ภาคตะวันออก ภาคที่ขึ้นชื่อว่าเป็น “สีสันสวรรค์นักกิน” เป็นพื้นที่ใกล้กรุงเทพฯ มีความโดดเด่นในเรื่องของอาหารทะเลและผลไม้ รวมถึงสมุนไพรพื้นถิ่นอันเป็นเอกลักษณ์ โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ภูมิภาคภาคตะวันออก จะพาทุกคนไปเปิดประสบการณ์ท่องเที่ยวผ่านเส้นทางอาหาร ภายใต้แนวคิด “สีสันสวรรค์นักกิน” พร้อมดื่มด่ำกับบรรยากาศและแหล่งท่องเที่ยว Grand Moment ของภาคตะวันออก สุดประทับใจ รับรองว่าถ้าใครได้มาสัมผัสจะติดใจจนอยากมาซ้ำแน่นอน

เริ่มต้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา ด้วยการทำกิจกรรมด้านสุขภาพกันที่ “แสนภูดาษ เฮลท์ แอนด์ เวลเนส คลับ” ศูนย์ดูแลสุขภาพที่ให้บริการแนวเวชศาสตร์ป้องกัน ผสมผสานการรักษาระหว่างศาสตร์ตะวันออก และศาสตร์ตะวันตกครบวงจร พร้อมกับทำกิจกรรมส่งเสริมบำบัด และฟื้นฟูสุขภาพกายและสุขภาพจิตใจให้สดชื่น เช่น สปาเท้า อบเกลือหิมาลายัน อาบป่า เรียกว่าเป็นจุดเช็กอินใหม่สำหรับสายรักสุขภาพที่น่าลอง จากนั้นไปชมแปลงผักสลัดออร์แกนิกและรับประทานอาหารกลางวันต่อกันที่ “กรีนวิลล์ ฟาร์มคาเฟ่” มีเมนูอร่อยเพื่อสุขภาพ เสิร์ฟจากฟาร์ม ภายใต้คอนเซ็ปต์ FARM to TABLE เช่น สเต็กหมูบาร์บีคิว สเต็กปลากะพงซอสเพสโต้ ข้าวอกไก่ซอสเทอริยากิ พาสต้าไวท์ซอสครีมเห็ดกุ้งเทมปุระ เสิร์ฟคู่เมนูสลัดผัก และเมนูสดชื่นอย่างน้ำผักปั่นซิกเนเจอร์

หลังจากอิ่มท้องแล้วไปอิ่มบุญกันต่อ กราบสักการะขอพร "พระพุทธปฐมบรมมหาอนันตบารมีศรีวิริยะ" ซึ่งประดิษฐานอยู่ที่ “วัดมงคลเทพ” พระพุทธปฐมองค์ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย จากนั้นไปสักการะหลวงพ่อโตที่ “วัดปากน้ำโจ้โล้” จุดเช็กอินที่ห้ามพลาดของเมืองแปดริ้ว โดดเด่นด้วยโบสถ์สีทองทั้งหลังงดงามตระการตา มีจุดชมทิวทัศน์สวยงามของแม่น้ำบางปะกง ดื่มด่ำกับ “Grand Moment ณ แม่น้ำบางปะกง” พาล่องเรือชมบรรยากาศยามเย็นและวิถีชีวิตริมสองฝั่งแม่น้ำบางปะกง บนเรือเสิร์ฟมะพร้าวน้ำหอม และขนมทาร์ตมะม่วงน้ำดอกไม้สีทองบางคล้า GI ของดี จ.ฉะเชิงเทรา ขึ้นฝั่งแวะชม “อุทยานพระพิฆเนศองค์ยืน” ตื่นตาตื่นใจกับองค์พระพิฆเนศเนื้อโลหะบรอนซ์นอก (สำริด) องค์ใหญ่ที่สุดในโลก สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองแปดริ้ว หมดวันแล้วก่อนเดินทางเข้าสู่ที่พักแวะรับประทานอาหารเย็นที่ “ร้านร่มไม้สายธาร” จัดเต็มกับเมนูอาหารพื้นบ้าน อย่าง ยำปลาดุกฟู ปลาทับทิมราดพริก ปูหลน ผัดผักรวมกุ้งสด ทอดมันปลากราย ต้มยำปลากะพง และตบท้ายด้วยผลไม้ฉ่ำๆ

ก่อนจะเริ่มเช้าวันใหม่ที่ “ชุมชนตะเคียนเตี้ย” อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ที่นี่มีกิจกรรมสนุกสนานมากมาย ทั้งทำผ้ามัดย้อมสีธรรมชาติจากเปลือกมะพร้าว เล่นกีฬาดิสก์กอล์ฟ หรือโยนจานร่อนในสวนมะพร้าวที่ “สวนฟ้าใสไอโกะ” และไปเวิร์กชอปเพ้นท์กะลามะพร้าว ทำพวงมโหตร พิมพ์กระเป๋าดอกไม้สดกันที่ “บ้านร้อยเสา” รับประทานอาหารพื้นบ้านจากเชฟชุมชน กลุ่มแม่บ้านใจดี พร้อมสาธิตทำเมนูจานเด็ดพื้นบ้านยอดนิยมของตะเคียนเตี้ย อย่าง แกงไก่กะลา ที่ใช้วัตถุดิบในชุมชนอย่างกะลาอ่อนของลูกมะพร้าวมาผัดกับเนื้อไก่และพริกแกง และลิ้มลองเมนูอื่นๆ ได้แก่ น้ำพริกกุ้งสดไข่เค็มกับผักต้ม ต้มหมูใบชะมวง ไข่เจียวใบกระเพรา 100 ปี ผัดบวบกุ้งสด ตบท้ายด้วยวุ้นมะพร้าวน้ำหอม เมื่อท้องอิ่มมาเดินเล่นชิลริมทะเล ถ่ายรูปเช็กอินกับวิวพระอาทิตย์ตกสวยๆที่หาดบางแสน พร้อมรับประทานอาหารเย็นที่ “ซีฟู้ดคลับ บางแสน” ในราคาหลักร้อยกับวิวหลักล้าน เมนูแนะนำ เช่น ต้มยำรวมทะเล ยำวุ้นเส้นรวมมิตรทะเล ปูก้อนผัดพริกเหลือง ก่อนเข้าที่พักแวะเดินเที่ยวแลนด์มาร์กคาเฟ่สไตล์ญี่ปุ่นสุดชิคที่ “บางแสนโทชิน” ได้ฟีลวาร์ปไปอยู่กลางกรุงโตเกียว มีตั้งแต่ร้านสตรีทฟู้ด จนถึงร้านอาหารระดับพรีเมียม มีจุดไฮไลต์ถ่ายรูปกับฝาท่อน้ำ ที่ทำลวดลายสัญลักษณ์ของบางแสนด้วย จบทริปของวันสุดฟิน 

ส่งท้ายทริปด้วยการเดินเที่ยวชมสถาปัตยกรรมโบราณสถานสมัยรัชกาลที่ 5 ณ “ตึกแดง” หรือ ตึกราชินี อาคารก่ออิฐถือปูน 2 ชั้นสีแดง มีลักษณะเด่นตรงที่ระเบียงรับลมทะเล ลักษณะเหมือนบ้านกงสุลอังกฤษ และโปรตุเกสในสมัยนั้น ถัดไปจะเจอกับ “ตึกขาว” หรือ พระตำหนักมหาราช อาคารก่ออิฐถือปูน 2 ชั้นสีขาว ผสมผสานสถาปัตยกรรมระหว่างไทย จีน และตะวันตก ดูคลาสสิก ทรงคุณค่า และสวยงามข้ามกาลเวลาจริงๆ บริเวณใกล้กันยังมี “ศาลเจ้าแม่หินเขา” ศาลจีนเก่าแก่ เงียบสงบ ที่สร้างเป็นสะพานสีสันสดใสยื่นออกไปในทะเลอ่างศิลา มื้อเที่ยงฝากท้องกันที่ร้าน “ยำวอนแซ่บ เจ๊ดาวซีฟู้ด สาขา 2” อยู่ติดริมทะเลหาดวอน รวมสารพัดของทะเลสดใหม่ไซส์จัมโบ้จากชาวประมงท้องถิ่น เมนูยอดฮิต ได้แก่ ยำรวมวอนแซ่บ กุ้งย่าง หมึกผัดน้ำดำ ปลาทูทอดราดพริก ต้มแซ่บกระดูกอ่อน รวมทะเลผัดผงกะหรี่ มาถึงทะเลทั้งที อย่าลืมแวะซื้อของฝากที่ “สะพานปลาอ่างศิลา” มีทั้งอาหารทะเลสด-แห้ง ครกหินอ่างศิลาของแท้ก็มีให้เลือกชอป พร้อมเดินรับลมชมวิว ถ่ายรูปเช็กอินกับประภาคารกลางสะพาน และปิดท้ายด้วย “Cafe Amazon สาขาสะพานชลมารควิถี” นั่งชิลจิบกาแฟ ชมวิวหลักล้าน กลางทะเลชลบุรี

จบทริปฉบับนักกิน 3 วัน 2 คืน ได้ไปเสพความสุขกับช่วงเวลาพิเศษของการเดินทาง สัมผัสเสน่ห์ของวัตถุดิบพื้นถิ่นที่ไม่ควรพลาด บอกเลยว่า ภาคตะวันออกยังมีอีกหลากหลายสีสัน ทั้ง 9 จังหวัด ที่ให้เราได้ Must do in the East ไปฟินกับสีสันสวรรค์นักกินกันที่ “ภาคตะวันออก” แล้วจะต้องประทับใจไม่รู้ลืม