เปิดใจหนุ่มโรงงานหายจากกักตัวโควิด-19 ถูกบีบให้ออกจากงานร้องสื่อ เบื้องต้นประสานคณะทำงาน ผู้ช่วย รมต.ประจำกระทรวงแรงงาน เตรียมให้การช่วยเหลือ
วันนี้ (21 ก.ค.64) ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยังนายนพดล (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 37 ปี หนุ่มโรงงานเคราะห์ร้ายรายนี้ได้ความว่า เป็นพนักงานประจำโรงงานแห่งหนึ่งในนิคมอุตสาหกรรม WHA1 หรือ นิคมเหมราช บ่อวินเดิม จังหวัดขลบุรี เป็นผู้ที่อยู่ใกล้กลุ่มเสี่ยงผู้ติดเชื้อโควิค-19 เมื่อช่วงวันที่ 29 มิ.ย.ที่ผ่านมา
โดยหนุ่มคนนี้บอกว่า ตนมีอาการเจ็บคอคล้ายๆ กับเป็นไข้ และเพื่อความปลอดภัยกับเพื่อนร่วมงานตนจึงแจ้งความประสงค์กับเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลของบริษัทว่า ตนเองอาจเป็นกลุ่มเสี่ยงผู้ติดเชื้อ ทางฝ่ายบุคคลแจ้งให้กักตัว 14 วันและให้ไปตรวจ ตนเองได้ไปตรวจและได้กักตัวครบตามกำหนด ผลตรวจจากโรงพยาบาลระยองออกมาตนเองไม่ติดเชี้อแต่อย่างใด ผลเป็นลบ จึงส่งใบผลตรวจให้กับทางฝ่ายบุคคลโรงงานทราบ แต่ทางโรงงานต้องการใบรับรองแพทย์ซึ่งไม่ใช่ใบแบบนี้และต้องการให้ตนเองไปตรวจร่างกาย ซึ่งตนเองก็งงว่าตรวจแล้วผลก็ออกมาแล้วจะต้องตรวจอะไรอีก จนกระทั่งเมื่อวันที่ 20 ก.ค.ที่ผ่านมา โรงงานได้แจ้งตนว่าไม่ต้องมาทำงานแล้วจนกว่าจะได้ใบตรวจร่างกายมา ซึ่งตอนนี้เครียดมาก กักตัวเสร็จยังมาตกงานอีก
ในเบื้องต้นทางผู้สื่อข่าวได้ติดต่อประสานไปยังนายสถิตย์พงษ์ สุระสา คณะทำงานของนายสุรชัย ชัยตระกูลทอง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงแรงงาน นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้น ได้รับคำยืนยันว่า เจ้าของกิจการหรือบริษัทและโรงงานไม่สามารถกระทำได้ เพราะผิดกฎหมายคุ้มครองแรงงาน เนื่องจากการเจ็บป่วยโรคโควิด-19 ถือเป็นการเจ็บป่วยชนิดหนึ่ง ไม่แตกต่างจากการเจ็บป่วยในโรคอื่นๆ
พร้อมเตือนเจ้าของกิจการ บริษัท และโรงงาน อย่ากระทำผิดกฎหมาย เพราะมีโทษทั้งจำคุก 6 เดือน ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หากให้แรงงานทั้งพนักงานประจำหรือลูกจ้างรายวันออกจากงานโดยไม่มีเหตุอันควรและไม่จ่ายค่าชดเชย ขอประชาชนหรือผู้ต้องร่วมงานกับอดีตผู้ป่วยโรคโควิด-19 อย่ากังวลว่าจะติดโรคดังกล่าว เนื่องจากขณะนี้มีข้อมูลทางการแพทย์และแนวปฏิบัติว่าผู้ที่เคยรักษาตัวจากโรคโควิด-19 ที่พ้นระยะ 14 วันแล้วถือว่ามีความปลอดภัยสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ แต่ยังคงต้องยึดถือปฏิบัติตัวตามมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 ทั้งสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ กินร้อน ช้อนกลาง และใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา
สำหรับแรงงานที่มีข้อกังวลใจเกี่ยวกับการปฏิบัติงาน หรือผู้มีเบาะแส สามารถติดต่อได้ที่สายด่วนประกันสังคม หมายเลข 1506 กด 3 กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน หรือติดต่อที่สำนักงานสวัสดิการคุ้มครองแรงงานที่มีอยู่ทุกจังหวัดทั่วไทย เพื่อแจ้งข้อร้องเรียนที่เกิดจากการทำงานแต่ไม่เป็นธรรม โดยจะมีเจ้าหน้าที่เข้าไปติดตามให้การช่วยเหลือทุกกรณี อย่างไรก็ตามการจะเลิกจ้างแรงงาน ทำได้เพียง 6 กรณีตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน มาตรการ 199 6 ข้อ คือ ทุจริต หรือทำผิดอาญา, จงใจทำให้นายจ้างเสียหาย, ประมาทเลินเล่อทำให้นายจ้างเสียหายร้ายแรง, ฝ่าฝืน ข้อบังคับ - ระเบียบ อันชอบด้วยกฎหมาย, หยุดงาน 3 วันติดต่อกันโดยไม่มีเหตุอันควร และรับโทษจำคุกตามคำสั่งศาล
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี