เปิดใจหนุ่มอุดรวัย 21 ปีสุดจะช้ำใจโดนหลอกให้ไปร่วมหลับนอนกับหญิงสาววการทางสมองก่อนโดนแม่ตบทรัพย์เรียกเงินถึง 250,000 บาท เผยจากอกผู้ชายเพิ่งเป็นงานพิธีหมั้นครั้งแรก สุดจะช้ำใจ เจ็บใจ ทั้งที่รักจริง เสียทั้งเงิน เสียทั้งเวลา ทั้งออกจากงาน วอน ตร.ตามล่าผู้ร่วมขบวนการแก๊งให้หมด
วันที่ 27 ธันวาคม 2562 จากกรณีแม่แท้ๆ พาลูกสาววัย 18 ปีสวยหน้าตาดีแต่ป่วยเป็นพิการทางสมองออทิสติกระดับ 4 นำรูปขึ้นโปรไฟล์ในแชทหาคู่ ก่อนจะร่วมแก๊งพาลูกสาวไปส่งให้หลับนอนบำเรอกามกับชายหนุ่ม หลังมีคนตกเป็นเหยื่อก็จะแต่งชุดข้าราชการตุลาการศาลไปกรรโชกทรัพย์ มีผู้เสียหายตกเป็นเหยื่อหลายราย โดย พ.ต.อ.วิธ มุทธสินธ์ ผกก.สส.ภ.จ.อุดรธานี พ.ต.ท.อรรคพล ยี่เกาะ สว.สส. ภ.จ.อุดรธานี และตำรวจชุดสืบสวน ก็ได้ติดตามจับกุมนางกัญญ์ณณัฎฐ์ เพชรฤาชารัตน์ หรือ "เป๊กกี้" อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 47 หมู่ 6 ต.นาดอกคำ อ.นาด้วง จ.เลย ตามหมายจับศาลจังหวัดอุดรธานี ที่ จ 296/2562 ลงวันที่ 29 พฤศจิกายน 2562 โดยกล่าวหา "กรรโชกทรัพย์ ไม่มีสิทธิ์สวมเครื่องแบบหรือประดับเครื่องหมายจองเจ้าพนักงาน กระทำการเช่นนั้นเพื่อให้บุคคลอื่นเชื่อว่าตนมีสิทธิ์" พร้อมชุดเครื่องแบบข้าราชการตุลาการศาล โดยจับกุมได้ที่คอนโดแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร
โดยตำรวจเผยพฤติกรรมสุดแสบของนางกัญญ์ณณัฎฐ์ เพชรฤาชารัตน์ หรือ "เป๊กกี้" ว่าจะร่วมกับพวกรวม 6 คน นำรูป น.ส.บี แม้จะป่วยพิการทางสมอง แต่ถือว่าเป็นหญิงสาวรูปร่างหน้าตาดีไปสมัครในแอพพิเคชั่น BADOO แชทกับเหยื่อที่เป็นผู้ชาย เมื่อเหยื่อตกหลุมการพูดคุยก็จะนำลูกสาวไปให้หลับนอนกับผู้ชาย เสร็จแล้วก็จะเรียกตบทรัพย์ โดยเดินทางไปถึงบ้านเหยื่อ โดยแก๊งนี้จะแต่งชุดข้าราชการ อ้างตัวเป็นข้าราชการครู มีสามีเป็นตำรวจ หรือใส่ชุดข้าราชการตุลาการศาลเพื่อไปข่มขู่เหยื่อและเรียกรับเงิน ครั้งละ 50,000-500,000 บาทมูลค่าความเสียหายประมาณ 1 ล้านบาทเศษ เงินที่ได้แม่ของ น.ส.บี ก็จะแบ่งกับคนในแก๊งและนำไปเล่นการพนันในฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน โดยมีผู้ชายตกเป็นเหยื่อแล้วหลายราย
เหยื่อรายล่าสุดคือ นายธนากร (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 21 ปี ชาว อ.หนองหาน จ.อุดรธานี และทำงานเป็นหนุ่มพนักงานห้างดังใน อ.หนองหาน โดยนายธนากร ขอนัดพบ น.ส.บี เมื่อปลายเดือน พ.ค.62 ที่ผ่านมาและแม่ของ น.ส.บี กับคนในแก๊งจะนำ น.ส.บี นั่งรถปิกอัพไปส่งที่หน้า รพ.หนองหาน เพื่อให้ไปร่วมหลับนอนกับนายธนากร ตื่นเช้าแม่ของ น.ส.บีและคนในแก๊งก็เข้าข่มขู่กรรโชกทรัพย์เงิน 2.5 แสนบาท และจัดพิธีหมั้น
เมื่องานสำเร็จก็จะนำเงินมาแบ่งกัน และกระทำเช่นนี้กับผู้ชายอีก 6 รายในพื้นที่ อุดรธานี ขอนแก่น สกลนคร หนองบัวลำภู ตำรวจจึงได้รวบรวมพยาน หลักฐาน ขออนุมัติหมายจับนางกัญญณณัฎฐ์ และนางยิ่งลักษณ์ อยู่อินทร์ ได้ผู้ต้องหาแล้ว 2 ราย ส่วนที่เหลืออีก 4 คนกำลังรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อออกหมายจับมาดำเนินคดีโดยเร็วเพราะถือเป็นภัยสังคมอีกรูปแบบหนึ่ง
ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบกับนายธนากร (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 21 ปีที่บ้านแห่งหนึ่งใน ต.พังงู อ.หนองหาน โดยที่บ้านวันนี้ทั้งยาย ป้าและพ่อของนายธนากรต่างพากันจับกลุ่มพูดคุยเรื่องที่เกิดขึ้นหลังรู้ว่าตำรวจจับกุมขบวนการนี้ได้ต่างพากันรู้สึกเจ็บใจกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นที่แม่แท้ๆ พาลูกสาวทำแบบนี้ พร้อมกับนำรูปถ่ายในงานหมั้นของหลานชายกับลูกสาวของ น.ส.กัญญณัฏฐ์ ที่บ้านใน อ.น้ำโสมให้ดู แต่ก็ดีใจที่ตำรวจจับกุมได้และกระชากหน้ากากของแม่แท้ๆ ที่ทำกับลูกได้ลงคอ
จากนั้น นายธนากร หรือ "แซ๊ค" เปิดเผยว่า จุดเริ่มต้นเรื่องนี้เนื่องจากตนได้ใช้โปรแกรมแชทหาคู่ในอินเตอร์เน็ตและรู้จักกับ น.ส.บี โดยการพูดคุยก็เหมือนน้องเขาคุยปกติ แต่มารู้ทีหลังว่าแม่เขาเป็นคนสร้างเรื่องและพูดคุยเองตอนแรกยังไม่รู้ว่าน้องเขาป่วยพิการทางสมอง หลังจากไปร่วมหลับนอนแล้ว เช้าวันต่อมา ก็มีผู้หญิงใส่ชุดข้าราชการประมาณ 3-4 คนมาที่บ้านของตนเองเลยซึ่งหนึ่งในนั้นบอกว่าแม่ของ น.ส.บี ทั้งป้าและยายก็ตกใจ เพราะเขามาแรงมากบอกว่า ตนเองไปร่วมหลับนอนกับลูกสาวเขาอายุเพียง 16 ปีต้องรับผิดชอบไม่งั้นสามีที่เป็นตำรวจจะเอาเรื่อง ทางญาติๆ ทั้งยายและป้าและพ่อก็เลยตัดสินใจขอพูดดีๆ และรับปากจะไปหมั้นและทำพิธีแต่งงานให้หลังจากน้องเขาจบการศึกษาแล้ว
โดยแม่เขาเรียกเงิน 300,000 บาททางยายและญาติๆ ของตนเองได้ต่อรองให้เหลือ 250,000 บาทวันที่ 4 มิถุนายน ได้ไปวางเงินมัดจำ 50,000 บาทและวันที่ 8 มิถุนายนก็จัดพิธีหมั้นและจ่ายเงินที่เหลือ 200,000 บาทมีพิธีผูกข้อต่อแขน มีญาติผู้ใหญ่ของตนไปหลายคนแต่ก็ผิดสังเกตที่บ้านเขาไม่มีญาติถึง 10 คนมาร่วมพิธีด้วย พอพิธีหมั้นเสร็จตนเองก็อยู่ที่บ้านเขา 2 วันเริ่มผิดสังเกตุหลายเรื่องจนมีคนข้างบ้านมาสะกิดบอกว่าตนโดนหลอกนะ เพราะมีผู้ชายเจอแบบนี้หลายรายจึงได้ออกอุบายบอกกับทางแม่ยายว่าจะกลับไปเอาใบขับขี่ที่บ้าน อ.หนองหาน จากนั้นก็ออกมาเลยและมารู้ความจริงจึงไปแจ้งความ จนตำรวจตามจับได้และมารู้ความจริงภายหลัง
นายธนากร เปิดเผยอีกว่า ตอนนี้รู้สึกเจ็บใจ เสียใจมาก ไม่เคยว่างานหมั้นครั้งแรกของตนเองต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ เพราะชีวิตตนเองไม่เคยผ่านงานหมั้นงานแต่งมาเลย ยอมรับว่าพร้อมรับผิดชอบน้องเขา แต่มาเรื่องแบบนี้คงไม่เอาอีกแล้ว รู้สึกเสียใจไม่คิดว่าจะโดนหลอก เสียทั้งเงิน เสียทั้งงานเพราะต้องลาออกจากงานด้วย ส่วนทางยาย ป้าและพ่อก็เสียใจเพราะเงิน 250,000 บาทต้องไปหยิบยืมจากญาติพี่น้องมาทั้งหมด ตอนนี้อยากได้เงินคืนและอยากให้ตร.ตามคนในขบวนการมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้หมด ไม่อยากให้ไปสร้างเรื่องแบบนี้ให้คนอื่นเป็นเหยื่ออีก
นางแปน ทับซ้าย อายุ 61 ปีป้าของนายธนากร บอกว่า ผู้หญิงที่แต่งชุดข้าราชการกับพวกเขามาถึงบ้านเลย บอกว่า หลานชายฉันไปนอนกับลูกสาวเขาที่อายุไม่ถึง 18 ปี มาแบบโวยวายลั่นหมู่บ้าน ตนเองก็บอกว่าใจเย็นๆ ค่อยๆ พูดกันดีๆ เขาก็บอกว่าแบบนี้ไม่ได้ฉันเป็นผู้อำนวยการโรงเรียนที่สว่างแดนดิน สามีเป็นตำรวจ หากสามีรู้เอาตายแน่ จะเรียกค่าเสียหาย 300,000 บาทเราก็บอกว่า หลานจะทำให้ถูกพิธีโดยจะไปทำพิธีหมั้นตามประเพณี เสียเงินไป 250,000 บาทเสียใจมาก
"หลานก็ต้องออกจากงานเพราะเขาบอกว่าให้ไปอยู่บ้านให้เงินเดือน 20,000 บาทและให้ดูสวนยางเกือบ 400 ไร่มารู้ทีหลังว่าโดนหลอกเจ็บใจมากอยากให้ตำรวจลากคอพวกนี้มาติดคุกให้หมด" ยายแปนป้าของนายธนากรพูดด้วยความเจ็บใจ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี