจงเรื่องเงิน 4,000 บาทที่เก็บจากการไปส่งผู้ป่วยที่ จ.กาญจนบุรี อีกด้วย

“กมฺมุนา วตฺตตีโลโก สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ในเมื่อเจตนาที่จะให้ร้ายและใส่ร้ายผม โดยที่ผมไม่คิดจะทำร้ายคุณ ก็ต้องยืดอกรับแบบลูกผู้ชายในสิ่งที่คุณกล้าออกมายืนยันว่าผมเป็นคนเลว ผมเคยเป็นเพื่อนกับผู้โพสต์ข้อความดังกล่าว แต่เนื่องจากอุดมการณ์ไม่ตรงกันเลยถอนตัวออกจากกลุ่มมาประมาณ 7 ปี แล้ว” นายสุวรรณฉัตร กล่าว

ทั้งนี้ ทางพนักงานสอบสวนได้รับเรื่องไว้ตรวจสอบ พร้อมประสานให้ผู้เสียหายไปพบพนักงานสอบสวน สน.พญาไท เนื่องจากตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าเข้าข่ายในความผิดฐานหมิ่นประมาท